ผู้เชี่ยวชาญคาดอีก 10 ปีข้างหน้าจะมีหุ่นยนต์เข้ามาช่วยทำงานบ้านเกือบครึ่ง!

23 กุมภาพันธ์ 2566 - 05:49

xperts-say-Robots-to-do-39%-of-domestic-chores-by-2033-SPACEBAR-Thumbnail
  • “หุ่นยนต์สำหรับงานบ้าน เช่น เครื่องดูดฝุ่นหุ่นยนต์จะกลายเป็นหุ่นยนต์ที่ผลิตและขายอย่างกว้างขวางที่สุดในโลก”

  • การคาดการณ์ในอีก 10 ปีข้างหน้านั้นพบว่า หุ่นยนต์อาจจะเข้ามีบทบาทในการทำงานบ้านแทนเราได้

ภายในหนึ่งทศวรรษข้างหน้า ประมาณ 39% ของเวลาที่ใช้ในการทำงานบ้านและการดูแลคนที่คุณรักอาจเป็นไปโดยอัตโนมัติ 

สำนักข่าว BBC รายงานว่า นักวิจัยจากสหราชอาณาจักรและญี่ปุ่นขอให้ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ราว 65 คน คาดการณ์ปริมาณระบบเทคโนโลยีอัตโนมัติในงานครัวเรือนทั่วไปอีก 10 ปีข้างหน้า 

การวิจัยซึ่งตีพิมพ์ในวารสารารวิทยาศาสตร์ PLOS ONE ระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าการซื้อของชำมีแนวโน้มที่จะพัฒนาเป็นระบบอัตโนมัติมากที่สุด ในขณะที่การดูแลเด็กหรือผู้ใหญ่นั้นได้รับผลกระทบจาก AI น้อยที่สุด  

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดและมหาวิทยาลัยโอชาโนมิซุของญี่ปุ่นต้องการทราบว่า ‘หุ่นยนต์จะส่งผลกระทบต่อการทำงานบ้านของเราอย่างไร หุ่นยนต์จะเข้ามาทำหน้าที่เหล่านี้แทนเราหรือไม่ หรืออย่างน้อยมันจะเอาขยะไปทิ้งให้เราได้ไหม?’ 

“หุ่นยนต์สำหรับงานบ้าน เช่น เครื่องดูดฝุ่นหุ่นยนต์จะกลายเป็นหุ่นยนต์ที่ผลิตและขายอย่างกว้างขวางที่สุดในโลก” นักวิจัยระบุ 

ทีมวิจัยได้สอบถามผู้เชี่ยวชาญ AI 29 คนจากสหราชอาณาจักรและผู้เชี่ยวชาญ AI 36 คนจากญี่ปุ่นเกี่ยวกับการคาดการณ์ของพวกเขาสำหรับหุ่นยนต์งานบ้าน ซึ่งพบว่าผู้เชี่ยวชาญในสหราชอาณาจักรชายมีแนวโน้มที่ดีต่อระบบอัตโนมัติในประเทศมากขึ้นเมื่อเทียบกับผู้เชี่ยวชาญที่เป็นผู้หญิง ในทางกลับกันทีมผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่นที่เป็นหญิงกลับมีความต้องการระบบอัตโนมัติมากกว่าผู้เชี่ยวชาญชายเสียอีก 

“คาดว่าเทคโนโลยีดังกล่าวนี้จะช่วยลดวลาที่เราใช้ในการช็อปปิ้งในร้านขายของชำลง 60%” ผู้เชี่ยวชาญกล่าว และยังคาดการณ์ว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้าหุ่นยนต์อาจจะเข้ามีบทบาทในการทำงานบ้านแทนเราได้ 

ดร.เคท เดฟลิน แห่งมหาวิทยาลัยคิงส์คอลเลจลอนดอน ผู้ที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการวิจัยครั้งนี้แนะนำว่า “เทคโนโลยีมีแนวโน้มที่จะช่วยเหลือมนุษย์มากกว่าจะเข้ามาแทนที่พวกเขา มันยากและมีราคาแพงที่จะทำหุ่นยนต์ที่สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง มันง่ายและมีประโยชน์มากกว่าในการสร้างเทคโนโลยีที่ช่วยเหลือเราแทนที่จะให้มันมาแทนที่เรา” 

การวิจัยชี้ให้เห็นชายวัยทำงานในสหราชอาณาจักรทำงานบ้านประมาณครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับผู้หญิงวัยทำงาน แต่ในญี่ปุ่นผู้ชายทำน้อยกว่า 1 ใน 5 

“เมื่อเกิดความไม่สมดุลระหว่างการทำงานบ้านในครัวเรือนกับผู้หญิงจึงมีผลกระทบเชิงลบต่อรายได้ การออมและเงินบำนาญของผู้หญิงด้วย…การมีระบบอัตโนมัติอาจส่งผลให้ความเท่าเทียมทางเพศมีมากขึ้นก็ได้”  

“อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีอาจมีราคาแพง หากระบบที่จะช่วยเหลืองานบ้านนั้นมีราคาไม่แพงสำหรับสังคมย่อยเท่านั้น ก็อาจจะนำไปสู่ความไม่เท่าเทียมกันในเวลาว่าง…สังคมจำเป็นต้องมีชีวิตอยู่กับปัญหาที่เกิดขึ้นจากบ้านที่เต็มไปด้วยระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ” เอแคร์เทอรินา เฮอร์ทอก์ รองศาสตราจารย์สาขา AI และ Society แห่งมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดกล่าว 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์