วันที่ 8 มีนาคม 2566 พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย แพทองธาร (อุ๊งอิ๊ง) ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมทั้ง ส.ส. ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หญิง และ ส.ก.หญิง ของพรรค ร่วมแถลงข่าวนโยบายเพื่อผู้หญิง เนื่องในวันสตรีสากล ภายใต้ธีม ‘นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ’ (DigitALL: Innovation and technology for gender equality) โดยผู้เข้าร่วมงานสวมเสื้อ Embrace Equity โอบกอดความเสมอภาค เพื่อแสดงจุดยืนความเสมอภาคทางเพศของพรรค พท.
แพทองธาร กล่าวว่า พรรค พท. เล็งเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีที่จะเป็นตัวช่วยสำคัญ ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสต่างๆ และจะเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความเท่าเทียมทางเพศ โดยมีนโยบาย 2 อย่างที่จะสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศอย่างทั่วถึง
นโยบายแรกคือ การยกระดับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีด้วยเทคโนโลยี ให้ผู้หญิงทุกคนเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจและการพัฒนาทักษะ ซึ่งเดิมทีกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี คือหนึ่งในความสำเร็จของการสร้างความเท่าเทียมทางเพศให้เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีกรอบความรับผิดชอบ 3 ด้าน ได้แก่ การสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน การพัฒนาทักษะอาชีพ และการดูแลปกป้องสิทธิสตรี ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ และผู้สูงอายุ เพื่อดูแลประชากรหญิงครอบคลุมทุกมิติ
แพทองธาร กล่าวว่า ในปัจจุบันการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการหญิงยังเป็นปัญหา จากข้อมูลธนาคารโลกระบุว่า ในประเทศกำลังพัฒนา ผู้ประกอบการหญิงมีจำนวนเพียง 30% และมีถึง 70% ที่ไม่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากสถาบันการเงิน โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจในภาคค้าปลีกซึ่งเติบโตน้อย กำไรน้อย และยังขาดเทคโนโลยี
พรรคเพื่อไทย จึงมีนโยบายต่อยอดความสำเร็จของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ผ่านการนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาศักยภาพกองทุน โดยเทคโนโลยีจะเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชน ทำให้เกิดการสร้างคน สร้างเครือข่าย เชื่อมตลาดในประเทศและต่างประเทศ เพิ่มศักยภาพการเข้าถึงนวัตกรรม และเพิ่มการปกป้องสิทธิต่างๆ เพื่อผู้หญิงทุกคนได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียม รวมถึงสามารถยืนหยัดด้วยตัวเองอย่างภาคภูมิ
แพทองธาร กล่าวต่อว่า นโยบายที่ 2 คือ การฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดฟรีสำหรับผู้หญิงทุกคน เนื่องจากสาเหตุการเสียชีวิตของหญิงไทยเกิดจากมะเร็งปากมดลูกเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้เห็นถึงความสำคัญของสุขภาวะในเพศหญิงและมีแนวทางลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งปากกามดลูก ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันให้กับผู้หญิงทุกคนที่ยังไม่ติดเชื้อ HPV โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ เรื่องของความเท่าเทียมทางเพศในประเทศไทยที่มีแนวโน้มดีขึ้น จากการเคยมีนายกรัฐมนตรีหญิง มีผู้หญิงอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง และในภาคการเมืองผู้หญิงก็มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยมีสัดส่วนผู้สมัคร ส.ส.หญิง 20% มากกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อนที่มี 15% โดยไม่ได้มีการจำกัดเพศในการคัดเลือกผู้สมัครแต่มาจากความเหมาะสมเป็นหลัก
“พรรคเพื่อไทยยึดหลักความเสมอภาคทางเพศ เราจะทำให้เพศไม่ใช่อุปสรรคในการใช้ชีวิต เรายืนหยัดที่จะทำให้ทุกคนสามารถสานฝัน ทำในสิ่งที่ทุกคนต้องการ ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหน ทุกคนสามารถเป็นทุกสิ่งที่คุณต้องการได้” แพทองธาร กล่าว
แพทองธาร กล่าวว่า พรรค พท. เล็งเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีที่จะเป็นตัวช่วยสำคัญ ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสต่างๆ และจะเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความเท่าเทียมทางเพศ โดยมีนโยบาย 2 อย่างที่จะสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศอย่างทั่วถึง
นโยบายแรกคือ การยกระดับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีด้วยเทคโนโลยี ให้ผู้หญิงทุกคนเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจและการพัฒนาทักษะ ซึ่งเดิมทีกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี คือหนึ่งในความสำเร็จของการสร้างความเท่าเทียมทางเพศให้เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีกรอบความรับผิดชอบ 3 ด้าน ได้แก่ การสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน การพัฒนาทักษะอาชีพ และการดูแลปกป้องสิทธิสตรี ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ และผู้สูงอายุ เพื่อดูแลประชากรหญิงครอบคลุมทุกมิติ
แพทองธาร กล่าวว่า ในปัจจุบันการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการหญิงยังเป็นปัญหา จากข้อมูลธนาคารโลกระบุว่า ในประเทศกำลังพัฒนา ผู้ประกอบการหญิงมีจำนวนเพียง 30% และมีถึง 70% ที่ไม่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากสถาบันการเงิน โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจในภาคค้าปลีกซึ่งเติบโตน้อย กำไรน้อย และยังขาดเทคโนโลยี
พรรคเพื่อไทย จึงมีนโยบายต่อยอดความสำเร็จของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ผ่านการนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาศักยภาพกองทุน โดยเทคโนโลยีจะเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชน ทำให้เกิดการสร้างคน สร้างเครือข่าย เชื่อมตลาดในประเทศและต่างประเทศ เพิ่มศักยภาพการเข้าถึงนวัตกรรม และเพิ่มการปกป้องสิทธิต่างๆ เพื่อผู้หญิงทุกคนได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียม รวมถึงสามารถยืนหยัดด้วยตัวเองอย่างภาคภูมิ
แพทองธาร กล่าวต่อว่า นโยบายที่ 2 คือ การฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดฟรีสำหรับผู้หญิงทุกคน เนื่องจากสาเหตุการเสียชีวิตของหญิงไทยเกิดจากมะเร็งปากมดลูกเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้เห็นถึงความสำคัญของสุขภาวะในเพศหญิงและมีแนวทางลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งปากกามดลูก ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันให้กับผู้หญิงทุกคนที่ยังไม่ติดเชื้อ HPV โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ เรื่องของความเท่าเทียมทางเพศในประเทศไทยที่มีแนวโน้มดีขึ้น จากการเคยมีนายกรัฐมนตรีหญิง มีผู้หญิงอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง และในภาคการเมืองผู้หญิงก็มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยมีสัดส่วนผู้สมัคร ส.ส.หญิง 20% มากกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อนที่มี 15% โดยไม่ได้มีการจำกัดเพศในการคัดเลือกผู้สมัครแต่มาจากความเหมาะสมเป็นหลัก
“พรรคเพื่อไทยยึดหลักความเสมอภาคทางเพศ เราจะทำให้เพศไม่ใช่อุปสรรคในการใช้ชีวิต เรายืนหยัดที่จะทำให้ทุกคนสามารถสานฝัน ทำในสิ่งที่ทุกคนต้องการ ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหน ทุกคนสามารถเป็นทุกสิ่งที่คุณต้องการได้” แพทองธาร กล่าว