“บอลไทยจะไปบอลโลก” เป็นคำกล่าวที่หลายคนได้ฟังแล้วจะอมยิ้ม ยิ่งคนที่อยู่ในแวดวงฟุตบอลด้วยแล้วคงลุกหนี เพราะรู้ดีว่ามีความเป็นไปได้น้อยเพียงใดกับโควต้าที่ทาง ฟีฟ่าให้จำนวนทีมที่จะเข้าสู่รอบสุดท้ายกับภูมิภาคเอเชีย เป็นโควตาที่น้อยกว่าทวีปแอฟริกาเสียด้วยซ้ำ
ด้วยเหตุนี้เวลามีคนพูดว่า “บอลไทยจะไปบอลโลก” นั้น เราคงต้องหันกลับไปมองก่อนว่าคนที่พูดคือใคร รู้หรือไม่ว่า การจะไปฟุตบอลโลกกับโควตาของทวีปเอเชียโหดหินขนาดไหน ซึ่งคนล่าสุดที่ออกมาพูดเรื่อง “บอลไทยจะไปบอลโลก” คือผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติ ที่มีชื่อว่า นวลพรรณ ล่ำซำ คนที่พาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ AFF Suzuki Cup คนเดียวกับที่พาทีมชบาแก้วไปฟุตบอลโลกมาแล้วสองครั้งในปี 2015 และ ปี 2019 แถมยังเป็นประธานสโมสรการท่าเรือสโมสรในไทยลีกที่ทีมในยุคของเธอนั้นคว้าแชมป์เอฟเอคัพในปี 2019 เช่นกัน
เมื่อ ‘นวลพรรณ ล่ำซำ’ ออกมาพูดถึงการพาบอลไทยไปบอลโลก เราคงไม่ต้องกังขากับสิ่งที่เป็นข้อจำกัด หากแต่ผลงานต่อจากนี้เธอจะสานฝันที่คนไทยทั้งประเทศ (โดยเฉพาะแฟนบอล) นั้นกระหายกันมอย่างยาวนานให้เป็นจริงได้อย่างไร นั่นคือสิ่งที่ต้องพิสูจน์ในฟุตบอลโลกปี 2026 ที่มีเจ้าภาพ 3 ชาติคือ สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และ แคนาดา
ด้วยเหตุนี้เวลามีคนพูดว่า “บอลไทยจะไปบอลโลก” นั้น เราคงต้องหันกลับไปมองก่อนว่าคนที่พูดคือใคร รู้หรือไม่ว่า การจะไปฟุตบอลโลกกับโควตาของทวีปเอเชียโหดหินขนาดไหน ซึ่งคนล่าสุดที่ออกมาพูดเรื่อง “บอลไทยจะไปบอลโลก” คือผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติ ที่มีชื่อว่า นวลพรรณ ล่ำซำ คนที่พาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ AFF Suzuki Cup คนเดียวกับที่พาทีมชบาแก้วไปฟุตบอลโลกมาแล้วสองครั้งในปี 2015 และ ปี 2019 แถมยังเป็นประธานสโมสรการท่าเรือสโมสรในไทยลีกที่ทีมในยุคของเธอนั้นคว้าแชมป์เอฟเอคัพในปี 2019 เช่นกัน
เมื่อ ‘นวลพรรณ ล่ำซำ’ ออกมาพูดถึงการพาบอลไทยไปบอลโลก เราคงไม่ต้องกังขากับสิ่งที่เป็นข้อจำกัด หากแต่ผลงานต่อจากนี้เธอจะสานฝันที่คนไทยทั้งประเทศ (โดยเฉพาะแฟนบอล) นั้นกระหายกันมอย่างยาวนานให้เป็นจริงได้อย่างไร นั่นคือสิ่งที่ต้องพิสูจน์ในฟุตบอลโลกปี 2026 ที่มีเจ้าภาพ 3 ชาติคือ สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และ แคนาดา
ผู้หญิงในวงการฟุตบอล บารมีที่มาพร้อมกับ ศรัทธาและความสำเร็จ
ชื่อของ ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ ในฐานะนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด แต่การที่ชื่อของ ‘มาดามแป้ง’ กลายมาเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงไทย ในปี 2009 นั้นทำให้หลายคนเกิดความสงสัย ว่าเข้ามาได้เพราะผู้ใหญ่ในสมาคมฯ (ณ เวลานั้น) ที่ต้องการหานายทุนเพื่อสนับสนุนทีมฟุตบอลหญิงไทยที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ หรือ เข้ามาเพราะต้องการพื้นที่ในการส่งเสริมให้กับธุรกิจของตนเองข้อกังขาในเวลานั้นถูกพิสูจน์ด้วยผลงาน เมือผู้หญิงที่ชื่อ ‘นวลพรรณ ล่ำซำ’ ค่อยๆ สร้างผลงานจากการแข่งขันในระดับภูมิภาค ก้าวไปทีละก้าวกับทีมฟุตบอลหญิงไทย สร้างผลงานจากระดับภูมิภาค ก่อนสู่ระดับโลกด้วยการพาทีมฟุตบอลหญิงไทยไปฟุตบอลโลกในปี 2015 และ 2019
จากความสำเร็จกับทีมฟุตบอลหญิง และดูเหมือนนักธุรกิจอย่าง ‘มาดามแป้ง’ จะเห็นถึงโอกาสในการผนวกธุรกิจกับกีฬาเข้าด้วยกัน การเข้ามาเป็นประธานสโมสรการท่าเรือ ทำให้หลายคนรู้สึกแปลกใจระคนดีใจที่ได้เห็นสีสันที่สวยงามในวงการฟุตบอลไทยลีก แล้วมาดามแป้ง ก็ทำสำเร็จอีก หลังจากนั่งบริหารสโมสรและทำให้การท่าเรือเป็นแชมป์เอฟเอคัพในปี 2019
ด้วยความที่คลุกคลีอยู่ในวงการลูกหนังไทย ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ มานานกว่า 10 ปี ผู้หญิงที่ชื่อ นวลพรรณ ล่ำซำ ในแวดวงฟุตบอลไทยจึงสะสม บารมี และ ความน่าเชื่อถือภายใต้แบรนด์ ‘มาดามแป้ง’ เอาไว้อย่าเต็มเปี่ยม เมื่อเธอตัดสินใจรับหน้าที่ ผู้จัดการทีมชาติไทย (ทีมชาย) นับเป็นการรับเผือกร้อนมาด้วยความเต็มใจ
‘มาดามแป้ง’ กับกลยุทธของผู้หญิง ในการกู้ศรัทธาคืนให้กับฟุตบอลทีมชาติไทย
หลังจากไม่มีผู้จัดการทีมอยู่สองปีพร้อมกับการปลดโค้ชต่างชาติคนล่าสุด สุดท้ายทางสมาคมฟุตบอลฯ ก็ต้องตัดสินใจ หาคนมากอบกู้ศรัทธาคืนมาให้กับวงการลูกหนังไทย และชื่อของ นวลพรรณ ล่ำซำ ก็ถูกเสนอเข้ามาเมื่อเธอตัดสินใจรับตำแหน่ง และเริ่มวางแผนงาน นั้นคนที่ไม่เคยติดตามข่าวความสำเร็จในอดีตของ ‘มาดามแป้ง’ รวมไปถึงคนที่กังขาว่าทำไมถึงใช้ผู้หญิงมาเป็นผู้จัดการทีมชาติไทย ก็ก่อให้เกิดประเด็นโต้เถียงรายวันถ้าคนที่รับตำแหน่งไม่ได้ชื่อว่า ‘นวลพรรณ ล่ำซำ’ คงมีซวนเซไปกับเสียงวิจารณ์กันไปบ้าง หากแต่คนที่ชื่อนวลพรรณ ล่ำซำ เจอมาทุกรูปแบบแล้วกับวงการฟุตบอลของเมืองไทย เธอรู้ดีว่าควรวางตัวอย่างไร เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย ข้อเสนอแบบไหนที่จะทำให้สโมสรทั้งในและต่างประเทศ ปล่อยตัวนักเตะมาเล่นให้กับทีมชาติ การรวมตัวชนิดสายฟ้าแลป แบบเดือนเดียวแล้วไปแข่งเลย ทำให้มาดามแป้ง ต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อทำให้นักเตะรวมไปหนึ่งเดียว เหนืออื่นใดการตัดสินใจเลือกโค้ช ของมาดามแป้ง ทำให้รู้ว่าเธอมีกุนซือที่ดีคอยแนะนำ
ซึ่งทั้งหมดนั้นได้พิสูจน์ให้เห็นฝีมือ และ การวางกลยุทธที่ดีจนทำให้ทีมชาติไทยสามารถรวมเป็นหนึ่งเดียว มีโค้ชต่างชาติทีมีความมุ่งมั่นและรู้จักนักฟุตบอลไทยเป็นอย่างดีจนทำให้เกิดผลงานที่เห็นผลแบบก้าวต่อก้าว และสุดท้ายก็คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ
ภารกิจสำคัญรออยู่ในอีก 4 ปีข้างหน้ากับฟุตบอลโลก 2026
ภารกิจแรกในฐานะผู้จัดการทีมชาติไทย ของ ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ นั้นประสบความสำเร็จอย่างน่าชื่นใจ ในการพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ AFF Suzuki Cup หากแต่นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของการเดินทางเท่านั้น เพราะต่อจากนี้หากมาดามแป้ง จะทำอย่างที่กล่าวไว้คือการพาบอลไทยไปบอลโลก นั่นคือการสร้างทีมที่ต้องนำมาใช้งานได้เพื่อเข้าสู่เส้นทางรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2026ปัญหาที่หลายคนกังวลในเวลานี้ของทีมชาติไทยคือผู้เล่นตัวหลักหลายคน เริ่มมีอายุมากขึ้น และ บางคนอาจจะไม่สามารถอยู่ได้จนถึงการแข่งขันฟตุบอลโลกรอบคัดเลือกในอีก 4 ปีข้างหน้าขณะเดียวกันการแข่งขันในไทยลีกที่หวังจะสร้างและพัฒนานักเตะ หากจะกวาดตามองตอนนี้ สิ่งที่ขาดเป็นอย่างยิ่งคือนักเตะไทยฝีเท้าดีในตำแหน่งศูนย์หน้า ซึ่งทีมในไทยลีกส่วนใหญ่จะใช้นักเตะต่างชาติเสียหมด
การสร้างทีมและทำให้ทีมมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคืองานหนักที่รอ ผู้จัดการทีมชาติ ที่ชื่อ ‘นวลพรรณ ล่ำซำ’ อยู่บนเส้นทางข้างหน้า ต่อจากนี้คงต้องมาดูกันว่า ‘มาดามแป้ง’ จะมีวิธีจัดการอย่างไร เพื่อแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่างในแวดวงลูกหนังไทย ผสานประโยชน์ให้กับทุกฝ่าย ขณะเดียวกันก็ต้องสร้างนักฟุตบอลที่มีคุณภาพ และ พร้อมจะทุ่มเทเพื่อในการเล่นทีมชาติ นับเป็นเรื่องน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง