ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศ กรุงเทพมหานคร รายงานผลการตรวจวัด PM2.5 วันที่ 15 มี.ค. 2566 (05.00-07.00 น.) ตรวจวัดได้ 34-67 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) โดยค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร อยู่ที่ 48.8 มคก./ลบ.ม. และพบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 27 พื้นที่ คือ
1. เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 67 มคก./ลบ.ม.
2. เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 65 มคก./ลบ.ม.
3. เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 62 มคก./ลบ.ม.
4. สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา : มีค่าเท่ากับ 59 มคก./ลบ.ม.
5. เขตบางนา บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีบางนา : มีค่าเท่ากับ 57 มคก./ลบ.ม.
6. เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 56 มคก./ลบ.ม.
7. เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม (ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 56 มคก./ลบ.ม.
8. เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : มีค่าเท่ากับ 55 มคก./ลบ.ม.
9. เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 55 มคก./ลบ.ม.
10. เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.
11. เขตดอนเมือง ด้านข้างสำนักงานเขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.
12. เขตสายไหม ป้ายรถเมล์ด้านหน้าสำนักงานเขตสายไหม : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.
13. เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.
14. เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.
15. เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.
16. เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.
17. เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.
18. เขตยานนาวา ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ : มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.
19. เขตปทุมวัน หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ : มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.
20. เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบังข้างป้อมตำรวจ : มีค่าเท่ากับ 52 มคก./ลบ.ม.
21. สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 52 มคก./ลบ.ม.
22. เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 52 มคก./ลบ.ม.
23. เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 52 มคก./ลบ.ม.
24. เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : มีค่าเท่ากับ 51 มคก./ลบ.ม.
25. เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 51 มคก./ลบ.ม.
26. เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา : มีค่าเท่ากับ 51 มคก./ลบ.ม.
27. เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี : มีค่าเท่ากับ 51 มคก./ลบ.ม.
สำหรับช่วงวันที่ 15-22 มี.ค. 2566 อากาศเริ่มอยู่ในสภาวะเปิด การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี ส่งผลให้ฝุ่น PM2.5 เกิดการสะสมตัวมีแนวโน้มลดลง แต่อย่างไรก็ตามในวันที่ 15 มี.ค. 2566 เป็นช่วงที่ควรเฝ้าระวังการสะสะสมตัวของฝุ่นละอองเนื่องจากมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองข้ามพื้นที่ได้ เนื่องจากบางเวลามีกระแสลมตะวันตกจากประเทศเมียนมาปกคลุมทางภาคเหนือ
ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 15-23 มี.ค. 2566 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้ลมใต้ และตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมแทนที่ อากาศจะเริ่มร้อนขึ้น (ยังไม่ถึงร้อนจัด) และมีหย่อมความกดอากาศต่ำเข้ามาปกคลุมแทน ควรระมัดระวังรักษาสุขภาพจากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง ควรระวังโรคลมแดด และวันนี้ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง
สำหรับวันที่ 16 มี.ค. 2566 เป็นต้นไปสถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเป็นลำดับ เนื่องจากลมทางใต้ช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ แต่อย่างไรก็ตาม วันนี้เป็นช่วงที่ควรเฝ้าระวังของพื้นที่เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองข้ามพื้นที่ได้
ส่วนจากการตรวจสอบข้อมูลจุดความร้อน (Hotspot) ผ่านดาวเทียม จากหน่วยงาน NASA ไม่พบจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลกบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร
1. เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 67 มคก./ลบ.ม.
2. เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 65 มคก./ลบ.ม.
3. เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 62 มคก./ลบ.ม.
4. สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา : มีค่าเท่ากับ 59 มคก./ลบ.ม.
5. เขตบางนา บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีบางนา : มีค่าเท่ากับ 57 มคก./ลบ.ม.
6. เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 56 มคก./ลบ.ม.
7. เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม (ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 56 มคก./ลบ.ม.
8. เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : มีค่าเท่ากับ 55 มคก./ลบ.ม.
9. เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 55 มคก./ลบ.ม.
10. เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.
11. เขตดอนเมือง ด้านข้างสำนักงานเขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.
12. เขตสายไหม ป้ายรถเมล์ด้านหน้าสำนักงานเขตสายไหม : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.
13. เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.
14. เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.
15. เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.
16. เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.
17. เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.
18. เขตยานนาวา ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ : มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.
19. เขตปทุมวัน หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ : มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.
20. เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบังข้างป้อมตำรวจ : มีค่าเท่ากับ 52 มคก./ลบ.ม.
21. สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 52 มคก./ลบ.ม.
22. เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 52 มคก./ลบ.ม.
23. เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 52 มคก./ลบ.ม.
24. เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : มีค่าเท่ากับ 51 มคก./ลบ.ม.
25. เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 51 มคก./ลบ.ม.
26. เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา : มีค่าเท่ากับ 51 มคก./ลบ.ม.
27. เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี : มีค่าเท่ากับ 51 มคก./ลบ.ม.
สำหรับช่วงวันที่ 15-22 มี.ค. 2566 อากาศเริ่มอยู่ในสภาวะเปิด การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี ส่งผลให้ฝุ่น PM2.5 เกิดการสะสมตัวมีแนวโน้มลดลง แต่อย่างไรก็ตามในวันที่ 15 มี.ค. 2566 เป็นช่วงที่ควรเฝ้าระวังการสะสะสมตัวของฝุ่นละอองเนื่องจากมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองข้ามพื้นที่ได้ เนื่องจากบางเวลามีกระแสลมตะวันตกจากประเทศเมียนมาปกคลุมทางภาคเหนือ
ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 15-23 มี.ค. 2566 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้ลมใต้ และตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมแทนที่ อากาศจะเริ่มร้อนขึ้น (ยังไม่ถึงร้อนจัด) และมีหย่อมความกดอากาศต่ำเข้ามาปกคลุมแทน ควรระมัดระวังรักษาสุขภาพจากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง ควรระวังโรคลมแดด และวันนี้ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง
สำหรับวันที่ 16 มี.ค. 2566 เป็นต้นไปสถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเป็นลำดับ เนื่องจากลมทางใต้ช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ แต่อย่างไรก็ตาม วันนี้เป็นช่วงที่ควรเฝ้าระวังของพื้นที่เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองข้ามพื้นที่ได้
ส่วนจากการตรวจสอบข้อมูลจุดความร้อน (Hotspot) ผ่านดาวเทียม จากหน่วยงาน NASA ไม่พบจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลกบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร