ขุนพล ตปท. ใต้เงา ‘เพื่อไทย’ กู้หน้า ‘เศรษฐา’ โดน ‘ปานปรีย์’ ฉีกหน้า

30 เม.ย. 2567 - 10:46

  • จับตาขุนพล ‘ต่างประเทศ’ ขั้ว ‘เพื่อไทย’ กอบกู้ภาวะผู้นำ ‘เศรษฐา’ หลังเสียหน้า โดน ‘ปานปรีย์’ ประกาศลาออก รมว.ต่างประเทศ ชนิด ‘ฉีกหน้า’ โผ ‘ครม.เศรษฐา 1/1’ ออกทางการ ไม่ทันข้ามวัน

  • จับตา ‘มาริษ เสงี่ยมพงษ์’ ว่าที่ รมว.ต่างประเทศ สัมพันธ์แนบชิด ‘ทักษิณ’ ตั้งแต่ยุค ‘ทักษิณ’ เป็น รมว.ต่างประเทศ พรรคพลังธรรม ลากยาวถึง ‘รัฐบาลทักษิณ’

  • สะพัด ‘ทูตนอกแถว-รัศม์ ชาลีจันทร์' มานั่งที่ปรึกษา รมว.ต่างประเทศ ให้กับ ‘มาริษ’ พร้อมคีย์แมนต่างประเทศ ขั้วเพื่อไทย ‘นพดล ปัทมะ’ คืนฟอร์มหลัง ‘พ้นมลทินขายชาติ’ และการกลับมาของ ‘จักรภพ เพ็ญแข’

Pheuthai-Srettha-International-Policy-SPACEBAR-Hero.jpg

เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกฯ เสนอชื่อ ‘มาริษ เสงี่ยมพงษ์’ อดีตที่ปรึกษา รมว.ต่างประเทศ (ปานปรีย์) เป็น รมว.ต่างประเทศ คนใหม่ แทน ‘ปานปรีย์ พหิทธานุกร’ ที่ประกาศ ‘ลาออก’ ชนิดแผ่นดินไหวไปทั้ง ครม. หลังโผ ครม. ออกเป็นทางการยังไม่ทันข้ามวัน และสะเทือนไปทั้ง ก.ต่างประเทศ 

สำหรับ ‘มาริษ เสงี่ยมพงษ์’ เคยรับราชการ ก.ต่างประเทศ กรมองค์การระหว่างประเทศ กรมสารนิเทศ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เคยเป็นเอกอัครราชทูตหลายประเทศ เช่น เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำเครือรัฐออสเตรเลีย , เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสาธารณรัฐฟิจิ , เอกอัครราชทูตกรุงกาฐมาณฑุ สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล , เอกอัครราชทูตไทยประจำ กรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา ก่อนเกษียณอายุราชการ

อีกทั้ง ‘มาริษ’ ถูกมองว่ามีสัมพันธ์ใกล้ชิด ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ตั้งแต่ยุคพรรคพลังธรรม เมื่อครั้ง ‘ทักษิณ’ เป็น รมว.ต่างประเทศ ยุครัฐบาลชวน หลีกภัย จนมาถึงยุครัฐบาลทักษิณ ‘มาริษ’ เป็นข้าราชการที่ถูกส่งมาประจำทำเนียบรัฐบาล เรียกว่าสัมพันธ์ ‘มาริษ - จันทร์ส่องหล้า’ มีมายาวนาน ใต้เงา ‘กระทรวงบัวแก้ว’

ส่วนระดับ’กุนซือ’ ที่จะมาทำงานด้านต่างประเทศ มีชื่อ ‘รัศม์ ชาลีจันทร์’ หรือ ‘ทูตนอกแถว’ ที่อาจมาเป็น ที่ปรึกษา รมว.ต่างประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้ ‘รัศม์’ เป็นที่ปรึกษา รมช.ต่างประเทศ (จักรพงษ์ แสงมณี) ซึ่ง ‘รัศม์’ เติบโตมาในครอบครัว ‘ชนชั้นนำ-นักการทูต’ บุตรชาย ‘มนตรี ชาลีจันทร์’ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลานปู่ของพันเอกหลวงชาญสงคราม (กฤษณ์ ชาลีจันทร์) หนึ่งในคณะราษฎรสายทหารบก

ภายหลัง ‘รัศม์’ เรียบจบ ‘รั้วสิงห์ดำ’ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาก็สอบเป็นนักการทูตในปี 2527 ยุครัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เคยเป็นเอกอัครราชทูตไทยคนแรกของโมซัมบิก และเกษียณฯ ในตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทยประจำคาซัคสถาน

ภายหลังหลังเกษียณฯ ‘รัศม์’ ได้เปิดเพจ’ทูตนอกแถว The Alternative Ambassador’ ช่วงปี 2563 ที่วิพากษ์วิจารณ์การเมืองตรงไปตรงมา แหวกม่านประเพณี ‘นักการทูต’ จึงเป็นที่มาของชื่อเพจ ‘ทูตนอกแถว’ และร่วมสังเกตการณ์การชุมนุมทางการเมือง ช่วงปลายปี 2563 ด้วย

อีกบุคคลที่ถูกจับตา คือ ‘นพดล ปัทมะ’ ที่มีบทบาทงาน ‘ด้านต่างประเทศ’ ของพรรคเพื่อไทย เคยเป็น รมว.ต่างประเทศ รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ยุคพรรคพลังประชาชน ต่อมา ‘นพดล’ ลาออกจาก รมว.ต่างประเทศ  10 ก.ค. 2551 แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองจากการ คดีลงนาม ‘เขาพระวิหาร’ จนเมื่อปี 2558 ‘นพดล’พ้นมลทิน ‘ขายชาติ’ หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง มีมติ 6 ต่อ 3 พ้นผิดการลงนามแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาฯ ไม่กระทบสิทธิเขตแดน ล่าสุด ‘นพดล’ กลับสู่สนามการเมืองอีกครั้งเป็น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นั่งเก้าอี้ ประธาน กมธ.การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร

อีกหนึ่งบุคคลที่ถูกโฟกัส คือ ‘จักรภพ เพ็ญแข’ เคยเป็นเจ้าหน้าที่ทูต กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ก่อนจะลาออกมาทำงานด้าน ‘สื่อสารมวลชน’ และเข้าสู่เส้นทางการเมือง เคยเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร และเคยเป็น รมว.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยุครัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ก่อนจะลี้ภัยการเมืองอยู่ต่างประเทศ 15 ปี และกลับไทยมาในปีนี้

ซึ่งในขณะนี้ ‘จักรภพ’ ยังติดคดีครอบครองอาวุธ และล่าสุด ‘จักรภพ’ เป็นที่ปรึกษา กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.กลุ่มชาติพันธุ์ฯ จึงต้องจับตาบทบาท ‘จักรภพ’ ในด้านการต่างประเทศ จะมาช่วยงาน ‘รัฐบาลเพื่อไทย’ ในมิติใด

แต่สำหรับ ‘มาริต’ ต้องจับตาบทบาทในเก้าอี้ รมว.ต่างประเทศ สิ่งที่ต้องจับตาคือเตรียมรับ ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ กลับไทยเพราะก่อนหน้านี้ 2-3 เดือนก่อน เคยมีกระแสข่าวถึง ‘โมเดลกลับไทย’ ของ ‘ยิ่งลักษณ์’ จะใช้ ‘สถานทูตไทย’ ในต่างประเทศ ให้ ‘ยิ่งลักษณ์’ ใช้ ‘รายงานตัว’ ตามขั้นตอนกฎหมาย เพราะ ‘ยิ่งลักษณ์’ มีคดีจำนำข้าวที่ต้องโทษจำคุก 5 ปี ก่อนเดินเรื่องทำเอกสารต่างๆ จากนั้นก็จะเดินทางกลับไทย เมื่อขั้นตอนเอกสารเสร็จสิ้น

หลังจากนี้ ‘ก.ต่างประเทศ’ จะถูกจับตา ควบคู่ก้าวย่าง ‘ยิ่งลักษณ์’ ที่นับถอยหลังกลับไทย ตามที่ ‘ทักษิณ’ เคยเปรย ‘ยิ่งลักษณ์’ จะร่วมงานสงกรานต์ปีหน้า

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์