ชายหาดที่ปลอดโปร่ง วิถีชีวิตสบายๆ และกลิ่นอายของวันหยุด สวรรค์เขตร้อนอย่าง ‘บาหลี’ มีหลายสิ่งให้กับนักเดินทางที่กำลังเบื่อโลก ไม่ต้องพูดถึงผู้ที่หนีสงคราม
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่นับตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียเปิดตัวการรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ‘บาหลี’ สถานที่ตากอากาศที่มีชื่อเสียงที่สุดของอินโดนีเซียได้กลายเป็นเหมือนกับแม่เหล็กที่คอยดึงดูดชาวรัสเซียและชาวยูเครนหลายพันคนที่พยายามหลีกหนีจากความน่าสะพรึงกลัวของสงครามอีกครั้ง
รัฐบาลอินโดนีเซียระบุว่า ชาวรัสเซียประมาณ 58,000 คนมาเยือนพื้นที่ชนบทที่สวยงามแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ในปี 2022 หลังการกลับมาเปิดอีกครั้งหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย และอีก 22,500 คนมาถึงในเดือนมกราคม 2023 ทำให้พวกเขาเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากชาวออสเตรเลีย จำนวนที่เพิ่มขึ้นคือชาวยูเครนมากกว่า 7,000 คนที่มาเยือนในปี 2022 และอีก 2,500 คนในเดือนแรกของปีนี้
แต่สำหรับผู้ที่หลบหนีจากความรุนแรง ทางการบาหลีเรียกร้องให้ยุตินโยบายวีซ่า VOA ของอินโดนีเซียสำหรับพลเมืองของรัสเซียและยูเครนที่ออกให้เมื่อเดินทางมาถึงประเทศปลายทาง โดยอ้างถึงเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและตัวอย่างต่างๆ ของนักท่องเที่ยวที่อยู่เกินวีซ่าและทำงานอย่างผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นช่างทำผม ไกด์นำเที่ยวที่ไม่ได้รับอนุญาต และแท็กซี่
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความตกตะลึงให้กับชาวยูเครนหลายคนบนเกาะนี้ที่บอกว่าเหตุการส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับชาวรัสเซียละว่าพวกเขาได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม
“เมื่อใดก็ตามที่เราได้รับรายงานเกี่ยวกับชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่ดี ก็มักจะเป็นชาวรัสเซียเสมอ” เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นในเมืองกูตาบอกกับ CNN โดยปฏิเสธที่จะระบุตัวตนเนื่องจากความอ่อนไหวต่อประเด็นนี้
“คนต่างชาติมาบาหลีแต่ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย เป็นเช่นนี้มาโดยตลอดและในที่สุดก็ต้องยุติลง” เขากล่าว
นักท่องเที่ยวที่ประพฤติตัวไม่ดีอาจเป็นเรื่องละเอียดอ่อนในบาหลี ซึ่งชาวต่างชาติจากหลากหลายเชื้อชาติมักจะตกเป็นข่าวพาดหัวข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมเมาสุราและไม่เหมาะสม การเปลือยกายในที่สาธารณะ และการดูหมิ่นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
“ทำไมถึงเป็นคนจาก 2 ประเทศนี้ เนื่องจากพวกเขาอยู่ในภาวะสงคราม พวกเขาจึงแห่กันมาที่นี่” วายัน คอสเตอร์ ผู้ว่าการเกาะบาหลีกล่าวในการแถลงข่าวในสัปดาห์นี้
การหลั่งไหลของชาวรัสเซียและชาวยูเครนในบาหลีเกิดขึ้นแม้ว่ายูเครนจะสั่งห้ามผู้ชายทุกคนที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 60 ปีเดินทางออกนอกประเทศก็ตาม รัสเซียไม่มีคำสั่งห้ามแบบครอบคลุมอย่างเป็นทางการ แต่ได้ระดมทหารกองหนุน 300,000 นายเข้าร่วมการสู้รบ กระตุ้นให้ชายหนุ่มจำนวนมากหลบหนีไปต่างประเทศแทนที่จะถูกเกณฑ์ทหาร
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่นับตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียเปิดตัวการรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ‘บาหลี’ สถานที่ตากอากาศที่มีชื่อเสียงที่สุดของอินโดนีเซียได้กลายเป็นเหมือนกับแม่เหล็กที่คอยดึงดูดชาวรัสเซียและชาวยูเครนหลายพันคนที่พยายามหลีกหนีจากความน่าสะพรึงกลัวของสงครามอีกครั้ง
รัฐบาลอินโดนีเซียระบุว่า ชาวรัสเซียประมาณ 58,000 คนมาเยือนพื้นที่ชนบทที่สวยงามแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ในปี 2022 หลังการกลับมาเปิดอีกครั้งหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย และอีก 22,500 คนมาถึงในเดือนมกราคม 2023 ทำให้พวกเขาเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากชาวออสเตรเลีย จำนวนที่เพิ่มขึ้นคือชาวยูเครนมากกว่า 7,000 คนที่มาเยือนในปี 2022 และอีก 2,500 คนในเดือนแรกของปีนี้
แต่สำหรับผู้ที่หลบหนีจากความรุนแรง ทางการบาหลีเรียกร้องให้ยุตินโยบายวีซ่า VOA ของอินโดนีเซียสำหรับพลเมืองของรัสเซียและยูเครนที่ออกให้เมื่อเดินทางมาถึงประเทศปลายทาง โดยอ้างถึงเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและตัวอย่างต่างๆ ของนักท่องเที่ยวที่อยู่เกินวีซ่าและทำงานอย่างผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นช่างทำผม ไกด์นำเที่ยวที่ไม่ได้รับอนุญาต และแท็กซี่
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความตกตะลึงให้กับชาวยูเครนหลายคนบนเกาะนี้ที่บอกว่าเหตุการส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับชาวรัสเซียละว่าพวกเขาได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม
“เมื่อใดก็ตามที่เราได้รับรายงานเกี่ยวกับชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่ดี ก็มักจะเป็นชาวรัสเซียเสมอ” เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นในเมืองกูตาบอกกับ CNN โดยปฏิเสธที่จะระบุตัวตนเนื่องจากความอ่อนไหวต่อประเด็นนี้
“คนต่างชาติมาบาหลีแต่ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย เป็นเช่นนี้มาโดยตลอดและในที่สุดก็ต้องยุติลง” เขากล่าว
นักท่องเที่ยวที่ประพฤติตัวไม่ดีอาจเป็นเรื่องละเอียดอ่อนในบาหลี ซึ่งชาวต่างชาติจากหลากหลายเชื้อชาติมักจะตกเป็นข่าวพาดหัวข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมเมาสุราและไม่เหมาะสม การเปลือยกายในที่สาธารณะ และการดูหมิ่นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
“ทำไมถึงเป็นคนจาก 2 ประเทศนี้ เนื่องจากพวกเขาอยู่ในภาวะสงคราม พวกเขาจึงแห่กันมาที่นี่” วายัน คอสเตอร์ ผู้ว่าการเกาะบาหลีกล่าวในการแถลงข่าวในสัปดาห์นี้
การหลั่งไหลของชาวรัสเซียและชาวยูเครนในบาหลีเกิดขึ้นแม้ว่ายูเครนจะสั่งห้ามผู้ชายทุกคนที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 60 ปีเดินทางออกนอกประเทศก็ตาม รัสเซียไม่มีคำสั่งห้ามแบบครอบคลุมอย่างเป็นทางการ แต่ได้ระดมทหารกองหนุน 300,000 นายเข้าร่วมการสู้รบ กระตุ้นให้ชายหนุ่มจำนวนมากหลบหนีไปต่างประเทศแทนที่จะถูกเกณฑ์ทหาร