กิตติรัตน์ รับมือหนี้บัตรเครดิตกว่า 6 หมื่นล้านบาทที่กำลังจะกลายเป็นหนี้ที่มีปัญหา ให้เข้าโครงการแก้ไขหนี้ และพิจารณาอัตราดอกเบี้ยบัตรที่สูงเกินกำหนด 15%
ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย กิตติรัตน์ ณ ระนอง กล่าวว่า หนี้บัตรเครดิตทั้งระบบ มียอดหนี้รวมอยู่ที่ 5.4 แสนล้านบาท เป็นหนี้ที่กำลังจะเป็นปัญหาประมาณ 6.7 หมื่นล้าน จากผู้ถือบัตรเครดิตจำนวนทั้งสิ้น 23.8 ล้านใบ โดยในส่วนนี้เป็นหนี้ที่กำลังน่าห่วงใย 1.1 ล้านใบ

กิตติรัตน์ กล่าวว่าด้วยว่า ผู้ถือบัตรทุกรายทั้ง 23 ล้านใบ มีสิทธิ์ได้ดอกเบี้ย 3-5% ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินและระยะเวลาปีการผ่อนชำระ โดยเข้าร่วมโครงการ แต่หากเป็นลูกหนี้ที่มีสถานะปกติ ก็อยากให้ชำระปกติ
สำหรับดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่สูงเกิน 15% ความจริงแล้วหนี้ปกติก็ชำระได้โดยไม่เสียดอกเบี้ย แต่หากชำระบางส่วนก็จะมีอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดขึ้น ในกฎหมายเรื่องดอกเบี้ย 15% เป็นกฎหมายที่ดูแลผู้ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน แต่ในกลุ่มบัตรเครดิตเป็นส่วนของสถาบันการเงินซึ่งมีค่าบริการและค่าใช้จ่ายต่างๆ จึงมีการกำหนดที่สูงกว่า 15% ได้บ้าง ซึ่งขณะนี้มีการดูแลไม่ให้ดอกเบี้ยสูงไปอยู่แล้ว
กิตติรัตน์ กล่าวด้วยว่า ในกลุ่มที่เป็นเจ้าหนี้บัตรเครดิตยินดีลดดอกเบี้ยให้เพื่อดูแลลูกค้า โดยที่รัฐบาลไม่ต้องตั้งงบประมาณไปชดเชยให้ กลุ่มลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสีย สามารถใช้บริการคลินิกแก้หนี้ได้ หากเกินศักยภาพในการชำระเกินก็ให้เข้ามาใช้บริการได้เลย