ผบ.สูงสุด นำ ‘เหล่าทัพ’ ยืนไว้อาลัยเหตุ ร.ล.สุโขทัย อับปาง ผบ.ทร. ลุยสอบหาสาเหตุ-กู้เรือ

27 ธันวาคม 2565 - 08:07

Sukhothai-FS442-Choengchai-Chalermpon-Commemorate-SPACEBAR-Thumbnail
  • ผบ.ทหารสูงสุด นำ เหล่าทัพ ยืนไว้อาลัย-คารวะ กำลังพลเสียชีวิต ร.ล.สุโขทัย อับปาง แสดงถึงความเข้มแข็ง สามัคคี รักษาเรือ เต็มกำลังความสามารถ เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

  • ผบ.ทร. เผยพบ 2 ร่างผู้สูญหาย เดินหน้าสอบสวนเหตุการณ์ วางแผนกู้เรือ-กำจัดคราบน้ำมัน

พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยมีผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม  

จากนั้น พล.อ.เฉลิมพล กล่าวชื่นชม การปฏิบัติงานของกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย เนื่องจากสภาพที่เกิด สิ่งสำคัญคือการแสดงถึงกำลังพลในเรือหลวงสุโขทัยที่พยายามดูแลรักษายุทโธปกรณ์หลัก ที่มีความสำคัญอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยเชื่อมั่นว่าอยู่ในขีดความสามารถที่จะแก้ไขอุบัติการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับเรือหลวงสุโขทัยได้ จนถึงเวลาสภาพลมฟ้าอากาศมีความรุนแรงต่อเนื่อง จนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุกับเรือ ตามที่ประชาชนและสื่อได้เห็นและได้รับทราบการดำเนินการของกำลังพลที่มีความเข้มแข็ง มีความสามารถที่พยายามช่วยเหลือคนอื่นๆ อย่างเต็มกำลังความสามารถ บางส่วนก็ทำให้เกิดการสูญเสียกับกำลังพลซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ได้เแก้ไขปัญหาและค้นหาผู้สูญหายมาโดยตลอด ปัจจุบันเหลืออีกประมาณ 10 นาย ซึ่งเราก็จะดำเนินการต่อไป  

“ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็เป็นความเสียใจอย่างที่สุดกับกองทัพเรือและครอบครัวของกำลังพลผู้สูญเสีย ขณะเดียวกันในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็นำมาซึ่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ความสมัครสมานสามัคคีของกำลังพลที่จะร่วมดำเนินการเพื่อให้เหตุการณ์ดังกล่าว คลี่คลาย และดูแลครอบครัวและการดำเนินการต่างๆ ของกองทัพเรือในต่อไป เราก็เตรียมสนับสนุนการดำเนินการต่างๆ ขอแสดงความคารวะกำลังพลของเรือหลวงสุโขทัย ที่ได้เสียชีวิตในการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ นอกจากนี้ก่อนการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ผมได้เชิญผู้เข้าร่วมประชุมได้ยืนไว้อาลัย กำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่เสียชีวิตด้วย” ผบ.ทหารสูงสุด กล่าว 

ด้าน พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ตนในนามกองทัพเรือได้ขอบคุณ ผบ.ทหารสูงสุด, ผบ. ทบ., ผบ.ทอ. และ ผบ.ตร. ที่ทุกหน่วยงานได้กรุณาสนับสนุนกองทัพเรือในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงส่งผู้แทนไปเยี่ยมครอบครัวกำลังพลที่บาดเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลและการสนับสนุนเครื่องบินอากาศยานในการเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิต ไปประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ กองทัพเรือขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่มาร่วมในการดำเนินการครั้งนี้ 

ในวันนี้เราได้พบผู้สูญหายเพิ่มอีก 2 นาย ในเวลา 09.30 น. และ เวลา 10.15 น. มีเรือประมงได้พบผู้สูญหาย ที่จังหวัดชุมพรก็ได้มีการส่งเรือไปรับร่างผู้เสียชีวิต พร้อมนำร่างผู้เสียชีวิตไปสู่อัตลักษณ์ต่อไป 

อีกทั้งเฮลิคอปเตอร์ได้ตรวจพบร่างผู้เสียชีวิตสวมเครื่องแต่งกายลายพรางคาดว่าน่าจะเป็นผู้สูญหายอีก 1 ราย วันนี้ก็กำลังลำเลียงร่างไปพิสูจน์อัตลักษณ์ต่อไป ขณะนี้มีผู้สูญหายที่ยังหาไม่พบอีก 8 นาย กองทัพเรือจะพยายามค้นหาต่อไปส่วนในวันพรุ่งนี้ (28 ธ.ค.) จะนำร่างผู้เสียชีวิตที่มีการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้วจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ กลับไป อ.สัตหีบ และจะมีการประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพสวดพระอภิธรรมต่อไป  

เมื่อถามถึงการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรือหลวงสุโขทับอับปาง พล.ร.อ.เชิงชาย ระบุว่า คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นมาสอบสวนเพื่อตรวจสอบหาเหตุว่าเรือสุโขทัยอับปางและจมลงในทะเลเนื่องจากน้ำเข้าเรือ จนกำลังพลไม่สามารถรักษาเรือไว้ได้ 

ในส่วนที่ 2 ตรวจสอบขั้นตอนการปฏิบัติภายหลังจากที่เรือจงไปแล้ว การปฏิบัติของกำลังพลของเรือหลวงสุโขทัยการช่วยเหลือต่างๆ และขั้นตอนการดำเนินการตั้งแต่เรือจมว่าปฏิบัติตามขั้นตอนถูกต้องหรือไม่ ซึ่งคิดว่าการสอบสวนได้เริ่มดำเนินการไปแล้วจะมีการสรุปผลและนำเรียนผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น 

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการกู้เรือ เนื่องจากมีคราบน้ำมันรั่วไหลออกมา พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าวว่า ในส่วนพื้นที่ที่เรือจมในวันดังกล่าวมีเรือจม 3 ลำเรือสินค้า และ เรือหลวงสุโขทัยทั้ง 3 พื้นที่มีการประกาศเป็นพื้นที่เป็นเขตภัยพิบัติ รอการสนับสนุน เพื่อไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว ในส่วนน้ำมันที่อยู่ในเรือในกรณีของเรือสุโขทัยคาดว่ามีน้ำมันอยู่จำนวนหนึ่ง รั่วไหลออกมา จึงได้วางแผน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม โดยเตรียมนำน้ำมันดังกล่าวขึ้นมา

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์