‘บิ๊กป้อม-พปชร.’ เลือก 14 กุมภาฯ ลุยแจกความรักเขตป้อมปราบฯ คิกออฟสู้ศึก ลต.สนาม กทม.

5 กุมภาพันธ์ 2566 - 04:58

Prawit-led-the-PPRP-to-the-Pom-Prap-Sattru-Phai-area-on-February-14-SPACEBAR-Hero
  • ‘พปชร.’ เตรียมคิกออฟสู้ศึกสนามเลือกตั้งเมืองหลวง 14 กุมภาฯ วาเลนไทน์ นี้

  • ‘บิ๊กป้อม’ ลุยแจกความรักเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เปิดว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.

  • นำไหว้พระ 3 ศาสนา เอาฤกษ์เอาชัย

สกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)  ในฐานะหัวหน้าทีมรับผิดชอบดูแลพื้นที่เลือกตั้งกรุงเทพมหานคร (กทม.) ของพรรค พปชร. กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมพร้อมเลือกตั้งของพรรคในสนาม กทม.ว่า ขณะนี้มีความพร้อมประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์แล้วสำหรับพื้นที่เลือกตั้ง กทม. 

โดยในส่วนของผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขตของพรรค พปชร.ที่จะส่งลงเลือกตั้งใน กทม. จนถึงขณะนี้เหลืออีกประมาณ 4-5 เขตที่ยังไม่ลงตัว ซึ่งเหตุที่ยังไม่ลงตัวไม่ใช่เพราะว่าพรรคไม่มีคนส่งลงสมัคร แต่เป็นเพราะพรรคมีบุคคลที่จะส่งลงสมัครรับเลือกตั้งมากกว่าหนึ่งคนที่ต้องพิจารณา อีกทั้งเขตเลือกตั้งในพื้นที่ กทม.ยังไม่ได้มีการประกาศแบ่งเขตที่ชัดเจนออกมา ทำให้ยังมีพื้นที่เลือกตั้งที่ยังทับซ้อนกันอยู่  

“ผมคิดว่าภายในสักสองสัปดาห์ต่อจากนี้น่าจะเรียบร้อย แต่ว่าก็มีดีลเพิ่มเติมขึ้นมาเพราะทางผู้ใหญ่จากพรรคสร้างอนาคตไทยคือ ดร.อุตตม สาวนายน กับคุณสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ตอนนี้ได้กลับเข้ามาพลังประชารัฐ ที่ทั้งสองท่านก็จะมีผู้สมัคร ส.ส.เขต กทม. ที่มาให้พิจารณาดูโดยเทียบจากผู้สมัครที่พลังประชารัฐมีอยู่เดิมเทียบกันดูว่าเป็นอย่างไร เพราะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ให้นโยบายมาว่า ต้องคัดเลือกคนที่ดีที่สุดลงสมัครแข่งขัน” สกลธี กล่าว 

สกลธี กล่าวด้วยว่า รายชื่อผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขต จะมีการผสมผสาน ระหว่างตัวเก๋า กับคนรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจจริง อย่างเขตไหนเป็นพื้นที่เก๋าสู้รบ แบบนี้ก็ต้องส่งคนที่เก๋า หรือเขตไหนที่เป็นพื้นที่กระแส เช่น กทม.เขตชั้นใน ที่อยู่ในเขตเลือกตั้งเช่น เขตที่ 1 2 3 4 5 ก็จะเป็นคนใหม่ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับใหม่เลย คือเคยลงพื้นที่ แต่ยังไม่ได้รับโอกาส ก็คือผู้สมัคร ส.ส.เขต กทม.ของพรรค จะเป็นลักษณะผสมผสานกัน  

“ซึ่งคาดว่าภายในสองสัปดาห์ต่อจากนี้ รายชื่อผู้สมัคร ส.ส.เขต กทม.ทั้ง 33 เขตก็คงได้ข้อยุติ เพราะอย่างที่มีการพูดกันว่า เส้นตายคือ 7 กุมภาพันธ์ ทำให้อย่างน้อยสัปดาห์หน้า ทุกอย่างก็ต้องเรียบร้อยเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์” 

ทั้งนี้ สกลธี ยอมรับว่าสนามเลือกตั้ง กทม.เรื่องกระแสเป็นปัจจัยสำคัญในการชี้ขาดผลแพ้-ชนะในการเลือกตั้ง โดยเฉพาะกระแสที่จะออกมาตอนช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันลงคะแนนเสียง โดยกระแสของพรรคที่ส่งคนลงเลือกตั้ง จะอยู่ที่ระดับ 70 เปอร์เซนต์ ส่วนผู้สมัครจะอยู่ที่ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ 

สกลธี ยังเปิดเผยถึงการคิกออฟการหาเสียงในพื้นที่กรุงเทพฯ ของพรรคพลังประชารัฐ ว่า เบื้องต้นจะเป็นการลงพื้นที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย วางไว้ว่าอาจให้เป็นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ (วันวาเลนไทน์) ช่วงบ่ายๆ แต่อันนี้ยังไม่นิ่ง แต่ก็มีการวางไว้ ที่ก็จะเป็นอีเวนต์แรกที่หัวหน้าพรรค พปชร. โดย พล.อ.ประวิตร จะลงพื้นที่พร้อมกับผู้สมัคร ส.ส.เขต กทม.แบบจริงจัง  

“โดยเรื่องที่จะลงพื้นที่แรกคือ ‘ป้อมปราบศัตรูพ่าย’ ก็ไม่ใช่ว่าพรรคจะไปเป็นศัตรูกับใคร แต่เราถือว่า หัวหน้าพรรคชื่อป้อม ‘ป้อม’ ก็มาปราบศัตรูให้พ่าย ซึ่งศัตรูก็ไม่ใช่พรรคการเมือง แต่ศัตรูคือความลำบาก ความเดือดร้อนของประชาชน ที่เราจะมาปราบ ชื่อก็มาคล้องกัน ตรงนี้เราก็จะมาเอาฤกษ์เอาชัย” 

สกลธี กล่าวด้วยว่า สำหรับกำหนดการในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นั้น หัวหน้าพรรค พปชร. พล.อ.ประวิตรจะร่วมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม ในพื้นที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย โดยจะนำผู้สมัครของพรรคลงพื้นที่ใน กทม.เป็นครั้งแรก ซึ่งจะพาผู้สมัคร ส.ส.เขต กทม.ของพรรคไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไปไหว้พระ 3 ศาสนา พุทธ จีน และอิสลาม เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนพาเดินแนะนำตัวกับชาวกรุงเทพฯ และมีกิจกรรมให้หัวหน้าพรรคทำสักอย่างหนึ่งเพื่อเป็นการโหมโรงว่าขณะนี้ได้นับหนึ่งแล้ว กรุงเทพมหานคร เราจะลุยหาเสียง 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์