‘กรุงศรี ออโต้’ แนะข้อควรคิด ‘ก่อนซื้อรถ EV’ มีอะไรบ้าง?

14 มกราคม 2566 - 05:57

KA-Electric-Vehicle-EV-buy-car-3-choices-SPACEBAR-Thumbnail
  • กรุงศรี ออโต้ ช่วยชี้ข้อสังเกต รถยนต์ EV เทรนด์ใหม่ที่มาแรง แต่ยังมี ‘ข้อควรคิด’ ก่อนซื้อ

  • ชี้ช่อง 3 ด้านการตรวจสอบ หวังเป็นส่วนหนึ่งช่วยตัดสินใจ และวางแผนง่ายขึ้น

‘กรุงศรี ออโต้’ ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ชี้ กระแส และการรณรงค์ใช้รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) ยังคงเป็นกระแสแรงข้ามปี ทั้งในด้านยอดขายที่ได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการอุดหนุนด้านภาษี และความคึกคักจากการเข้ามารุกตลาดไทยของแบรนด์ระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) คาดการณ์ยอดจดทะเบียนใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ในปีนี้จะอยู่ที่ระหว่าง 25,000-35,000 คัน ซึ่งเป็นการเติบโตกว่า 2 เท่าจากปี 2565 ที่ผ่านมา  

ดังนั้น เพื่อช่วยให้ผู้ซื้ออีวีมือใหม่ตัดสินใจเลือกซื้อและวางแผนการเงินได้อย่างมั่นใจ รวมทั้งมีประสบการณ์การใช้รถที่ดี กรุงศรีออโต้ จึงมีข้อแนะนำ 3 เรื่องที่ควรพิจารณาก่อนซื้อรถอีวี ดังนี้
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2o2quesRtUsysFPbdPCJxp/92e28eb7bfe85cabb4bc445e4cef3559/KA-Electric-Vehicle-EV-buy-car-3-choices-SPACEBAR-Photo02
Photo: กรุงศรี ออโต้
1. เลือกแบรนด์และรุ่นที่เหมาะกับตนเอง  

เมื่อพูดถึงตัวเลือกรถอีวี หลายคนอาจนึกถึงแบรนด์ใหม่ๆ ที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดในไทย แต่ปัจจุบันรถอีวีมีให้เลือกหลากหลาย แบรนด์ดังที่เราคุ้นเคยและแบรนด์ ทางเลือกต่างก็ทยอยเปิดตัวโมเดลใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมแล้วถึงกว่า 20 แบรนด์รถยนต์ และ 50 แบรนด์รถจักรยานยนต์ ผู้ซื้อรถอีวีจึงสามารถเลือกแบรนด์และรุ่นที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และกำลังซื้อของตนเอง ในขณะที่ผู้ให้บริการสินเชื่อยานยนต์ก็ให้บริการสินเชื่ออีวีที่ครอบคลุมทุกประเภทรถ ผู้ที่ต้องการจะซื้อรถ จึงไม่ต้องกังวลในการขออนุมัติสินเชื่อ 

2. เช็กความคุ้มครองประกันภัย  

หนึ่งประเด็นเกี่ยวกับอีวี ที่อาจยังคาใจหลายคน คือ ประกันภัยรถอีวีแตกต่างกับประกันภัยรถทั่วไปอย่างไร? 

อันที่จริงแล้ว ประกันภัยรถที่เราชำระเบี้ยทุกปีนั้น คือ ประกันอุบัติเหตุ ซึ่งให้ความคุ้มครองรถทุกประเภทเหมือนกันใน 3 ส่วน ได้แก่ บุคคลภายนอก บุคคลในรถ และความเสียหาย/สูญหาย/ไฟไหม้ของตัวรถยนต์ที่เกิดจากอุบัติเหตุ  

ในส่วนของแบตเตอรี่ของรถอีวี ซึ่งเทียบได้กับเครื่องยนต์ของรถสันดาปภายใน จะเป็นการรับประกันจากผู้ผลิต ซึ่งแตกต่างกันไปตามแต่ละแบรนด์และโมเดล ผู้ซื้อรถอีวีจึงควรตรวจสอบความคุ้มครองอย่างถี่ถ้วน เพื่อวางแผนค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมรถที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต  

โดยหากต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติม ก็สามารถเลือกซื้อประกันคุ้มครองอะไหล่ (Extended Warranty) ได้เช่นกัน 

3. หาตัวช่วยเพิ่มความอุ่นใจ  

หากพูดถึงความอุ่นใจในการใช้รถ โดยเฉพาะการเดินทางไกลบนเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย หลายคนอาจนึกถึงบริการช่วยเหลือรถฉุกเฉิน (Roadside Assistance) แต่ในกรณีของรถอีวี ผู้ใช้มือใหม่มักกังวลเรื่อง ‘การชาร์จไฟฟ้า’ 

ดังนั้น การหาข้อมูลเพื่อวางแผนการเดินทางจึงเป็นเรื่องจำเป็น ปัจจุบัน ผู้ให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ได้พัฒนาแอปพลิเคชันโดยมีฟีเจอร์การค้นหาสถานีชาร์จเข้ามาแล้ว ในส่วนของผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน GO by Krungsri Auto ก็สามารถใช้ฟีเจอร์ ‘สถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV Station)’ เพื่อตรวจสอบตำแหน่งที่ตั้งของสถานีชาร์จ สถานะพร้อมใช้งาน และประเภทเครื่องชาร์จของแต่ละสถานีได้แบบเรียลไทม์ได้เช่นกัน 

การซื้อรถหนึ่งคัน ไม่ว่าจะเป็นรถประเภทใด ก็ถือเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง ดังนั้น ผู้ซื้อจึงควรจึงควรปรึกษาเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำแนะนำด้านการเงินในเชิงลึก เพื่อให้สามารถผ่อนรถได้อย่างสบายใจ และมีประสบการณ์การใช้รถที่ดีได้ในทุกๆ วัน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์