‘เรืองไกร’ ร้องศาลปกครอง ‘นายกฯ’ เสนอตรา พ.ร.ฎ.ยุบสภา มิชอบด้วยหน้าที่ ส่อเอื้อ ‘รทสช.’

21 มีนาคม 2566 - 06:52

Ruangkrai-petitioned-the-Administrative-Court-for-the-Prime Minister-to-dissolve-the-parliament-unduly-SPACEBAR-Hero
  • ‘เรืองไกร’ ร้องศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉิน ‘นายกฯ’ เสนอตรา ‘พระราชกฤษฎีกายุบสภา’ มิชอบ ขอให้ศาลงดบังคับใช้ 

  • ชี้ รธน.ระบุชัดให้เลือกตั้งโดยเร็ว แต่ ‘บิ๊กตู่’ เลือกยุบสภาเพื่อช่วยระยะเวลาดึงคนเข้าพรรค รทสช.

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2566 ที่ศาลปกครอง ถนนเเจ้งวัฒนะ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางมาร้องต่อศาลปกครองสูงสุด เนื่องจากเห็นว่าการเสนอพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยุบสภา ไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ 
 
เรืองไกร กล่าวว่า แม้การยุบสภาเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่รัฐธรรมนูญ (รธน.) บัญญัติว่าการตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาต้องมีเหตุการณ์ การที่รัฐธรรมนูญบัญญัติเช่นนี้เพราะมีเหตุผล การคืนอำนาจให้ประชาชนไปสิทธิเลือกตั้งโดยใช้คำว่า “โดยเร็ว” แต่เลือกยุบสภามีผล 20 มีนาคม ทั้งที่สภาจะครบวาระวันที่ 23 มีนาคม นี้ซึ่งห่างกันเพียง 3 วัน  
 
ทั้งนี้ หากยุบสภาจะต้องเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน แต่ถ้าสภาครบวาระต้องเลือกตั้งภายใน 45 วัน อะไรเร็วกว่าประชาชนคงทราบ เหตุที่อ้างต้องการให้ประชาชนเลือกตั้งโดยเร็ว ส่วนตัวไม่เห็นด้วยจึงต้องมาร้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพราะอยู่ในอำนาจของศาลปกครองในการพิจารณาเรื่องพระราชกฤษฎีกา ดังนั้น เหตุผลที่นายกรัฐมนตรีอ้างว่าต้องการคืนอำนาจให้กับประชาชนไม่ใช่แน่นอน 
 
เรืองไกร กล่าวด้วยว่า ต้องขออภัยนายกฯ และรองนายกรัฐมนตรี วิษณุ เครืองาม ตนจำเป็นต้องร้องจริงๆ แต่ศาลจะพิพากษาอย่างไรเป็นดุลพินิจของท่าน ซึ่งตนเห็นว่ามีนัยยะที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองที่นายกฯ ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค ท่านเองสมัครตั้งแต่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา ก็ควรจะรู้อยู่แล้วว่าถ้ายุบสภาท่านจะได้ประโยชน์จากการย้าย ส.ส. จากพรรคนั้นเข้าพรรคนี้ ฉะนั้นการยุสภามีเหตุผลเดียวที่น่าจะเป็นเหตุผลหลักก็คือต้องการให้ผู้สมัคร หรือว่าที่ผู้สมัคร หรืออดีต ส.ส.ย้ายพรรคให้สั้นลง จาก 90 วันเหลือ 30 วัน 
 
เรืองไกร กล่าวว่า เหตุผลตรงนี้ถือว่าไม่สุจริต เป็นไปโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และเป็นการกระทำที่อาจจะขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 5 ด้วย ดังนั้น จึงต้องให้ศาลพิจารณาว่าพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ควรจะระงับยับยั้งหรือไม่ ถ้าระงับ หรือเพิกถอนไป อีก 3 วัน หรือ 2 วันนับจากนี้นายกฯ และ กกต.ก็ต้องรีบตราพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการทั่วไป การเลือกตั้งก็จะจัดภายใน 45 วัน เร็วกว่ายุบสภา 
 
“เหตุผลที่ท่านบอกมามองเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย ตัวท่านเองก็หวังว่าพรรคที่ท่านไปสังกัดจะเสนอท่านเป็นบัญชีนายกรัฐมนตรี ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าอยู่ได้อีก 2 ปี ท่านคงมีประโยชน์ส่วนตนอยู่ตรงนี้ด้วย ดังนั้น ท่านก็จะแสวงหาการที่อยู่ในบัญชีนายกฯ และมีสิทธิให้รัฐสภาเลือกอีกครั้ง พรรคของท่านต้องมี ส.ส.25 คนขึ้นไป ผมมองเห็นเจตนาชัด เข้าใจได้” เรืองไกร กล่าว 
 
พร้อมทั้งระบุว่า ได้ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินท้ายคำฟ้อง และขอให้คำสั่งบังคับให้งดใช้พระราชกฤษฎีกายุบสภา 
 
เมื่อถามว่า นายกฯ เคยระบุว่าจะใช้วิธียุบสภาเพื่อช่วยพรรคอื่นๆ ในเรื่องเวลาสังกัดพรรค เรืองไกร กล่าวว่า “ไม่น่าจะใช่เหตุ นายกฯ ควรจะบอกตรงๆ ว่าเพื่อประโยชน์ของพรรครวมไทยสร้างชาติที่สังกัด วันนี้สมาชิกของพรรคต่างๆ ก็ย้ายพรรคกัน และอย่าอ้างเพื่อช่วยพรรคการเมืองขนาดเล็ก แต่เหตุที่แท้จริงคือวันนี้ท่านอยากอยู่ต่อ ทำแล้ว ทำต่อ ทำอีก อะไรของท่าน แต่เหตุผลในการตรากฎหมายพอเห็นคำว่า “โดยเร็ว” มันสะดุด คำว่าโดยเร็ว 45-60 วัน เร็วกว่าภายใน 45 วันได้อย่างไร”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์