งานวิจัยใหม่เผยสารให้ความหวานมีส่วนทำให้หัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมอง!

28 กุมภาพันธ์ 2566 - 09:02

study-finds-Zero-calorie-sweetener-linked-to-heart-attack-stroke-SPACEBAR-Hero
  • การวิจัยพบว่า สารอิริทริทอลมีส่วนทำให้เกล็ดเลือดจับตัวเป็นก้อนได้ง่ายขึ้น ลิ่มเลือดอุดตันจนส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจวาย หรือโรคหลอดเลือดสมองได้

  • ทว่า งานวิจัยใหม่ที่ออกมานี้กลับมีผู้เชี่ยวชาญหลายคนออกมาโต้แย้ง พร้อมบอกว่ายังต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมอีก

  • เนื่องจากงานวิจัยดังกล่าวเชื่อมโยงให้เห็นเพียงความสัมพันธ์ระหว่างสารอิริทริทอลกับโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองเท่านั้น ไม่ได้ระบุถึงสาเหตุ

สำนักข่าว CNN รายงานว่า การศึกษาครั้งใหม่พบว่าสารให้ความหวานในกลุ่มน้ำตาลแอลกอฮอล์ที่เรียกว่า ‘อิริทริทอล (erythritol)’ ซึ่งใช้ในการเติมหญ้าหวาน หล่อฮังก๊วย และคีโตในปริมาณมากหรือมีรสหวานนั้นอาจมีผลเชื่อมโยงทำให้กระทบต่อการแข็งตัวของเลือด โรคหลอดเลือดสมอง หัวใจวาย และเสียชีวิตในที่สุด 

ตามการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Medicine เมื่อวันจันทร์ (27 ก.พ.) ที่ผ่านมา ระบุว่า ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ เช่น โรคเบาหวาน มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคหัวใจหรือโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า หากพวกเขามีระดับอิริทริทอลในเลือดสูง  

การวิจัยพบว่า สารอิริทริทอลมีส่วนทำให้เกล็ดเลือดจับตัวเป็นก้อนได้ง่ายขึ้น ลิ่มเลือดอุดตันจนส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจวาย หรือโรคหลอดเลือดสมองได้ 

ดร.สแตนลีย์ เฮเซน ผู้อำนวยการศูนย์วินิจฉัยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดแห่งสถาบันวิจัย Cleveland Clinic Lerner กล่าวว่า “ระดับของความเสี่ยงไม่ได้เล็กอย่างที่คิด” 

การวิจัยของเฮเซนมีเป้าหมายง่ายๆ คือ ค้นหาสารเคมีหรือสารประกอบที่ไม่รู้จักในเลือดของบุคคลที่อาจมีความเสี่ยงต่ออาการหัวใจวาย หรือโรคหลอดเลือดสมอง โดยทีมงานได้เริ่มวิเคราะห์ตัวอย่างเลือด 1,157 ตัวอย่างในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจซึ่งเก็บรวบรวมระหว่างปี 2004-2011 

“เราพบสารนี้ที่ดูเหมือนจะมีบทบาทสำคัญ แต่เราไม่รู้ว่ามันคืออะไร จากนั้นเราก็ค้นพบว่ามันคือ สารอิริทริทอล ซึ่งเป็นสารให้ความหวาน” เฮเซน กล่าว 

เพื่อยืนยันผลการวิจัย ทีมของเฮเซนได้ทดสอบตัวอย่างเลือดอีกชุดหนึ่งจากผู้คนกว่า 2,100 คนในสหรัฐฯ และตัวอย่างเพิ่มเติมอีก 833 ตัวอย่างที่รวบรวมโดยเพื่อนร่วมงานในยุโรปจนถึงปี 2018 ซึ่งพบว่า ประมาณ 3 ใน 4 จากประชากรทั้ง 3 กลุ่มนั้นเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ความดันโลหิตสูง และประมาณ 1 ใน 5 เป็นโรคเบาหวาน โดยมากกว่าครึ่งเป็นผู้ชายและมีอายุราว 60-70 ปี 

ในประชากรทั้ง 3 กลุ่ม นักวิจัยพบว่าระดับอิริทริทอลที่สูงขึ้นนั้นสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง หรืออาจเสียชีวิตภายใน 3 ปี 

ดร.แอนดรูว์ ฟรีแมน ผู้อำนวยการฝ่ายป้องกันโรคหัวใจ หลอดเลือดและสุขภาพของ National Jewish Health โรงพยาบาลในเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด สหรัฐฯ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานวิจัย กล่าวว่า “สิ่งนี้ฟังดูน่าตกใจอย่างแน่นอน ดูเหมือนจะมีความเสี่ยงในการจับตัวเป็นก้อนจากการใช้อิริทริทอล…เห็นได้ชัดว่าจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม การจำกัดอิริทริทอลในอาหารของคุณในตอนนี้อาจเหมาะสมแล้ว” 

อย่างไรก็ตาม สภาควบคุมแคลอรี่ซึ่งเป็นสมาคมอุตสาหกรรม กล่าวกับ CNN ว่า “ผลการศึกษานี้ตรงกันข้ามกับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายทศวรรษที่แสดงว่าสารให้ความหวานที่มีแคลอรีต่ำอย่างอิริทริทอลนั้นปลอดภัย ตามหลักฐานที่ได้รับอนุญาตตามกฎระเบียบทั่วโลกสำหรับการใช้งานในอาหารและเครื่องดื่ม” โรเบิร์ต แรนกิน กรรมการบริหารของสภากล่าว 

ด้าน โอลิเวอร์ โจนส์ ศาสตราจารย์ด้านเคมีแห่งมหาวิทยาลัย RMIT ในรัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย ตั้งข้อสังเกตว่าการศึกษานี้เผยให้เห็นเพียงความสัมพันธ์เท่านั้นไม่ใช่สาเหตุ 

“ตามที่ผู้เขียนงานวิจัยทราบ พวกเขาพบความสัมพันธ์ระหว่างอิริทริทอลและความเสี่ยงในการจับตัวเป็นก้อน ไม่ใช่ข้อพิสูจน์ที่แน่ชัดว่ามีความเชื่อมโยงดังกล่าวอยู่ ความเสี่ยงที่เป็นไปได้ (และยังไม่ได้รับการพิสูจน์) ของอิริทริทอลส่วนเกินจะต้องมีความสมดุลกับความเสี่ยงต่อสุขภาพที่แท้จริงของการบริโภคกลูโคสที่มากเกินไป” โจนส์ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการวิจัยกล่าวในแถลงการณ์ 

ขณะที่สมาคมผู้ผลิตโพลิออลแห่งยุโรปปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น โดยระบุว่ายังไม่ได้ทบทวนงานวิจัยใหม่นี้เลย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์