เกิดอะไรขึ้นในสหรัฐฯ!? พายุหิมะถล่มตอนเหนือ แต่ตอนใต้ร้อนจัดเป็นประวัติการณ์

24 กุมภาพันธ์ 2566 - 04:31

Big-freeze-and-heat-wave-in-us-SPACEBAR-Thumbnail
  • สำนักงานสภาพอากาศแห่งชาติ (NWS) กล่าวเตือนถึง ‘สภาพภูเขาที่อันตรายอย่างยิ่ง’ โดยคาดการณ์ว่าหิมะจะตกสะสมและมีความสูงถึง 2 เมตร และจะส่งผลกระทบต่อเนินเขารอบๆ ลอสแองเจลิส

  • สภาพอากาศที่มีหิมะตกหนักสร้างความทุกข์ยากแก่นักเดินทาง โดยเที่ยวบินมากกว่า 1,000 เที่ยวภายใน ทั้งขาเข้าหรือขาออกจากสหรัฐฯ ถูกยกเลิก

  • แต่ไกลออกไปตามชายฝั่ง บางพื้นที่มีอุณหภูมิสูงเป็นประวัติการณ์ โดยอุณหภูมิรอบกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. คาดว่าจะสูงถึง 27 องศาเซลเซียส

ภาพของชาวแคลิฟอร์เนียที่เคยชินกับการสวมรองเท้าแตะและกางเกงขาสั้นต้องดับสลายลงเมื่อพายุหิมะฤดูหนาวที่ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี พัดถล่มลอสแองเจลิส แม้ว่าสภาพอากาศบริเวณชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ จะมีอุณหภูมิคล้ายฤดูร้อนก็ตาม 

สำนักงานสภาพอากาศแห่งชาติ (NWS) กล่าวเตือนถึง ‘สภาพภูเขาที่อันตรายอย่างยิ่ง’ โดยคาดการณ์ว่าหิมะจะตกสะสมและมีความสูงถึง 2 เมตร (7 ฟุต) และจะส่งผลกระทบต่อเนินเขารอบๆ ลอสแองเจลิส  ซึ่งคำเตือนพายุหิมะนี้ มีผลตั้งแต่วันศุกร์ (24 ก.พ.) ในช่วงเช้าตามเวลาท้องถิ่น นับเป็นการประกาศเตือนครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1989  

NWS ระบุข้อความผ่านทวิตเตอร์ด้วยว่า ‘เรายังคงอยู่ในขีด ‘อันตราย’ สำหรับพายุฤดูหนาว คาดว่าจะมีพายุหิมะบนภูเขาและมีหิมะตกหนัก อีกทั้งยังคาดว่าจะมีฝนตกเล็กน้อยในพื้นที่ราบต่ำ ขอประชาชนเตรียมรับมือกับสภาพอากาศให้พร้อม!’ 

ขณะที่ใจกลางเมืองลอสแองเจลิส กลายเป็นเมืองที่มองไปทางไหนก็เห็นแต่สีขาวโพลน  

อย่างไรก็ดี เมืองนี้ล้อมรอบไปด้วยภูเขา ในวันที่อากาศแจ่มใสจะมองเห็นภูเขาซานอันโตนิโอที่มีความสูง กว่า 3,000 เมตร (10,000 ฟุต) และยอดเขาอื่นๆ ในภูเขาซานกาเบรียล และยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะน่าจะสร้างความสวยงามให้กับสายตาของชาวเมือง 

แต่สำหรับผู้ที่พยายามเดินทางผ่านภูเขานั้น.. ความรู้สึกมันราวกับหนังชีวิต  

NSW ในแฮนด์ฟอร์ด กล่าวว่า พื้นที่เหนือแนวหิมะน่าจะมีทั้งลมแรงและหิมะตกหนัก การเดินทางจะยาก และแทบจะเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะทางขึ้นเขา 

ในเทือกเขาเซียร์รา ซึ่งพายุในเดือนมกราคมได้ทิ้งก้อนหิมะไว้จำนวนมาก คาดว่าจะมีมากขึ้นพร้อมกับอุณหภูมิที่ลดลง 

“ห่อร่างกายกันให้มิดชิดเลยนะ เพราะอากาศจะหนาวและลมแรง!” นักพยากรณ์กล่าวพร้อมเสริมว่า บางครั้งลมหนาวจะเป็นอันตรายในพื้นที่โล่งของเทือกเขาเซียร์รา โดยอุณหภูมิจะลดต่ำถึง -30 องศาเซลเซียส  

ขณะที่ในส่วนอื่นๆ ของสหรัฐฯ ที่ประสบกับความหนาวจัดก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยพื้นที่รอบเกรตเลกส์ประสบปัญหาไฟฟ้าดับ ประชาชนมากกว่า 900,000 ราย ในภูมิภาคนี้ต้องเผชิญกับความมืดมิด  

ด้านนักพยากรณ์เตือนว่าน้ำแข็งที่ก่อตัวบนสายไฟจะทำให้พวกมันเสี่ยงต่อความเสียหายจากลมกระโชกแรง ขณะที่สื่อท้องถิ่นในรัฐมิชิแกน รายงานว่า มีนักผจญเพลิงอาสาสมัครคนหนึ่งเสียชีวิตจากสายไฟฟ้าที่ตกลงมา 

NWS ของทั้ง 2 เมืองโพสต์ภาพหิมะที่โปรยปรายอยู่นอกสำนักงาน พร้อมเตือนผู้ขับขี่ให้ระมัดระวัง 

ตามข้อมูลของ flightaware.com  ระบุว่า สภาพอากาศที่มีหิมะตกหนักสร้างความทุกข์ยากแก่นักเดินทาง โดยเที่ยวบินมากกว่า 1,000 เที่ยวภายใน ทั้งขาเข้าหรือขาออกจากสหรัฐฯ ถูกยกเลิก  

ขณะที่โรงเรียนหลายร้อยแห่งในภูมิภาคนี้ปิดให้บริการเนื่องจากสภาพอากาศ 

เมื่อวันพฤหัสบดี (23 ก.พ.) ที่ผ่านมา สหรัฐฯ บริเวณตะวันออกเฉียงเหนือยังอยู่ภายใต้คำเตือนพายุฤดูหนาว  ด้วยสภาพการเดินทางที่ยากลำบากในหลายพื้นที่ของรัฐนิวยอร์ก ซึ่งรวมถึงเมืองบัฟฟาโล ซึ่งพายุหิมะที่พัดแรงในเดือนธันวาคมได้คร่าชีวิตผู้คนไปหลายสิบคน 

แต่ไกลออกไปตามชายฝั่ง บางพื้นที่มีอุณหภูมิสูงเป็นประวัติการณ์ โดยอุณหภูมิรอบกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. คาดว่าจะสูงถึง 27 องศาเซลเซียส 

NWS บาติมอล-วอชิงตัน ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า ‘คาดว่าอุณหภูมิจะอบอุ่นเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ ทำให้รู้สึกเหมือนปลายเดือนพ.ค. ทั้งๆ ที่ตอนนี้เป็นเดือนก.พ. ทั้งนี้ยังคาดการณ์ว่า ภูมิอากาศ 4 ใน 7 พื้นที่ อาจทำลายสถิติอุณภูมิสูงหลายองศา’ 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์