นิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เผย บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจไปยังสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จตามแผนที่วางไว้ โดยได้จัดตั้งบริษัทย่อย BCPG USA Inc และร่วมทุนกับบริษัท Advanced Power ในประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในรัฐโอไฮโอ ซึ่งจำหน่ายไฟฟ้าเข้าสู่ตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรี PJM ตลาดซื้อขายไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ และครอบคลุมการขายไฟฟ้ากว่า 13 รัฐ ในสหรัฐอเมริกา โดยการลงทุนครั้งนี้ บริษัทฯ ใช้เงินกว่า 115 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,972 ล้านบาท เพื่อลงทุนในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 151 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา BCPG USA Inc ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นเพื่อเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า จำนวน 2 โครงการ โดยมีรายละเอียดดังนี้
โดยโครงการทั้งสองเป็นโครงการที่มีต้นทุนค่าเชื้อเพลิงต่ำ เนื่องจากอยู่ใกล้แหล่งผลิต Shale Gas อีกทั้งมีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าสูงและมีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำ ทำให้มีความสามารถในการแข่งขันที่ดีในการประมูลราคาขายไฟฟ้าในตลาดไฟฟ้าเสรี PJM ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในสหรัฐอเมริกาได้
โดยคาดว่าจะขายไฟได้ประมาณร้อยละ 90 ของกำลังการผลิต และที่สำคัญเป็นโรงไฟฟ้าที่สามารถสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ โดยคาดว่าการลงทุนดังกล่าวจะทำให้ บีซีพีจี รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการถือหุ้นภายในไตรมาสแรก ของปี 2566
สำหรับ Advanced Power เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนา และบริหารโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติและพลังงานทดแทนในหลายรูปแบบในสหรัฐอเมริกา มีประสบการณ์ในการพัฒนาโรงไฟฟ้ากว่า 16,000 เมกะวัตต์ และมีทรัพย์สินอยู่ภายใต้การบริหารกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ Portfolio ของบีซีพีจีมีความสมดุลทั้งในด้านเทคโนโลยี และด้านภูมิศาสตร์ อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจโครงการโรงไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาได้ในอนาคต
“บีซีพีจี ยังคงมีความมุ่งมั่นในการขยายการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด เพื่อตอบสนองความต้องการการใช้ไฟฟ้าของประชาชนอย่างเพียงพอ รองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ช่วยรักษาสภาพแวดล้อม และสร้างความยั่งยืนให้กับโลกของเรา” นิวัติ กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา BCPG USA Inc ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นเพื่อเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า จำนวน 2 โครงการ โดยมีรายละเอียดดังนี้
- โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Carroll County Energy LLC (CCE) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 700 เมกะวัตต์ ผ่านการเข้าซื้อหุ้นร้อยละ 49.00 ของบริษัท AP-BCPG CCE Partners LLC ซึ่งจะทำให้บีซีพีจีถือหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้า CCE ทางอ้อม ในสัดส่วนร้อยละ 8.88 คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้นของบีซีพีจีเท่ากับ 61 เมกะวัตต์
- โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ South Field Energy LLC (SFE) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 1,182 เมกะวัตต์ ผ่านการเข้าซื้อหุ้นร้อยละ 49.00 ของ AP-BCPG SFE Partners LLC ซึ่งจะทำให้บีซีพีจีถือหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้า SFE ทางอ้อมในสัดส่วนร้อยละ 7.78 คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้นของบีซีพีจีเท่ากับ 90 เมกะวัตต์
โดยโครงการทั้งสองเป็นโครงการที่มีต้นทุนค่าเชื้อเพลิงต่ำ เนื่องจากอยู่ใกล้แหล่งผลิต Shale Gas อีกทั้งมีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าสูงและมีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำ ทำให้มีความสามารถในการแข่งขันที่ดีในการประมูลราคาขายไฟฟ้าในตลาดไฟฟ้าเสรี PJM ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในสหรัฐอเมริกาได้
โดยคาดว่าจะขายไฟได้ประมาณร้อยละ 90 ของกำลังการผลิต และที่สำคัญเป็นโรงไฟฟ้าที่สามารถสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ โดยคาดว่าการลงทุนดังกล่าวจะทำให้ บีซีพีจี รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการถือหุ้นภายในไตรมาสแรก ของปี 2566
สำหรับ Advanced Power เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนา และบริหารโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติและพลังงานทดแทนในหลายรูปแบบในสหรัฐอเมริกา มีประสบการณ์ในการพัฒนาโรงไฟฟ้ากว่า 16,000 เมกะวัตต์ และมีทรัพย์สินอยู่ภายใต้การบริหารกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ Portfolio ของบีซีพีจีมีความสมดุลทั้งในด้านเทคโนโลยี และด้านภูมิศาสตร์ อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจโครงการโรงไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาได้ในอนาคต
“บีซีพีจี ยังคงมีความมุ่งมั่นในการขยายการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด เพื่อตอบสนองความต้องการการใช้ไฟฟ้าของประชาชนอย่างเพียงพอ รองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ช่วยรักษาสภาพแวดล้อม และสร้างความยั่งยืนให้กับโลกของเรา” นิวัติ กล่าว