สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายของวันนี้ เตรียมลงพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อประชุมและเตรียมความพร้อมเรื่องการรักษา หากพบผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากสารกัมมันตรังสี ‘ซีเซียม-137’ เพื่อให้โรงพยาบาลในพื้นที่ มีความพร้อม กรณีมีบุคคลใดสัมผัสหรือใกล้ชิด ไม่ว่าจะสัมผัสมากหรือสัมผัสน้อยอย่างไร
“เครือข่ายของเรา จะให้ความรู้กับพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี จะได้ไปสื่อสารให้ทราบว่า หากมีอาการ หรือมีข้อสงสัย ต้องทำอย่างไร เพื่อเตรียมการรักษากรณีมีการรั่วไหลของสารซีเซียม-137 จริง” สาธิต ระบุ
สาธิต ระบุด้วยว่า ในวันที่ 22 มีนาคม จะเดินทางไปที่โรงพยาบาลมาบตาพุด จังหวัดระยอง ซึ่งที่จังหวัดระยอง มีศูนย์อาชีวะเวชศาสตร์ พร้อมทั้งจะพาเจ้าหน้าที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ของกระทรวงสาธารณสุข ที่มีความรู้เกี่ยวกับสารเคมีที่ใช้ในโรงงานไปด้วย โดยทุกส่วนของระบบสาธารณสุขจะต้องมีความพร้อม ระบบการรักษาต้องมีความพร้อม 100% ทั้งนี้ เบื้องต้นยังไม่พบผู้ที่มีอาการหรือผู้ป่วย แต่มีการเตรียมว่า หากมีประชาชนในพื้นที่มีอาการ จะให้แจ้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เพื่อรับทราบข้อมูล ว่าต้องทำอย่างไร เพราะเราวางใจไม่ได้ สารเหล่านี้หากสะสมในร่างกาย จะมีปัญหาเรื่องสุขภาพ และเม็ดเลือดขาว
ด้าน ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เผยว่า ได้มีการพูดคุยกับอธิบดีกรมโรงงาน ถึงกรณีปัญหาท่อบรรจุสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 หายไปจากโรงไฟฟ้าพลังไอน้ำ ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี และตรวจพบในโรงงานหลอมเหล็กแห่งหนึ่งใน จ.ปราจีนบุรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมต.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเช่นกัน เพื่อมีมาตรการออกมา ซึ่ง รมต.การอุดมศึกษาฯ จะรายงานในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ในส่วนที่ตนรับผิดชอบ ในฐานะรักษาการ รมต.อุตสาหกรรม นายกฯ ได้กำชับตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมาว่า ในส่วนของโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ให้ลงพื้นที่อย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า เศษเหล็กที่มีในเมืองไทย ที่ใช้จำนวนกว่า 5 ล้านตัน นำเข้ามา 1.5 ล้านตัน และมีประมาณ 3.5 ล้านตันในประเทศ ซึ่งอธิบดีกรมโรงงานได้ทำหนังสือแจ้งไปยังกรมศุลกากรแล้วให้เข้มงวดในการนำเศษเหล็ก 1.5 ล้านตันเข้ามา เพราะในพื้นที่อำเภอแหลมฉบัง มีเครื่องวัดรังสีอยู่ ฉะนั้น หากเราเข้มงวดตรงนั้น ในด่านแรก ตนเชื่อว่าปัญหาแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น
“ในส่วน ซีเซียม-137 ที่มีปัญหา ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าไปควบคุมพื้นที่แล้ว และดูแลประชาชน ขอประชาชนไม่ต้องห่วงรัฐบาลพยายามทำทุกอย่างให้สถานการณ์คลี่คลาย และควบคุมสถานการณ์ได้อยู่ในตอนนี้” ธนกร ระบุ
“เครือข่ายของเรา จะให้ความรู้กับพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี จะได้ไปสื่อสารให้ทราบว่า หากมีอาการ หรือมีข้อสงสัย ต้องทำอย่างไร เพื่อเตรียมการรักษากรณีมีการรั่วไหลของสารซีเซียม-137 จริง” สาธิต ระบุ
สาธิต ระบุด้วยว่า ในวันที่ 22 มีนาคม จะเดินทางไปที่โรงพยาบาลมาบตาพุด จังหวัดระยอง ซึ่งที่จังหวัดระยอง มีศูนย์อาชีวะเวชศาสตร์ พร้อมทั้งจะพาเจ้าหน้าที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ของกระทรวงสาธารณสุข ที่มีความรู้เกี่ยวกับสารเคมีที่ใช้ในโรงงานไปด้วย โดยทุกส่วนของระบบสาธารณสุขจะต้องมีความพร้อม ระบบการรักษาต้องมีความพร้อม 100% ทั้งนี้ เบื้องต้นยังไม่พบผู้ที่มีอาการหรือผู้ป่วย แต่มีการเตรียมว่า หากมีประชาชนในพื้นที่มีอาการ จะให้แจ้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เพื่อรับทราบข้อมูล ว่าต้องทำอย่างไร เพราะเราวางใจไม่ได้ สารเหล่านี้หากสะสมในร่างกาย จะมีปัญหาเรื่องสุขภาพ และเม็ดเลือดขาว
ด้าน ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เผยว่า ได้มีการพูดคุยกับอธิบดีกรมโรงงาน ถึงกรณีปัญหาท่อบรรจุสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 หายไปจากโรงไฟฟ้าพลังไอน้ำ ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี และตรวจพบในโรงงานหลอมเหล็กแห่งหนึ่งใน จ.ปราจีนบุรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมต.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเช่นกัน เพื่อมีมาตรการออกมา ซึ่ง รมต.การอุดมศึกษาฯ จะรายงานในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ในส่วนที่ตนรับผิดชอบ ในฐานะรักษาการ รมต.อุตสาหกรรม นายกฯ ได้กำชับตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมาว่า ในส่วนของโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ให้ลงพื้นที่อย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า เศษเหล็กที่มีในเมืองไทย ที่ใช้จำนวนกว่า 5 ล้านตัน นำเข้ามา 1.5 ล้านตัน และมีประมาณ 3.5 ล้านตันในประเทศ ซึ่งอธิบดีกรมโรงงานได้ทำหนังสือแจ้งไปยังกรมศุลกากรแล้วให้เข้มงวดในการนำเศษเหล็ก 1.5 ล้านตันเข้ามา เพราะในพื้นที่อำเภอแหลมฉบัง มีเครื่องวัดรังสีอยู่ ฉะนั้น หากเราเข้มงวดตรงนั้น ในด่านแรก ตนเชื่อว่าปัญหาแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น
“ในส่วน ซีเซียม-137 ที่มีปัญหา ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าไปควบคุมพื้นที่แล้ว และดูแลประชาชน ขอประชาชนไม่ต้องห่วงรัฐบาลพยายามทำทุกอย่างให้สถานการณ์คลี่คลาย และควบคุมสถานการณ์ได้อยู่ในตอนนี้” ธนกร ระบุ
