ภาพของชาวแคลิฟอร์เนียที่เคยชินกับการสวมรองเท้าแตะและกางเกงขาสั้นต้องดับสลายลงเมื่อพายุหิมะฤดูหนาวที่ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี พัดถล่มลอสแองเจลิส แม้ว่าสภาพอากาศบริเวณชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ จะมีอุณหภูมิคล้ายฤดูร้อนก็ตาม
สำนักงานสภาพอากาศแห่งชาติ (NWS) กล่าวเตือนถึง ‘สภาพภูเขาที่อันตรายอย่างยิ่ง’ โดยคาดการณ์ว่าหิมะจะตกสะสมและมีความสูงถึง 2 เมตร (7 ฟุต) และจะส่งผลกระทบต่อเนินเขารอบๆ ลอสแองเจลิส ซึ่งคำเตือนพายุหิมะนี้ มีผลตั้งแต่วันศุกร์ (24 ก.พ.) ในช่วงเช้าตามเวลาท้องถิ่น นับเป็นการประกาศเตือนครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1989
NWS ระบุข้อความผ่านทวิตเตอร์ด้วยว่า ‘เรายังคงอยู่ในขีด ‘อันตราย’ สำหรับพายุฤดูหนาว คาดว่าจะมีพายุหิมะบนภูเขาและมีหิมะตกหนัก อีกทั้งยังคาดว่าจะมีฝนตกเล็กน้อยในพื้นที่ราบต่ำ ขอประชาชนเตรียมรับมือกับสภาพอากาศให้พร้อม!’
ขณะที่ใจกลางเมืองลอสแองเจลิส กลายเป็นเมืองที่มองไปทางไหนก็เห็นแต่สีขาวโพลน
อย่างไรก็ดี เมืองนี้ล้อมรอบไปด้วยภูเขา ในวันที่อากาศแจ่มใสจะมองเห็นภูเขาซานอันโตนิโอที่มีความสูง กว่า 3,000 เมตร (10,000 ฟุต) และยอดเขาอื่นๆ ในภูเขาซานกาเบรียล และยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะน่าจะสร้างความสวยงามให้กับสายตาของชาวเมือง
แต่สำหรับผู้ที่พยายามเดินทางผ่านภูเขานั้น.. ความรู้สึกมันราวกับหนังชีวิต
NSW ในแฮนด์ฟอร์ด กล่าวว่า พื้นที่เหนือแนวหิมะน่าจะมีทั้งลมแรงและหิมะตกหนัก การเดินทางจะยาก และแทบจะเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะทางขึ้นเขา
ในเทือกเขาเซียร์รา ซึ่งพายุในเดือนมกราคมได้ทิ้งก้อนหิมะไว้จำนวนมาก คาดว่าจะมีมากขึ้นพร้อมกับอุณหภูมิที่ลดลง
“ห่อร่างกายกันให้มิดชิดเลยนะ เพราะอากาศจะหนาวและลมแรง!” นักพยากรณ์กล่าวพร้อมเสริมว่า บางครั้งลมหนาวจะเป็นอันตรายในพื้นที่โล่งของเทือกเขาเซียร์รา โดยอุณหภูมิจะลดต่ำถึง -30 องศาเซลเซียส
ขณะที่ในส่วนอื่นๆ ของสหรัฐฯ ที่ประสบกับความหนาวจัดก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยพื้นที่รอบเกรตเลกส์ประสบปัญหาไฟฟ้าดับ ประชาชนมากกว่า 900,000 ราย ในภูมิภาคนี้ต้องเผชิญกับความมืดมิด
ด้านนักพยากรณ์เตือนว่าน้ำแข็งที่ก่อตัวบนสายไฟจะทำให้พวกมันเสี่ยงต่อความเสียหายจากลมกระโชกแรง ขณะที่สื่อท้องถิ่นในรัฐมิชิแกน รายงานว่า มีนักผจญเพลิงอาสาสมัครคนหนึ่งเสียชีวิตจากสายไฟฟ้าที่ตกลงมา
NWS ของทั้ง 2 เมืองโพสต์ภาพหิมะที่โปรยปรายอยู่นอกสำนักงาน พร้อมเตือนผู้ขับขี่ให้ระมัดระวัง
ตามข้อมูลของ flightaware.com ระบุว่า สภาพอากาศที่มีหิมะตกหนักสร้างความทุกข์ยากแก่นักเดินทาง โดยเที่ยวบินมากกว่า 1,000 เที่ยวภายใน ทั้งขาเข้าหรือขาออกจากสหรัฐฯ ถูกยกเลิก
ขณะที่โรงเรียนหลายร้อยแห่งในภูมิภาคนี้ปิดให้บริการเนื่องจากสภาพอากาศ
เมื่อวันพฤหัสบดี (23 ก.พ.) ที่ผ่านมา สหรัฐฯ บริเวณตะวันออกเฉียงเหนือยังอยู่ภายใต้คำเตือนพายุฤดูหนาว ด้วยสภาพการเดินทางที่ยากลำบากในหลายพื้นที่ของรัฐนิวยอร์ก ซึ่งรวมถึงเมืองบัฟฟาโล ซึ่งพายุหิมะที่พัดแรงในเดือนธันวาคมได้คร่าชีวิตผู้คนไปหลายสิบคน
แต่ไกลออกไปตามชายฝั่ง บางพื้นที่มีอุณหภูมิสูงเป็นประวัติการณ์ โดยอุณหภูมิรอบกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. คาดว่าจะสูงถึง 27 องศาเซลเซียส
NWS บาติมอล-วอชิงตัน ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า ‘คาดว่าอุณหภูมิจะอบอุ่นเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ ทำให้รู้สึกเหมือนปลายเดือนพ.ค. ทั้งๆ ที่ตอนนี้เป็นเดือนก.พ. ทั้งนี้ยังคาดการณ์ว่า ภูมิอากาศ 4 ใน 7 พื้นที่ อาจทำลายสถิติอุณภูมิสูงหลายองศา’
สำนักงานสภาพอากาศแห่งชาติ (NWS) กล่าวเตือนถึง ‘สภาพภูเขาที่อันตรายอย่างยิ่ง’ โดยคาดการณ์ว่าหิมะจะตกสะสมและมีความสูงถึง 2 เมตร (7 ฟุต) และจะส่งผลกระทบต่อเนินเขารอบๆ ลอสแองเจลิส ซึ่งคำเตือนพายุหิมะนี้ มีผลตั้งแต่วันศุกร์ (24 ก.พ.) ในช่วงเช้าตามเวลาท้องถิ่น นับเป็นการประกาศเตือนครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1989
NWS ระบุข้อความผ่านทวิตเตอร์ด้วยว่า ‘เรายังคงอยู่ในขีด ‘อันตราย’ สำหรับพายุฤดูหนาว คาดว่าจะมีพายุหิมะบนภูเขาและมีหิมะตกหนัก อีกทั้งยังคาดว่าจะมีฝนตกเล็กน้อยในพื้นที่ราบต่ำ ขอประชาชนเตรียมรับมือกับสภาพอากาศให้พร้อม!’
ขณะที่ใจกลางเมืองลอสแองเจลิส กลายเป็นเมืองที่มองไปทางไหนก็เห็นแต่สีขาวโพลน
อย่างไรก็ดี เมืองนี้ล้อมรอบไปด้วยภูเขา ในวันที่อากาศแจ่มใสจะมองเห็นภูเขาซานอันโตนิโอที่มีความสูง กว่า 3,000 เมตร (10,000 ฟุต) และยอดเขาอื่นๆ ในภูเขาซานกาเบรียล และยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะน่าจะสร้างความสวยงามให้กับสายตาของชาวเมือง
แต่สำหรับผู้ที่พยายามเดินทางผ่านภูเขานั้น.. ความรู้สึกมันราวกับหนังชีวิต
NSW ในแฮนด์ฟอร์ด กล่าวว่า พื้นที่เหนือแนวหิมะน่าจะมีทั้งลมแรงและหิมะตกหนัก การเดินทางจะยาก และแทบจะเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะทางขึ้นเขา
ในเทือกเขาเซียร์รา ซึ่งพายุในเดือนมกราคมได้ทิ้งก้อนหิมะไว้จำนวนมาก คาดว่าจะมีมากขึ้นพร้อมกับอุณหภูมิที่ลดลง
“ห่อร่างกายกันให้มิดชิดเลยนะ เพราะอากาศจะหนาวและลมแรง!” นักพยากรณ์กล่าวพร้อมเสริมว่า บางครั้งลมหนาวจะเป็นอันตรายในพื้นที่โล่งของเทือกเขาเซียร์รา โดยอุณหภูมิจะลดต่ำถึง -30 องศาเซลเซียส
ขณะที่ในส่วนอื่นๆ ของสหรัฐฯ ที่ประสบกับความหนาวจัดก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยพื้นที่รอบเกรตเลกส์ประสบปัญหาไฟฟ้าดับ ประชาชนมากกว่า 900,000 ราย ในภูมิภาคนี้ต้องเผชิญกับความมืดมิด
ด้านนักพยากรณ์เตือนว่าน้ำแข็งที่ก่อตัวบนสายไฟจะทำให้พวกมันเสี่ยงต่อความเสียหายจากลมกระโชกแรง ขณะที่สื่อท้องถิ่นในรัฐมิชิแกน รายงานว่า มีนักผจญเพลิงอาสาสมัครคนหนึ่งเสียชีวิตจากสายไฟฟ้าที่ตกลงมา
NWS ของทั้ง 2 เมืองโพสต์ภาพหิมะที่โปรยปรายอยู่นอกสำนักงาน พร้อมเตือนผู้ขับขี่ให้ระมัดระวัง
ตามข้อมูลของ flightaware.com ระบุว่า สภาพอากาศที่มีหิมะตกหนักสร้างความทุกข์ยากแก่นักเดินทาง โดยเที่ยวบินมากกว่า 1,000 เที่ยวภายใน ทั้งขาเข้าหรือขาออกจากสหรัฐฯ ถูกยกเลิก
ขณะที่โรงเรียนหลายร้อยแห่งในภูมิภาคนี้ปิดให้บริการเนื่องจากสภาพอากาศ
เมื่อวันพฤหัสบดี (23 ก.พ.) ที่ผ่านมา สหรัฐฯ บริเวณตะวันออกเฉียงเหนือยังอยู่ภายใต้คำเตือนพายุฤดูหนาว ด้วยสภาพการเดินทางที่ยากลำบากในหลายพื้นที่ของรัฐนิวยอร์ก ซึ่งรวมถึงเมืองบัฟฟาโล ซึ่งพายุหิมะที่พัดแรงในเดือนธันวาคมได้คร่าชีวิตผู้คนไปหลายสิบคน
แต่ไกลออกไปตามชายฝั่ง บางพื้นที่มีอุณหภูมิสูงเป็นประวัติการณ์ โดยอุณหภูมิรอบกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. คาดว่าจะสูงถึง 27 องศาเซลเซียส
NWS บาติมอล-วอชิงตัน ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า ‘คาดว่าอุณหภูมิจะอบอุ่นเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ ทำให้รู้สึกเหมือนปลายเดือนพ.ค. ทั้งๆ ที่ตอนนี้เป็นเดือนก.พ. ทั้งนี้ยังคาดการณ์ว่า ภูมิอากาศ 4 ใน 7 พื้นที่ อาจทำลายสถิติอุณภูมิสูงหลายองศา’