ผบ.กองเรือยุทธการ ยันเสื้อชูชีพ-ห่วงยาง ร.ล.สุโขทัย มีครบ แต่เหตุฉุกละหุก ไม่เป็นตามแผน

20 ธันวาคม 2565 - 07:10

FSG442-Sukhothai-Capsize-Fleet-Navy-SPACEBAR-Thumbnail
  • ผบ.กองเรือยุทธการ ขอพึ่งบารมี ‘เสด็จเตี่ย’ ให้พบ 30 ทหารเรือ ก่อนพระอาทิตย์ตกวันนี้ ปูพรมค้นหาทางทะเล-อากาศ-ชายฝั่ง

  • ย้ำปริมาณคน ไม่ใช่ปัจจัยทำเรืออับปาง ชี้ทะเลคลั่ง สาเหตุหลัก ย้ำยิ่งอากาศเปรปรวน ทหารเรือต้องออกลาดตระเวณ ช่วยผู้ประสบภัย ยืนยันเสื้อชูชีพ-ห่วงยางมีครบ แต่เหตุฉุกละหุก ไม่เป็นตามแผน

พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ  กล่าวถึง ความคืบหน้าการค้นหากำลังพล 30 นายที่สูญหาย จากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปางจมใต้ทะเลว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ กองทัพเรือระดมสรรพกำลังทั้งคน ยุทโปกรณ์ เรือ เฮลิคอปเตอร์และในส่วนที่กองทัพอากาศสนับสนุน 

มีทั้ง เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงนเรศวร เรือกลวงกระบุรี เรือภูมิพล  ถือเป็นเรือใหญ่ที่มีศักยภาพมหาศาล รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ค้นหา 2 ลำ และเครื่องบินค้นหาอีก 2 ลำ ส่วน กองทัพอากาศ ส่ง เฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินมาช่วยอย่างละ 1 ลำ บินลาดตระเวณ และใช้กำลังพล ปูพรหมเดินเท้าค้นหาตามหายหาด ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 18.00 น. ก่อนพระอาทิตย์ตก ขอบารมีเสด็จเตี่ย คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้เจอกำลังพลทุกนายด้วยความปลอดภัย ซึ่งพ่อแม้ของกำลังพลผู้สูญหาย รอด้วยความหวัง 

พล.ร.อ.อะดุง ชี้แจงอีกว่า เรือหลวงสุโขทัย สามารถรับน้ำหนักจำนวนกำลังพลกว่า 106 ได้แน่นอน และ ปริมาณคนไม่มีผลอะไรเลยที่จะทำให้เรือล่ม เพราะบนเรือมีปืนใหญ่หนักเป็นตันอยู่ด้วย ดังนั้นจึงไม่มีผลอะไรเลย หากจะมีคนมาเพิ่มบนเรือหลวงสุโขทัยอีก 50 คน 

พล.ร.อ.อะดุง กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้เรืออับปางและจมใต้ทะเล มาจากสภาพอากาศแปรปรวน เพราะอยู่มา 10 ปี ยังไม่เคยเจอทะเลคลั่งเหมือนคืนที่เกิดเหตุ น่ากลัวมาก  อย่างที่เราเห็นกันในคลิป หัวเรือจมลงไปจนทำให้ท้ายเรือยกขึ้นสูงแบบเดียวกับภาพยนต์ไททานิค 

“นี่คือสิ่งที่ทหารเรือต้องเจอในห้วงออกไปลาดตระเวน ต้องต่อสู้กับสภาพอากาศก่อนจะนำเรือกลับเข้าฝั่งได้ ถือเป็นเรื่องปกติที่ทหารเรือต้องพบเจอกับความแปรปรวนของอากาศ ซึ่งบางคนก็บอกว่าก็พยากรณ์อากาศได้ แล้วทำไมถึงยังออกเรือ ก็ต้องตอบตรงๆ ว่า เรามีเรือรบต้องออกไปช่วยชาวประมง ที่ประสบอุบัติเหตุ เรือล่ม มีคนลอยคอในทะเล ซึ่งเป็นภารกิจของกองทัพเรือที่ต้องออกไป ยิ่งสภาพแปรป่วน ยิ่งต้องออกไปลาดตระเวณ เป็นภารกิจ ต้องช่วยผู้ประสบภัยทันท่วงที และเราก็เจอเสียเอง” 

พล.ร.อะดุง ยังกล่าวต่อว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาจะเห็นว่าสภาพอากาศแปรปรวน เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว มีการเปลี่ยนทางสภาพอากาศ ทำให้ลมตะวันออกเฉียงเหนือเปลี่ยนเกือบถึงขั้นมรสุม มีลมแรงลงที่อ่าวไทย ในคืนวันเดียวกันนั้น ยังมีเรือสินค้าขนาดใหญ่ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้น จ.สงขลา เกิดกรณีเดียวกับเรือหลวงสุโขทัย 

เมื่อถามว่า เสื้อชูชีพ ไม่เพียงพอต่อจำนวนคนบนเรือ พล.ร.อ.อะดุง กล่าวว่า ยืนยันว่า มีครบ เสื้อชูชีพมี 2 แบบ คือ แบบเสื้อ และ แบบห่วงยาง ซึ่งเป็นอุปกรณ์เซฟการ์ด แต่เมื่อเรือเผชิญกับคลื่นลมแรง อาจมีการกระแทกในจังหวะที่ เรือหลวงสุโขทัย ดิ่งตัวสูงตามแรงคลื่น ลงตกลงมากระแทกผิวน้ำอีกที อาจทำให้เสื้อชูชีพหรือห่วงยาง หลุดได้ มันเป็นสถานการณ์ที่ฉุกละหุก จากที่เคยเตรียมการกันไว้ ว่าแต่ละคนมีหน้าที่อะไร หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ก็จะไม่เป็นไปตามแผนที่ซ้อมกันไว้ 

พล.ร.อ.อะดุง ยังเปิดเผยอีกว่า ตั้งแต่เหตุได้พูดคุยกับ พล.ร.อ.พลวัฒน์ สิโรดม อดีตรองปลัดกลาโหมและผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ หลังลูกชาย น.ต.พลรัตน์ สิโรดม ตำแหน่งต้นเรือ สูญหายเช่นเดียวกันว่า ท่านเป็นห่วงลูกชายมาก และท่านไม่แทรกแซงการปฏิบัติงาน เพราะท่านรู้เรามีงานมาก ท่านยังบอกให้ทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งยืนยันเราทำเต็มที่เพื่อค้นหากำลังพลทั้ง 30 คน ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดก็ตาม เพราะทุกคนคือลูกเสด็จเตี่ยเหมือนกัน 

ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า กองทัพเรือได้วางแผนการค้นหากำลังพลทั้ง 30 นาย โดยส่งเรือลงไปและกระจายกำลังค้นหาทุกพื้นที่ทั้งทางน้ำ ทางอากาศ และ ชายหาด 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์