ไทยยิ้มรับ Q1/66 จีนขอส่งเสริมลงทุน ‘อีวี-อิเล็กทรอนิกส์’ กว่า 2.5 หมื่นล้าน

11 เมษายน 2566 - 07:51

BOI-IEAT-China-Invest-Thailand-EV-Electronics-hub-SPACEBAR-Thumbnail
  • บีโอไอ ผนึกกำลัง กนอ. บุกโรดโชว์ดึงการลงทุนจีน เดินหน้าอุตสาหกรรม EV และอิเล็กทรอนิกส์

  • เผย ‘จีน’ ยื่นขอส่งเสริมลงทุนไตรมาสแรก กว่า 2.5 หมื่นล้านบาท

นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เผยการเดินหน้าดึงนักลงทุนจีนลงทุนไทย กับอุตสาหกรรมเป้าหมาย ทั้ง ‘EV และอิเล็กทรอนิกส์’ ว่า เป็นอีกความสำเร็จ เนื่องจากขณะนี้ นักลงทุนจีนให้ความสนใจ และยื่นขอส่งเสริมการลงทุนแล้ว โดยเฉพาะไตรมาสแรก ปี 2566 มีตัวเลขแล้วกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท 
 
“จีนถือเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ของไทย และมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย ทั้งด้านการลงทุน การค้า และการท่องเที่ยว หลังจากที่จีนเปิดประเทศ บีโอไอจึงได้เร่งจัดคณะโรดโชว์จีน ซึ่งได้ผลสำเร็จอย่างมาก นักลงทุนจีนให้ความเชื่อมั่น และยืนยัน เลือกไทยเป็นฐานธุรกิจสำคัญในภูมิภาค โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ทั้งยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และดิจิทัล ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนเพื่อสร้างเศรษฐกิจใหม่ของไทย  ในช่วง 1 - 2 ปีข้างหน้า จะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เราต้องรุกดึงการลงทุนจากจีน เพราะสถานการณ์โลกมีความไม่แน่นอนสูง ทำให้บริษัทต่าง ๆ มีความจำเป็นต้องขยายการลงทุนเพิ่มเติมจากฐานในประเทศจีน เพื่อลดความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจ” นฤตม์ กล่าว
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/WWLfTPsO4mzbUiNze2rek/5c8b47267267edcc0eaeca03bbdc11cc/BOI-IEAT-China-Invest-Thailand-EV-Electronics-hub-SPACEBAR-Photo01

ผู้ผลิต EV จีน เล็งไทย พร้อมสร้างฐานอุตสาหกรรม EV 

ในส่วนของ ‘อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า’ (EV) มีการพบปะกับผู้ผลิตรายใหญ่ของจีน 5 ราย ได้แก่ Changan Automobile, Geely, BYD, JAC และ Jiangling Motors (JMC) ซึ่งทั้ง JAC และ JMC เป็นผู้ผลิตรถกระบะและรถบรรทุกไฟฟ้าชั้นนำ โดยทุกรายแสดงความสนใจลงทุนผลิต EV ในประเทศไทย และสนับสนุนไทยให้เป็นฐานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาค เนื่องจากมองว่าไทยมีนโยบายเชิงรุกในการส่งเสริม EV แบบครบวงจร มีซัพพลายเชนของชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่พร้อมรองรับการผลิต EV อีกทั้งมีโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ที่มีคุณภาพ และตลาดในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวสูง  
 
นอกจากนี้ ทุกรายยังให้ความสนใจการขยายมาตรการสนับสนุน EV หรือ EV 3.5 ที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) แล้ว เบื้องต้นคาดว่าจะมีการลงทุนจากกลุ่มนี้ไม่น้อยกว่า 2 หมื่นล้านบาท ใน 1 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ไม่รวม BYD ซึ่งได้ขอรับส่งเสริมการลงทุนผลิตรถยนต์ EV และชิ้นส่วนในไทยแล้ว 6 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท 
 
“ผู้ผลิต EV ของจีน ยืนยันมองไทยเป็นเป้าหมายลำดับแรกในภูมิภาค เพราะมีความพร้อมในทุก ๆ ด้านสำหรับการสร้างฐานอุตสาหกรรม EV ทั้งผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปทั่วโลก อีกทั้งเห็นตัวอย่างการเติบโตของบริษัทจีนรายอื่น ๆ ที่เข้าสู่ตลาดในไทยก่อนหน้านี้ เช่น MG, Great Wall Motor, BYD และ NETA ทำให้เกิดความมั่นใจในการเข้ามาลงทุนมากขึ้น” นฤตม์ กล่าว  
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6i69ONAQAwxvGNeqHkHNH0/ee46b352183c7827cb8e8b33ccacf5c5/BOI-IEAT-China-Invest-Thailand-EV-Electronics-hub-SPACEBAR-Photo02
ด้านกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ของจีน เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มจะไปขยายฐานผลิตที่ไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในยานยนต์และอุปกรณ์สื่อสาร ซึ่งบีโอไอ-กนอ.ไทย ได้พบกับผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และแผ่นวงจรพิมพ์ (PCB) รายใหญ่ ได้แก่ WUS Printed Circuit (Kunshan) และ ASKPCB ซึ่งทั้งสองบริษัทมีแผนลงทุนในไทยรวมกันกว่า 12,000 ล้านบาท ทั้งยังมีการหารือเรื่องการนำ supplier ของบริษัท ย้ายตามไปลงทุนในไทยอีกกว่า 200 บริษัท เพื่อบริหารต้นทุนการผลิตและการจัดส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพ  
 
โดยครั้งนี้ ได้พบกับ Supplier รายสำคัญกว่า 10 บริษัท เช่น Yiyang Jindong Technology, Haoyue New Materials Technology และ Guangdong Dtech รวมทั้งผู้บริหารสมาคมผู้ผลิตแผ่นวงจรพิมพ์ของจีนด้วย 
 
“กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ของจีน มีความจำเป็นต้องหาแหล่งผลิตที่ 2 นอกประเทศจีน หรือ China + 1 เพื่อกระจายความเสี่ยงและบริหารต้นทุนการผลิต ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม การมาลงทุนของกลุ่มนี้ จะต้องอาศัย supplier จำนวนมากในการสนับสนุนการผลิต ดังนั้น บีโอไอจะส่งเสริมให้ supplier บางส่วนเข้ามาลงทุนในไทย ควบคู่ไปกับการผลักดันบริษัทไทยที่มีศักยภาพ เข้าไปอยู่ในซัพพลายเชนนี้ ผ่านกิจกรรมเชื่อมโยงอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ ซึ่งทางฝ่ายจีนก็ยินดีสนับสนุนด้วย” นฤตม์ กล่าว
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/5286HPNovhM6cJAi16ozYD/c770ae123e469d1e759aa2e8d873ccda/BOI-IEAT-China-Invest-Thailand-EV-Electronics-hub-SPACEBAR-Photo03

เตรียมรับนักธุรกิจจีนเยือนไทย เมษายน-มิถุนายน นี้ 

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ จะมีคณะนักธุรกิจจีนเดินทางมาเยือนไทยอย่างต่อเนื่อง โดยระหว่างวันที่ 19 - 22 เมษายน 2566 สมาคมผู้ผลิตแผ่นวงจรพิมพ์ของจีน (China Printed Circuit Association) จะนำคณะผู้ผลิต PCB และชิ้นส่วนกว่า 60 ราย มาศึกษาโอกาสการลงทุนในไทย  
 
ต่อจากนั้น ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2566 นายกเทศมนตรีนครเซี่ยงไฮ้ จะนำคณะผู้บริหารและนักธุรกิจจีนกว่า 50 คน เดินทางมาจัดสัมมนาสร้างความร่วมมือไทย - จีน และประชาสัมพันธ์การลงทุนในเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำแยงซี ตามด้วยงานประชุมนักธุรกิจจีนจากทั่วโลก (World Chinese Entrepreneurs Convention-WCEC) ครั้งที่ 16 ระหว่างวันที่ 24 - 26 มิถุนายน 2566 ซึ่งจะมีนักธุรกิจจีนมาร่วมงานราว 4,000 คน 
 
ทั้งนี้ ในปี 2565 ที่ผ่านมา ประเทศจีนเป็นนักลงทุนต่างชาติที่ได้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 158 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 77,381 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน เคมีภัณฑ์ และดิจิทัล โดยไตรมาสแรกของปีนี้ (มกราคม - มีนาคม 2566) มีโครงการจากจีนยื่นขอรับการส่งเสริมจำนวน 38 โครงการ มูลค่ากว่า 25,000 ล้านบาท        
 
ความสำเร็จครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการเดินทางโรดโชว์ส่งเสริมการลงทุน ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ของ 2 หน่วยงาน คือ บีโอไอ พร้อมการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สู่เมืองธุรกิจสำคัญของจีน ได้แก่ นครเซี่ยงไฮ้ หางโจว เซินเจิ้น และกว่างโจว เมื่อวันที่ 3 – 7 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา นับเป็นโรดโชว์ประเทศจีนครั้งแรกในรอบ 3 ปี ตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด - 19 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4RPNK6ddwXJc9oD1Ut8xs1/2651cd937eb6d2f9aebff82aaa2fee44/BOI-IEAT-China-Invest-Thailand-EV-Electronics-hub-SPACEBAR-Photo04

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์