อรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นรัฐมนตรี ขณะนี้ยังไม่ได้รับมอบหมายงาน แต่ที่ตั้งใจไว้คือ ต้องการแบ่งเบาภารกิจของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ได้มากที่สุด
อรรถกร เผยด้วยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ส่งรายชื่อแคนดิเดตรัฐมนตรีไป 3-4 รายชื่อ รวมถึงชื่อแคนดิเดตเก่า เพื่อให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจ หลังจากนั้น ก็ขึ้นกับนายกรัฐมนตรีที่กรุณาเลือกเข้ามาทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีเพื่อมาทำงานร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัส และเชื่อว่าตนเองและ ร.อ.ธรรมนัส จะทำงานร่วมกันได้อย่างดีเพื่อประโยชน์ของประชาชนต่อไป โดยเป้าหมายส่วนตัว จะผลักดันนโยบายต่างๆ ที่นายกรัฐมนตรีและ ร.อ.ธรรมนัส ได้มอบไว้ให้และจะทำให้บรรลุในทุกข้อ
ส่วนสาเหตุที่นายกรัฐมนตรีเลือกเข้ามา เพราะมีภาพคนรุ่นใหม่เป็นองค์ประกอบร่วมด้วยใช่หรือไม่นั้น อรรถกร ระบุว่า ตอบคำถามแทนนายกรัฐมนตรีไม่ได้ แต่ในเมื่อมีโอกาสมาทำงานตรงนี้ สะท้อนให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่มีโอกาสเข้ามาทำงาน และทราบมาว่า ครม.ชุดนี้ มีคนรุ่นใหม่หลายคนเข้ามา ก็เชื่อว่าจะร่วมมือกันทำงานมิติใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
ส่วนเมื่อถูกแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีแล้ว ยังมีแรงกระเพื่อมในพรรคพลังประชารัฐอยู่หรือไม่นั้น อรรถกร ระบุว่า ต้องขอบคุณพี่น้องเพื่อนในพรรคพลังประชารัฐ หลังจากมีข่าวได้รับการโปรดเกล้าฯ ก็มีคนเข้ามาแสดงความยินดี และจะตั้งใจทำงานในฐานะที่เป็นตัวแทนของพรรค และคนฉะเชิงเทรา ที่มีโอกาสเข้ามาทำงานฝ่ายบริหาร และให้สมกับที่นายกรัฐมนตรีให้ความไว้วางใจ
อรรถกร บอกด้วยว่า ขณะนี้ได้เตรียมตัวทำงาน และดีใจที่ได้รับมอบหมาย ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร ซึ่งตั้งแต่วันที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ส่งชื่อ และตั้งแต่ทราบว่าจะได้เป็นรัฐมนตรี ก็ได้มีการคิดล่วงหน้าและเตรียมความพร้อม ว่าเมื่อเรามีโอกาสได้เข้ามาทำงานในฐานะรัฐมนตรีช่วย ก็จะทำให้ดีที่สุด
เมื่อได้รับผิดชอบมาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งถือเป็นกระทรวงใหญ่ ซึ่งเป็นกระทรวงที่ดูแลเกษตรกรที่มีจำนวนมากในประเทศไทย แต่ยอมรับว่า ก็อาจรู้สึกกดดันบ้าง อีกทั้งตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ทำงานไว้ผลงานระดับชิ้นโบว์แดง แม้จะมีข้อจำกัดในเรื่องของงบประมาณบ้าง แต่ดัชนีชี้วัดต่างๆ ก็เป็นเชิงบวกอย่างที่ทุกคนเห็นอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า การที่พรรคพลังประชารัฐ ได้ดูกระทรวงเกษตรฯ ทั้งหมด จะส่งผลดีต่อการบริหารงานอย่างไร อรรถกร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เป็นอย่างไรนั้นไม่ทราบ แต่เบื้องต้นเท่าที่ได้คุยกับ ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งไม่ได้มีปัญหาอะไรกันอยู่แล้ว โดยตั้งใจที่จะทำงานเพื่อแบ่งเบาภารกิจของท่าน และพร้อมสนับสนุนในทุกๆ เรื่อง ที่จะสามารถแบ่งเบาได้ และในฐานะคนรุ่นใหม่ ก็จะทำตามนโยบาย รมว.เกษตรฯ ที่ได้วางนโยบายไว้ คือการใช้นวัตกรรมใหม่ๆ และใช้เทคโนโลยีใหม่ๆเข้าไปทำงาน
ดังนั้น การสื่อสารถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะเกษตรกรที่สูงอายุ โดยเฉพาะเมื่อโลกเปลี่ยนไป หากเราใช้รูปแบบเดิมๆ ผลลัพธ์อาจจะเป็นแบบเดิม หรือน้อยกว่าเดิมด้วยซ้ำ เนื่องจากทุกอย่างเปลี่ยนไป โดยเฉพาะภูมิอากาศ ซึ่งส่งกระทบกับผลผลิต จึงจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีใหม่ใหม่ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ก็มีหลายหน่วยงานและนักวิชาการที่มีความรู้ความสามารถจะเข้าไปช่วยตรงนี้ได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การเข้ามาทำงานตรงนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ฝากฝังอะไรหรือไม่ นายอรรถกร กล่าวว่า “ท่านบอกว่าอย่าให้เสียชื่อ ท่านมอบความไว้วางใจแล้ว ท่านให้โอกาสแล้วก็ต้องทำให้เต็มที่ครับ”
