ทอง ‘แม่ตั๊ก’ หลอกขายทองไม่ตรงปก

เมื่อภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้อต่อการหารายได้ หรือรายได้ลดน้อยลง การหาทางออกด้วยการลงทุนน้อย กำไรมาก จึงเป็นเหมือนความฝัน ทางรอดของคนที่หาเช้า กินค่ำ ที่พยายามหาทางรอดด้วยการลงทุนอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เกิดรายได้รวดเร็ว

เมื่อบวกกับราคาทองคำตลอดทั้งปี มีแต่ขึ้นด้วยภาวะสงคราม ทำให้ราคาทองขยับไปไกล และทำกำไรให้กับคนที่ซื้อทอง แม้จะไม่มาก แต่ก็ช่วยได้ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ การมองว่าทองคำคือการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนดี ‘ซื้อง่าย ขายคล่อง’ 

รูปแบบการขายทองก็ปรับเปลี่ยนไป จากที่ไปซื้อร้านทองตามแบบเดิม ก็หันมาซื้อจากแม่ค้าออนไลน์ ที่มีมากขึ้น การซื้อทองจากแม่ค้าออนไลน์ก็เป็นทางเลือก เพราะจากความเชื่อถือที่เห็นทุกวัน ราคา  ของแถม 

กรกนก สุวรรณบุตร หรือ ‘แม่ตั๊ก’ และสามี กานต์พล เรืองอร่าม หรือ ‘ป๋าเบียร์’ เข้าสู่ธุรกิจขายทองออนไลน์ในปี 2564 ด้วยการขายทองผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ และมีการไลฟ์สดขายทองอย่างต่อเนื่อง  สินค้าที่ขายเป็นทองรูปพรรณ เช่น ปี่เซียะทองคำ ดอกกุหลาบทองคำ และจี้ไอ้ไข่ทองคำ

มีการโฆษณาโปรโมชั่นลดราคา และแถมของพิเศษเพื่อดึงดูดลูกค้า

การขายทองบนออไลน์ของกรกนก ได้รับความสนใจจากลูกค้าจำนวนมาก และมียอดสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากการสร้างเรื่องราว ภาพลักษณ์ของตัวแม่ค้า ที่จะมีเหตุการณ์ช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าขายของที่ไปเจอระหว่างทาง หรือออกนอกบ้าน และมีการช่วยเหลือสังคม บางครั้งมีดารา นักร้อง เซเลป เข้ามาร่วมขายด้วย จนเป็นภาพให้ลูกค้าเชื่อถือ และเชื่อมั่น เข้ากับประโยคที่ว่า ‘คนดี ไม่โกง’ 

การชายทองของกรกนกได้รับความสนใจจากลูกค้าจำนวนมาก มีทั้งที่เป็นผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้า และพนักงานบริษัททั่วไป ที่ซื้อเพราะต้องการลงทุน เก็บไว้ขายเก็งกำไร และศรัทธาจากเรื่องราวที่เห็น

เรื่องราวเกิดการพลิกผันเมื่อลูกค้าที่ซื้อทองจากกรกรก นำไปขายต่อที่ร้านทอง ปรากฎว่า ‘ร้านทองไม่รับซื้อ’ หรือรับซื้อในราคาต่ำกว่าที่คาด ร้านทองให้เหตุผลว่า ทองคำไม่ได้มาตรฐานทองคำ 96.5% ตามที่โฆษณา 

ลูกค้าหลายคนเจอกับตัวเอง ซื้อทองคำออนไลน์จากร้าน แต่เวลานำไปขายต่อกลับไม่มีร้านทองรับซื้อ หรือถ้ารับซื้อก็ตีราคาต่ำกว่าราคาที่ซื้อไปหลายเท่าตัว

เช่นสินค้าตัวที่ขายดีของร้านคือปี่เซียะทองคำพร้อมของแถม รวมราคา 33,000 บาทมีลูกค้านำไปขายที่โรงรับจำนำได้แค่ 9 พันบาท เพราะมีน้ำหนักแค่ 6.4 กรัม ซึ่งลูกค้าเข้าใจว่าน้ำหนักทองคำอยู่ที่ 1  บาทหรือ 15.16 กรัมตามมาตรฐาน รวมทั้งของแถมก็ไม่ใช่แผ่นทองคำแท้ 

การขายทองคำไม่ได้ หรือได้ในราคาต่ำที่ซื้อ ทำให้ลูกค้าเริ่มสอบถามข้อเท็จจริงจากแม่ค้าออนไลน์ ว่าทองคำที่ซื้อไปได้มาตรฐาน และเป็นไปตามโฆษณาหรือไม่ จากที่มีไม่กี่ราย ก็เพิ่มจำนวนมากขึ้น แต่ไม่ได้รับการชี้แจงที่ชัดเจน จนนำไปสู่การออกรายการโหนกระแส เพื่อชี้แจง แต่หลังจากออกรายการชี้แจงสถานการณ์กลับหนักขึ้น ลูกค้าแห่นำทองที่ซื้อไปมาคืน เพราะกรกนกประกาศรับซื้อคืน

หน้าร้านทองของกรกนกเต็มไปด้วยลูกค้า พวกเขาไม่ได้มาซื้อทองเพิ่ม แต่แห่นำทองมาคืน

หลังจากนั้นสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ก็ได้เข้าตรวจสอบ สคบ. ตรวจสอบร้านทองพบว่าทองคำที่จำหน่ายไม่ได้มาตรฐานเปอร์เซ็นต์ทองคำ 99.99% ตามที่โฆษณา และเตรียมดำเนินคดีใน 3 ข้อหา คือ โฆษณาเกินจริง ,หลอกลวงผู้บริโภค และขายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน

ตามมาด้วยกองบัญชาการสอบสวนกลาง ได้ดำเนินการจับกุม กรกนก  และ กานต์พล ตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ,ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค , ร่วมกันเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือผู้อื่น โฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีข้อความอันเป็นเท็จหรือข้อควรรู้อยู่แล้วว่าอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

ตำรวจได้ดำเนินการตรวจค้นบ้านและร้านทองของยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 70 ล้านบาท รถยนต์หรู 5 คัน เพื่อเป็นหลักฐานในคดี  เวลานี้จำเลยยังถูกคุมขังในเรือนจำ และขอสู้คดีตามกฎหมาย 

การหลอกลวงขายสินค้าหรือหลอกลงทุน ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง ไม่ได้ล้มหายตายจากไป แค่เปลี่ยนผู้เล่นคนใหม่เข้ามา เล่าเรื่องใหม่ สินค้าใหม่ ต้องระวัง อย่าตกเป็นเหยื่อ เพราะการได้คืนเป็นไปได้ยากมาก