28 พฤษภาคม 2566 รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (รองโฆษกรัฐบาล) เชิญชวนประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มวัยเจริญพันธุ์ใช้สิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ ‘บัตรทอง 30 บาท’ ภายใต้บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค รับบริการคุมกำเนิดครอบคลุม ทั้งบริการใส่ห่วงอนามัย ยาฝังคุมกำเนิด ฉีดยาคุมกำเนิด และยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน เพื่อป้องกันปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ในกลุ่มวัยเจริญพันธุ์ และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
โดยผู้รับบริการจะได้รับยาเม็ดคุมกำเนิดไม่เกิน 3 แผงต่อครั้ง และคนละไม่เกิน 13 แผงต่อปี ภายใต้โครงการ ‘เลิฟปัง รักปลอดภัย แก้ปัญหาท้องไม่พร้อม’ แจกยาคุมกำเนิด-ถุงยางอนามัย โดยขั้นตอนรับบริการยาเม็ดคุมกำเนิด ผู้ใช้สิทธิบัตรทองดำเนินการได้ 2 วิธี ดังนี้
1.รับบริการผ่านสมาร์ทโฟน
ในส่วนของพื้นที่กรุงเทพมหานคร ผู้ใช้สิทธิบัตรทองสามารถดูรายการบริการได้ที่แอปพลิเคชันเป๋าตัง เลือกกระเป๋าสุขภาพ และเข้าไปจองสิทธิเพื่อรับบริการที่หน่วยบริการได้ที่เมนูสิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค เมื่อทำการจองนัดหมายแล้วก็ไปใช้บริการตามวันและเวลาได้
โดยผู้รับบริการจะได้รับยาเม็ดคุมกำเนิดไม่เกิน 3 แผงต่อครั้ง และคนละไม่เกิน 13 แผงต่อปี ภายใต้โครงการ ‘เลิฟปัง รักปลอดภัย แก้ปัญหาท้องไม่พร้อม’ แจกยาคุมกำเนิด-ถุงยางอนามัย โดยขั้นตอนรับบริการยาเม็ดคุมกำเนิด ผู้ใช้สิทธิบัตรทองดำเนินการได้ 2 วิธี ดังนี้
1.รับบริการผ่านสมาร์ทโฟน
- เข้าแอปฯ เป๋าตัง ไปที่เมนูกระเป๋าสุขภาพ เลือก ‘สิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค’
- ผู้หญิง 15-59 ปี จะแสดงสิทธิ ‘ยาเม็ดคุมกำเนิด’
- ค้นหาหน่วยบริการ และทำการจองสิทธิ
- เดินทางไปรับยาคุมกำเนิดภายในวันที่จองสิทธิ ตามเวลาทำการของหน่วยบริการ
- หน่วยบริการตรวจสอบสิทธิ และบันทึกการรับบริการ
- เข้ารับบริการได้ที่หน่วยบริการที่เข้าร่วม เช่น ร้านยา คลินิกเวชกรรม คลินิกการพยาบาลฯ รพ.สต. รพ.ชุมชน ศูนย์บริการสาธารณสุข คลินิกชุมชนอบอุ่น เป็นต้น หรือที่สถานพยาบาลประจำตัวของท่าน
- แสดงบัตรประชาชน ยืนยันตัวตนเพื่อรับบริการ
- หน่วยบริการตรวจสอบสิทธิ และบันทึกการรับบริการ
ในส่วนของพื้นที่กรุงเทพมหานคร ผู้ใช้สิทธิบัตรทองสามารถดูรายการบริการได้ที่แอปพลิเคชันเป๋าตัง เลือกกระเป๋าสุขภาพ และเข้าไปจองสิทธิเพื่อรับบริการที่หน่วยบริการได้ที่เมนูสิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค เมื่อทำการจองนัดหมายแล้วก็ไปใช้บริการตามวันและเวลาได้