กระบวนการขนย้ายกากแคดเมียม จำนวน 99 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 141 ตัน จาก โรงงานบริษัท ล้อโลหะไทย เมททอล จำกัด เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ไปยัง โรงงานต้นทางที่ จ.ตาก ด้วยรถบรรทุก 6 คัน กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลัง คริษฐ์ ปานเนียม สส.ตาก พรรคก้าวไกล โพสต์ภาพการขนย้ายถุงบิ๊กแบ็คที่บรรจุกากแคดเมียม ในวันที่ 30 เม.ย. แล้วปรากฎว่า เกิดเหตุโซ่ขาด ระหว่างยกถุงบิ๊กแบ็คลงจากรถบรรทุก ทำให้สังคมเกิดการตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพในการขนย้ายกากแคดเมียม
ล่าสุดวันนี้ (1 พ.ค.) สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น หลังร่วมสังเกตการณ์และตรวจสอบข้อมูลการขนย้ายกากแคดเมียม
เนื่องจากแคดเมียมมีความอันตรายสูง หากเกิดข้อผิดพลาดระหว่างขนย้าย สารแคดเมียมมีโอกาสแพร่ใส่ผู้ปฏิบัติงานหรือประชาชนทั่วไปได้ เช่น กรณีที่เกิด ‘โซ่ขาดขณะยกถุงบิ๊กแบ็ค’ ทำให้ถุงตกลงมาแตกเกิดการฟุ้งกระจายของกากแคดเมียม พร้อมตั้งข้อสังเกต 5 ข้อ
-
เปลี่ยนรถบรรทุกกากแคดเมียมจากรถบรรทุกเปิดใช้เพียงผ้าใบคลุม ซึ่งบางคันยังคลุมไม่มิดชิด ทั้งๆที่เพิ่งขนไม่กี่คัน ถ้าต้องขนเพิ่มอีกนับร้อยเที่ยวจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้น การขนกากแคดเมียมจากนี้ ต้องใช้รถบรรทุกตู้ปิดทั้งหมด และต้องมีการติดป้ายระบุว่าเป็นวัสดุอันตราย ให้เห็นอย่างชัดเจน
-
ระหว่างการขนย้ายจากโรงงานขึ้นรถบรรทุก ต้องมีคณะกรรมการที่มีตัวแทนชุมชนและนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ร่วมตรวจสอบ ยืนยันความปลอดภัยก่อน จึงจะเคลื่อนย้ายได้
-
ในขบวนขนย้าย ต้องมีทีมป้องกันและแก้ปัญหา หากเกิดอุบัติเหตุระหว่างขนย้าย ได้ทันทีและมีประสิทธิภาพ
-
การยกถุงบิ๊กแบ็ค ต้องใช้วิธีที่ถูกหลัก ป้องกันการตกหล่นหรือเอียงเสียศูนย์ รวมทั้งอุปกรณ์ทุกส่วนต้องได้มาตรฐาน ผ่านการคำนวณทางวิศวกรรมแล้วว่าสามารถขนย้ายได้ จากภาพการขนย้ายล็อตแรก ที่ใช้รถแบคโฮขึ้นไปจอดบนเนินที่ทำขึ้นชั่วคราว เพื่อให้สูงพอจะยกบิ๊กแบ๊คออกจากรถบรรทุกได้ เป็นภาพที่ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นในการขนย้ายวัสดุอันตรายขนาดนี้ แสดงถึงความไม่พร้อมของอุปกรณ์ และความหละหลวมในการวางแผนอย่างชัดเจน
-
ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ออกมาแถลงข่าวถึงความพร้อมทั้งงบประมาณ อุปกรณ์ และวิธีการขนย้าย ก่อนจะขนย้ายล็อตต่อไป เพื่อให้สังคมได้รับทราบ และตรวจสอบ
นอกจากนี้ สุชัชวีร์ ยังข้อสังเกตว่า ก่อนการขนย้ายล็อตแรกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างดิบดีว่า มีความพร้อมในการขนย้าย แต่เมื่อลงมือจริงๆกับหละหลวมมาก จนน่าสงสัยว่าท่านรัฐมนตรีถูกข้าราชการวางยาเอาหรือเปล่า
โดยเฉพาะงบที่ใช้ในการขนย้าย ต้องชี้แจงออกมาให้ชัดเจน เพราะเท่าที่ดู ไม่เหมือนการขนย้ายกากอุตสาหกรรมอันตราย ที่เป็นปัญหาระดับชาติ แต่ ‘อุปกรณ์ที่นำมาใช้ เหมือนเครื่องมือก่อสร้างห้องแถวไม้ชั้นเดียว’ เท่านั้นเอง น่าอนาถมาก
