แพทย์เยอรมันรักษาผู้ป่วย HIV หายขาดสำเร็จแล้ว! ด้วยการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์

21 กุมภาพันธ์ 2566 - 08:15

Researchers-say-Man-cured-of-HIV-after-stem-cell-transplant-Germany-SPACEBAR-Thumbnail
  • การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์เกี่ยวข้องกับการทำลายเซลล์เม็ดเลือดที่ไม่แข็งแรงและแทนที่ด้วยสเต็มเซลล์ที่ดีต่อสุขภาพซึ่งถูกกำจัดออกจากเลือดหรือไขกระดูก

  • ทีมวิจัยระหว่างประเทศนำโดยแพทย์โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยดัสเซลคอร์ฟหวังว่าความรู้ที่ได้รับจะเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการวางแผนการศึกษาในอนาคตเกี่ยวกับการรักษา HIV

สำนักข่าว South China Morning Post รายงานว่า นักวิจัยกล่าวว่า ชายคนหนึ่งหายจากเชื้อเอชไอวี (HIV) หลังจากปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ 

ผู้ป่วยชายวัย 53 ปี หรือที่รู้จักในชื่อเคส ดัสเซลคอร์ฟ (Düsseldorf) หนึ่งในผู้ป่วย HIV และเป็นผู้ป่วยรายที่ 3 ของโลกที่ได้รับการรักษาให้หายขาดจากโรคร้ายนี้ ซึ่งเขาหยุดยาต้านไวรัส (การรับประทานยาเพื่อยับยั้งไวรัส) เป็นเวลา 4 ปีโดยไม่กลับมาเป็นซ้ำอีก 

เช่นเดียวกับในกรณีของผู้ป่วยอีก 2 ราย (ผู้ป่วยในเบอร์ลินและผู้ป่วยในลอนดอน) การปลูกถ่ายได้ดำเนินการเพื่อรักษาความผิดปกติเฉียบพลันของเลือด ในกรณีของผู้ป่วยดัสเซลคอร์ฟที่ติดเชื้อ HIV และภายหลังพบว่ามีโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวร่วมด้วย 

ผู้ป่วยดัสเซลคอร์ฟรายนี้ ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อ HIV ในปี 2008 และ 6 เดือนหลังจากเริ่มการรักษา HIV เขาก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์ (AML) ซึ่งเป็นมะเร็งเม็ดเลือดรูปแบบหนึ่งที่คุกคามชีวิต และเขาเริ่มเข้ารับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์สำหรับโรคนี้ในปี 2013 

จนในปี 2018 หลังจากวางแผนอย่างรอบคอบและติดตามอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์ การรักษาด้วยยาต้านไวรัส HIV จึงยุติลง 

เกือบ 10 ปีหลังจากการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากผู้บริจาคที่ไม่ได้เป็นฐาติกัน และกว่า 4 ปีหลังจากสิ้นสุดการรักษา ขณะนี้ผู้ป่วยมีสุขภาพที่ดี 

“ทุกวันนี้ ผมรู้สึกภูมิใจมากขึ้นกับทีมแพทย์ทั่วโลกของผมที่ประสบความสำเร็จในการรักษาผมจากเชื้อ HIV และโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในเวลาเดียวกัน” อดีตผู้ป่วยดัสเซลคอร์ฟ กล่าว 

นักวิจัยกล่าวว่า ข้อเท็จจริงที่ว่าไวรัสไม่ได้กลับมาอีกนั้นเป็นผลจากการเตรียมการทางวิทยาศาสตร์และการรักษาอย่างละเอียดถี่ถ้วน และการเฝ้าติดตาม โดยการศึกษานี้เป็นการติดตามการวินิจฉัยที่ยาวนานและแม่นยำที่สุดของผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV หลังการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ 

การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์เกี่ยวข้องกับการทำลายเซลล์เม็ดเลือดที่ไม่แข็งแรงและแทนที่ด้วยสเต็มเซลล์ที่ดีต่อสุขภาพซึ่งถูกกำจัดออกจากเลือดหรือไขกระดูก 

ทีมวิจัยระหว่างประเทศนำโดยแพทย์โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยดัสเซลคอร์ฟหวังว่าความรู้ที่ได้รับจะเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการวางแผนการศึกษาในอนาคตเกี่ยวกับการรักษา HIV  

เนื่องจากมีความเสี่ยงสูง การรักษาแบบปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จึงดำเนินการภายใต้กรอบของการรักษาโรคอื่นๆ ที่คุกคามชีวิตเท่านั้น 

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการวิจัยต้องดำเนินต่อไปเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเอาชนะการติดเชื้อ HIV ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการรักษาที่ยากเย็นแสนเข็ญเช่นนี้อีกในอนาคต 

ในนามของทีมงานระหว่างประเทศ ดร. บียอร์น-เอริก โอเลเจนเซน กล่าวว่า “จากการวิจัยอย่างเข้มข้นของเรา ตอนนี้เราสามารถยืนยันได้ว่ามีความเป็นไปได้โดยพื้นฐานที่จะป้องกันการแพร่พันธุ์ของเชื้อ HIV อย่างยั่งยืนโดยการรวม 2 วิธีหลักเข้าด้วยกัน” 

“ในแง่หนึ่ง เรามีการลดลงอย่างมากของแหล่งกักเก็บไวรัสในเซลล์ภูมิคุ้มกันที่มีอายุยืน และในทางกลับกัน การถ่ายโอนการดื้อยา HIV จากระบบภูมิคุ้มกันของผู้บริจาคไปยังผู้รับก็ทำให้มั่นใจได้ว่าไวรัสจะไม่มีโอกาสแพร่เชื้อ หรือแพร่กระจายอีกครั้ง” 

“ตอนนี้จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทำให้สิ่งนี้เป็นไปได้นอกกรอบเงื่อนไขแคบๆ ที่เราอธิบายไว้” โอเลเจนเซน กล่าวทิ้งท้าย 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์