คลองเวนิสแห้งขอดจนล่องเรือกอนโดลาไม่ได้ ส่งสัญญาณอิตาลีอาจแล้งหนักอีกรอบ

22 กุมภาพันธ์ 2566 - 06:51

Venice-canals-run-dry-amid-fears-Italy-faces-another-drought-SPACEBAR-Thumbnail
  • กลุ่มสิ่งแวดล้อมอิตาลีเตือนประเทศอาจเผชิญภัยแล้งอีกรอบ หลังคลองเวนิสแห้งขอด

  • คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางกระแสน้ำที่ลดต่ำลงอย่างผิดปกติจนทำให้เรือกอนโดลา และเรือแท็กซี่ไม่สามารถแล่นไปตามคลองที่มีชื่อเสียงบางสายได้

รายงานของนักวิทยาศาสตร์และกลุ่มสิ่งแวดล้อมระบุว่า สภาพอากาศในฤดูหนาวที่แห้งแล้งหลายสัปดาห์ทำให้เกิดความกังวลว่าอิตาลีอาจเผชิญกับภัยแล้งอีกครั้งหลังจากเกิดภาวะแห้งแล้งฉุกเฉินในฤดูร้อนปีที่แล้ว เพราะเทือกเขาแอลป์ได้รับหิมะน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของปกติ  

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่เมืองเวนิสซึ่งโดยปกติแล้วจะเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมเป็นหลัก กำลังเผชิญกับกระแสน้ำที่ลดต่ำลงอย่างผิดปกติในปีนี้จนทำให้เรือกอนโดลา เรือแท็กซี่และเรือพยาบาลฉุกเฉินไม่สามารถแล่นไปตามคลองที่มีชื่อเสียงบางสายได้ 

ปัญหาในเวนิสนั้นมีอยู่หลายประเด็น เช่น ฝนไม่ตก ระบบความกดอากาศสูง พระจันทร์เต็มดวง และกระแสน้ำในทะเล โดยกลุ่มสิ่งแวดล้อมเลกัมเบียนเตกล่าวเมื่อวันจันทร์ (20 ก.พ.) ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้แม่น้ำและทะเลสาบในอิตาลีกำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างหนัก โดยเฉพาะทางตอนเหนือของประเทศ 

ในช่วงเวลานี้ของปียังพบอีกว่า แม่น้ำโป ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดของอิตาลี และไหลจากเทือกเขาแอลป์ทางตะวันตกเฉียงเหนือไปยังเอเดรียติกนั้นมีน้ำน้อยกว่าปกติถึง 61% 

เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา อิตาลีได้ประกาศภาวะฉุกเฉินสำหรับพื้นที่โดยรอบแม่น้ำโป ซึ่งคิดเป็นประมาณ 1 ใน 3 ของผลผลิตทางการเกษตรของประเทศ และประสบกับภัยแล้งหนักหนาสาหัสที่สุดในรอบ 70 ปี 

“เราอยู่ในสถานการณ์ขาดแคลนน้ำที่ก่อตัวขึ้นตั้งแต่ฤดูหนาวปี 2020-2021…เราต้องกู้ปริมาณน้ำคืนมาให้ได้ประมาณ 500 มิลลิเมตรในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งเราต้องการฝน 50 วัน” มัสซิมิเลียโน่ ปาสกิ ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ CNR ของอิตาลี กล่าวกับสำนักพิมพ์ Corriere della Sera  

ขณะที่ระดับน้ำในทะเลสาบการ์ดาทางตอนเหนือของอิตาลีก็ลดต่ำเป็นประวัติการณ์ ทำให้สามารถไปถึงเกาะเล็กๆ อย่าง ซาน เบียจิโอ บนทะเลสาบได้ผ่านทางเดินโล่งๆ 

จากการพยากรณ์อากาศล่าสุด พบว่า ปรากฏการณ์สภาพภูมิอากาศแอนติไซโคลนได้เข้าครอบงำสภาพอากาศในยุโรปตะวันตกเป็นเวลา 15 วันในเวลานี้ซึ่งจะทำให้อุณหภูมิอบอุ่นกว่าปกติในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ นอกจากนี้ ยังมีการส่งสัญญาณว่าจะมีปริมาณน้ำฝนและหิมะที่มากขึ้นในเทือกเขาแอลป์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าอีกด้วย 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์