อาลัย ‘คริสเตียน อัสซู’ ปีกความเร็วสูงแห่งทัพดาวดำ

20 กุมภาพันธ์ 2566 - 08:55

RIP-Christian-Atsu-SPACEBAR-Thumbnail
  • แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ตุรกี และ ซีเรีย เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อให้เกิดความสูญเสียอันน่าเศร้ามากมาย รวมถึงวงการฟุตบอล ที่เราได้สูญเสีย ‘คริสเตียน อัสซู’ นักเตะคุณภาพคนหนึ่งไปตลอดกาลเช่นกัน

สตาร์ทด้วยสปีด 

คริสเตียน อัสซู เริ่มต้นอาชีพการค้าแข้งจากการที่ฝีเท้าโดดเด่นเกินเด็ก โดยเฉพาะความเร็วที่เหนือกว่าเด็กรุ่นเดียวกันของเขา ที่ไปเตะตาแมวมองท้องถิ่น เจ้าตัวในวัยเด็กจึงได้เข้าไปสังกัดที่อคาเดมี่ฝึกฟุตบอลหลายแห่งในประเทศ จนมาลงเอยที่ได้สัญญาจาก ชีตาห์ เอฟซี สโมสรฟุตบอลบนลีกกานาบ้านเกิด ซึ่งชีตาห์ เป็นสโมสรที่ขึ้นชื่อเรื่องการปั้นนักฟุตบอลจากถิ่นดาวดำส่งออกไปทั่วยุโรปอยู่แล้ว 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/22XTX0OoZVuEbKLJ8IqMAc/6c9f1b97a908377ba4a0e9916f986df8/RIP-Christian-Atsu-SPACEBAR-Photo01
และไม่นานอัสซูในวัย 17 ก็ได้บินข้ามน้ำข้ามทะเล มาค้าแข้งที่โปรตุเกส กับสโมสรยักษ์ใหญ่อย่างปอร์โต้ แม้จะถูกนายใหญ่ของปอร์โต้ในขณะนั้นอย่าง อังเดร วิลลาส โบอาส เรียกตัวติดทีมชุดใหญ่อยู่บ้าง แต่จนแล้วจนเล่าก็ไม่ได้โอกาสลงสนาม ก่อนถูกปล่อยยืมไปเล่นกับทีมในแดนฝอยทองเพื่อเก็บประสบการณ์อยู่สองสามปี และกลับมาได้แชมป์ลีกกับปอร์โต้ในฐานะขุมกำลังสำรองที่ได้ลงสนามไป 9 เกม 

‘ดาวเด่น’ ทัพ ‘ดาวดำ’

แต่ในขณะที่ระหกระเหินอยู่ในยุโรป ในทางกลับกัน ผลงานทีมชาติของอัสซูกลับกลายเป็นที่ประจักษ์มากกว่า เจ้าตัวได้ลงสนามทีมชาติกานาชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 17-18 และยิงประตูครั้งแรกได้ในเกมที่กานาพบกับเลโซโท ซึ่งในเกมนั้นบรรดาสื่อดังอย่าง ESPN และ BBC ที่ได้เห็นฟอร์มของอัสซูถึงกับชมเปาะ ว่านี่คือดาวเด่นที่มีทั้งความเร็ว และเทคนิคอันน่าประทับใจ เขาน่าจะกลายมาเป็นอนาคตที่สดใสของทัพดาวดำได้เลย  
 
จนเมื่อศึกฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแอฟริกาอย่าง แอฟริกัน เนชั่นส์คัพ 2013 มาถึง อัสซูก็เป็นขุมกำลังสำคัญอีกคนที่ช่วยให้ทัพดาวดำในขณะนั้นคว้าอันดับสี่มาครอง ซึ่งฟอร์มจากทัวร์นาเมนต์นั้นเอง ก็ทำให้เขาถูกบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปจ้องกันตาเป็นมันเลยทีเดียว   
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/11d80RD8uD8s43uQkuWbVc/f0c28ce2fa5aedda7315d02f3be8a858/RIP-Christian-Atsu-SPACEBAR-Photo02

สู่พรีเมียร์ลีก จุดสูงสุดของการค้าแข้ง 

และก็เป็นสโมสรยักษ์ใหญ่จากยุโรปอย่าง ‘เชลซี’ ที่ได้ลายเซ็นของอัตซูมาครอง แต่ด้วยคุณภาพของนักเตะทีมสิงโตน้ำเงินครามในขณะนั้น และความโหดหินของลีกผู้ดี ทำให้จนแล้วจนรอด เจ้าตัวก็ไม่มีพื้นที่ในตัวจริงของทีม ต้องถูกปล่อยยืมอีกเช่นเคย อัตซูตระเวณไปทั้ง วิเทสส์ ในเนเธอร์แลนด์ ก่อนจะกลับมาพรีเมียร์ลีกกับ เอฟเวอร์ตัน บอร์นมัท แต่ก็ยังไม่รับโอกาสลงเล่นมากเท่าที่ควร 

แต่อย่างที่เคยเกริ่นไปในข้างต้น แม้ฟอร์มกับสโมสรจะยังลุ่มๆ ดอนๆ แต่สำหรับชาวกานา อัตซูคือความหวังอีกคนหนึ่งของพวกเขา หลังจากมีชื่อเป็นตัวจริงและได้ลงเล่นกับทัพดาวดำทุกนัดในฟุตบอลโลก 2014 ที่กานาตกรอบแบ่งกลุ่ม เมื่อแอฟริกัน เนชั่นส์คัพ 2015 มาถึง อัตซูก็ได้โชว์ฟอร์มที่ว่ากันว่าดีที่สุดในชีวิตการค้าแข้งของเขา จากการพากานาเข้ารอบชิงชนะเลิศ ที่แม้จะเป็นฝ่ายพ่ายโกตดิวัวร์ไปในนัดชิงจากการดวลจุดโทษอย่างน่าเสียดาย แต่ทัวร์นาเมนต์นั้นอัตซูได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ ควบรางวัลประตูยอดเยี่ยมจากลูกยิงไดรฟ์ชู้ตสุดสวยราวกับหลุดออกมาจากการ์ตูนซึบาสะ ในเกมกับกินี 
และผลงานในทัวร์นาเมนต์ทีมชาติกับกานานี้เอง ที่ทำให้ชื่อของอัตซูกลับมากระฉ่อนอีกครั้ง จนสุดท้ายหลังจบการยืมตัวจากมาลาก้าที่สเปน ในที่สุด อัตซู ในวัย 24 ก็ได้เจอทีมที่เปิดโอกาสให้เขาได้โชว์ความเร็วบนพื้นหญ้าของเขาแบบเต็มๆ ให้กับสายตาแฟนฟุตบอลทั่วโลก นั่นคือนิวคาสเซิลยูไนเต็ด อัตซูลงสนามให้กับนิวคาสเซิลอย่างสม่ำเสมอ จนในที่สุดก็ย้ายจากเชลซีที่เขาสังกัดอยู่มาหลายปีแต่ไม่ได้รับโอกาสลงเล่น มาสู่ทีมดังแดนอีสานของเกาะผู้ดีอย่างถาวร อัตซูได้เล่นฟุตบอลที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาที่นี่เลยก็ว่าได้ แม้จะไม่ได้ยิงประตูมากมาย แต่ตลอดการลงเล่นเกินร้อยนัด ความเร็วของเขา และประตูมหัศจรรย์ที่เจ้าตัวนานๆ จะกดสูตรติด ก็สร้างความตื่นเต้น และความประทับใจให้เหล่าทูนอาร์มี่ไม่น้อย
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/5b9qQMAn9QEEo9E1rXe15l/a55db84bc0afcb559753d1a15c13b7fd/RIP-Christian-Atsu-SPACEBAR-Photo03

เราจะจดจำนายตลอดไป ‘คริสเตียน อัตซู’ 

หลังจากออกจากนิวคาสเซิลในปี 2021 อัตซูที่ร่างกายเริ่มโรยราก็ย้ายไปเล่นที่ลีกซาอุดี อาระเบีย กับ อัล ราเอ็ด แต่ก็โชว์ฟอร์มได้ไม่ดีนัก ก่อนที่เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้วเจ้าตัวจะเซ็นสัญญากับทีมดังแดนไก่งวงอย่าง ฮาเตย์สปอร์ ซึ่งอัตซูพึ่งได้ลงเล่นไปแค่ 3 นัด และพึ่งทำประตูแรกได้เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ โดยเป็นการยิงประตูชัยด้วยลูกฟรีคิกสุดสวยในนาทีที่ 98 ซึ่งสำหรับอัตซูในวัย 31 ปี นี่อาจจะเป็นจุดเริ่มของอะไรบางสิ่ง บางสิ่งที่จะพลิกชีวิตการค้าแข้งของเขากลับมาได้ ทำให้อัตซูที่แต่เดิมมีกำหนดการจะบินกลับมาเยี่ยมครอบครัวหลังจบเกม หลังจากยิงประตูนี้ได้เขาจึงตัดสินใจยกเลิกไฟล์ทเพื่อโฟกัสกับเกมฟุตบอลต่อ การตัดสินใจครั้งนั้นราวกับพระเจ้าจะเล่นตลกกับเขา   
เพราะหลังจากอัตซูยิงประตูสุดสวยไม่กี่ชั่วโมง แถบตุรเคียและซีเรียก็เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ริกเตอร์ ทำให้ดาวเตะกานาถูกประกาศว่าหายสาบสูญทันที ท่ามกลางความตกใจของแฟนบอลทั่วโลก จนในที่สุดหลังจากมีข่าวออกมาเป็นระยะๆ ทั้งข่าวปลอมว่าเจอตัวแล้วแต่ก็ถูกปฏิเสธไป หรือข่าวว่าเจอรองเท้า และข้าวของต่างๆ  

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หลังจากสูญหายไปกว่า 12 วัน เอเยนต์ของคริสเตียน อัตซู ก็ได้ประกาศพวกเขาพบร่างไร้วิญญาณของอัตซู ที่บริเวณซากตึกในละแวกที่อยู่อาศัยของเขา ทำให้อัตซูคือหนึ่งในเหยื่อกว่า 45000 คนที่ต้องจบชีวิตลงจากภัยพิบัติอันน่าเศร้าในครั้งนี้ สร้างความเศร้าโศกให้กับแฟนฟุตบอลทั่วโลก ก่อนเกมฟุตบอลสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจึงมีการไว้ยืนสงบนิ่งไว้อาลัยให้การการจากไปของเขา รวมถึงบรรดาสโมสรฟุตบอลที่เขาเคยค้าแข้ง และบรรดาเพื่อนร่วมทีมออกมาแสดงความเสียใจ ล่าสุด โมฮัมเหม็ด คูดุส ดาวเตะกานาจากอาแจ็กซ์ หลังจากทำประตูได้ก็ได้ถอดโชว์เสื้อที่มีข้อความว่า R.I.P อัตซู เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับดาวเตะระดับตำนานของทัพดาวดำเช่นกัน 

สุดท้ายนี้ ก่อนจากไป อัตซู ยังได้ฝากลูกยิงสุดสวยที่เปรียบเสมือนเครื่องหมายการค้าของเจ้าตัวไว้บนพื้นหญ้า เป็นการบอกลาที่สวยที่สุด เชื่อเหลือเกินว่าแฟนบอลทุกคนจะไม่มีวันลืมชื่อของเขา ขอความสงบจงบังเกิดแก่คุณ หลับให้สบายนะ 

‘คริสเตียน อัสซู’ 

https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6RRH6DDsD6TodOCvng1tnf/bcc26be1160cff1c31dca215db97216a/RIP-Christian-Atsu-SPACEBAR-Photo04

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์