ฟิลิปปินส์แล้งจัดทำเขื่อนแห้งเหือดจนเมืองโบราณโผล่ขึ้นผิวน้ำ

2 พ.ค. 2567 - 04:28

  • ขณะนี้เกือบครึ่งหนึ่งของประเทศกำลังประสบกับภัยแล้งมีอุณหภูมิสูงถึงหลายพื้นที่ ซึ่งรุนแรงขึ้นจากปรากฏการณ์เอลนีโญ

  • เมืองโบราณดังกล่าวจมอยู่ใต้น้ำในช่วงทศวรรษ 1970 จากการสร้างอ่างเก็บน้ำ แต่เมืองนี้จะโผล่ขึ้นมาจากน้ำในโอกาสที่หาได้ยากมาก เว้นแต่สภาพอากาศจะแห้งแล้งและร้อนมาก

philippines-drought-dries-up-dam-to-reveal-centuries-old-town-SPACEBAR-Hero.jpg

ซากปรักหักพังของเมืองโบราณปันตาบังกัน (Pantabangan) อายุเกือบ 300 ปีโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากอุณหภูมิที่ร้อนจัดในฟิลิปปินส์ ส่งผลให้เขื่อนหลักแห้งไปบางส่วน 

เมืองโบราณดังกล่าวจมอยู่ใต้น้ำในช่วงทศวรรษ 1970 จากการสร้างอ่างเก็บน้ำ แต่เมืองนี้จะโผล่ขึ้นมาจากน้ำในโอกาสที่หาได้ยากมาก เว้นแต่สภาพอากาศจะแห้งแล้งและร้อนมาก 

“นี่เป็นเมืองที่อยู่เหนือผิวน้ำได้ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่มีการสร้างเขื่อน” มาร์ลอน ปาลาดิน วิศวกรหน่วยงานของรัฐที่ดูแลเขื่อนของประเทศบอกกับสำนักข่าว AFP

philippines-drought-dries-up-dam-to-reveal-centuries-old-town-SPACEBAR-Photo01.jpg

ความร้อนจัดได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้คนนับล้าน เนื่องจากโรงเรียนปิดทำการหลายวัน และหลายบริษัทอนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน 

“อากาศอาจจะร้อนขึ้นเล็กน้อยในอีกไม่กี่วันข้างหน้า…ผลกระทบโดยทั่วไปของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อฟิลิปปินส์คืออุณหภูมิที่อุ่นขึ้น ความร้อนที่เรากำลังเผชิญอยู่นั้นอาจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีกไม่กี่วันข้างหน้า” เบนิสัน เอสตาเรจา นักอุตุนิยมวิทยาประจำสำนักงานอุตุนิยมวิทยาปากาซาบอกกับสำนักข่าว BBC News 

ขณะนี้เกือบครึ่งหนึ่งของประเทศกำลังประสบกับภัยแล้ง โดยมีอุณหภูมิสูงหลายพื้นที่ 

ฟิลิปปินส์อยู่ในช่วงกลางฤดูร้อนและแห้งแล้ง ซึ่งรุนแรงขึ้นจากปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Nino / โซนเอเชียออสเตรเลียแล้งจัด แต่โซนอเมริกาใต้ฝนตกหนัก) อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเสี่ยงมากที่สุดในโลกจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในฤดูฝนอาจก่อให้เกิดพายุขนาดมหึมา อย่างที่พายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน (Super Typhoon Haiyan) เคยมาเยือนในปี 2013 นับเป็นหนึ่งในพายุที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ 

“เราเห็นแล้วว่าระดับเขื่อนของเราจะลดลง รวมถึงในเมืองปันตาบังกัน และพื้นที่อื่นๆ” เอสตาเรจากล่าว ขณะที่ข้อมูลของทางการระบุว่าระดับน้ำที่นั่นลดลงเกือบ 50 เมตร จากระดับสูงสุดปกติที่ 221 เมตร

philippines-drought-dries-up-dam-to-reveal-centuries-old-town-SPACEBAR-Photo02.jpg

“ซากปรักหักพังเริ่มปรากฏขึ้นอีกครั้งในเดือนมีนาคม เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวแทบไม่มีฝนตกเลย” ปาลาดินบอกกับ AFP การโผล่ขึ้นมาอีกครั้งของซากปรักหักพังได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มายังเมืองนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมะนิลาไปทางเหนือราว 202 กม.  

นอกเหนือจากฟิลิปปินส์ที่เผชิญกับอากาศร้อนจัดแบบนี้แล้ว บังกลาเทศก็ประกาศการระงับชั้นเรียนทั่วประเทศ ส่วนในประเทศไทย มีผู้เสียชีวิตจากโรคลมแดดแล้ว 30 รายระหว่างเดือนมกราคมถึง 17 เมษายนปีนี้ เทียบกับ 37 รายตลอดปี 2023 ขณะที่ชายแดนเมียนมามีอุณหภูมิพุ่งทะลุ 45 องศาฯ ไปแล้ว

Photo by JAM STA ROSA / AFP

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์