นลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผย (17 กันยายน 2566) ถึงกรณีที่สื่อมวลชนบางสำนักนำเสนอข่าวตนเองติดบัญชีดำของสหรัฐฯ ตั้งแต่สมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และแนะให้ถอนตัวจากตำแหน่งเพราะไม่สง่างาม
นลินี ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวเป็นข้อมูลเก่าที่เกิดความเข้าใจผิดกันตั้งแต่เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว และได้เคยชี้แจงไปแล้วว่า เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการเงินและทรัพย์สิน ซึ่งต่อมาทางสำนักงานการควบคุมทรัพย์สินฯ สหรัฐฯ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด และมีหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการว่าได้ถอนชื่อตนเองออกแล้ว ดังนั้นหากไม่ถูกต้องจริงทางการสหรัฐฯ คงไม่ออกเอกสารรับรองให้ ขณะเดียวกันทุกคนยังสามารถตรวจสอบข้อมูลได้จากเว็บไซต์ทางการของสหรัฐฯ อีกด้วย
นลินี กล่าวต่อว่า ตนเองมีวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐฯ และยังได้รับเชิญให้ไปร่วมงานวันชาติสหรัฐฯ ที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยจัดขึ้นเป็นประจำ รวมทั้งในปีนี้ด้วย ดังนั้นจึงอยากวิงวอนสื่อมวลชนและสังคมให้เข้าใจความจริง โดยเชื่อว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบข้อมูลจนเชื่อมั่นแล้วจึงได้แต่งตั้งตนเอง
“ทั้งนี้ดิฉันขอใช้ความรู้และประสบการณ์ทั้งในตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้แทนการค้าไทย 2 สมัย รวมทั้งเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยมากที่สุด” นลินี กล่าว
พร้อมกันนี้ยังย้ำด้วยว่า แม้ตนเองจะมีนามสกุล ‘ทวีสิน’ พ้องกับนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ได้เป็นญาติกันและไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัวมาก่อน โดยที่ผ่านมาได้พบกับนายกฯ ตัวเป็นๆ ครั้งแรกในช่วงหาเสียงเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่สนามกีฬาเมืองทองธานี
นลินี ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวเป็นข้อมูลเก่าที่เกิดความเข้าใจผิดกันตั้งแต่เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว และได้เคยชี้แจงไปแล้วว่า เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการเงินและทรัพย์สิน ซึ่งต่อมาทางสำนักงานการควบคุมทรัพย์สินฯ สหรัฐฯ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด และมีหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการว่าได้ถอนชื่อตนเองออกแล้ว ดังนั้นหากไม่ถูกต้องจริงทางการสหรัฐฯ คงไม่ออกเอกสารรับรองให้ ขณะเดียวกันทุกคนยังสามารถตรวจสอบข้อมูลได้จากเว็บไซต์ทางการของสหรัฐฯ อีกด้วย
นลินี กล่าวต่อว่า ตนเองมีวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐฯ และยังได้รับเชิญให้ไปร่วมงานวันชาติสหรัฐฯ ที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยจัดขึ้นเป็นประจำ รวมทั้งในปีนี้ด้วย ดังนั้นจึงอยากวิงวอนสื่อมวลชนและสังคมให้เข้าใจความจริง โดยเชื่อว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบข้อมูลจนเชื่อมั่นแล้วจึงได้แต่งตั้งตนเอง
“ทั้งนี้ดิฉันขอใช้ความรู้และประสบการณ์ทั้งในตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้แทนการค้าไทย 2 สมัย รวมทั้งเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยมากที่สุด” นลินี กล่าว
พร้อมกันนี้ยังย้ำด้วยว่า แม้ตนเองจะมีนามสกุล ‘ทวีสิน’ พ้องกับนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ได้เป็นญาติกันและไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัวมาก่อน โดยที่ผ่านมาได้พบกับนายกฯ ตัวเป็นๆ ครั้งแรกในช่วงหาเสียงเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่สนามกีฬาเมืองทองธานี