คนอยากซื้อ EV มากขึ้น แต่ราคาที่แพงทำให้ต้องชะงัก

5 ม.ค. 2566 - 09:36

  • สำหรับผู้บริโภคการเปลี่ยนไปใช้ EV ขึ้นอยู่กับว่ามันจะช่วยลดต้นทุนได้มากแค่ไหน

  • ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความนิยมรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ยังสูงถึง 51%

BUSINESS-ev-market-is-growing-but-high-cost-is-the-factor-SPACEBAR-Thumbnail
Deloitte บริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจชั้นนำของโลกเผยรายงาน 2023 Global Automotive Consumer Study (การศึกษาผู้บริโภคยานยนต์ทั่วโลกปี 2566) ซึ่งติดตามแนวโน้มของผู้บริโภคในอุตสาหกรรมยานยนต์ พบแนวโน้มที่น่าสนใจเกี่ยวกับทิศทางของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) นั่นคือผู้คนต้องการที่จะซื้อมันมากขึ้น แต่ประเด็นสำคัญที่สุดที่ทำให้ยอดขาย EV ยังไม่โตเร็วก็เพราะราคาของมันที่ยังแพงมากนั่นเอง  

รายงานระบุว่า การเปลี่ยนแปลงทั่วโลกไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้ากำลังเกิดขึ้นด้วยอัตราความเร็วที่แตกต่างกันมากขึ้นอยู่กับตลาดแต่ละแห่ง ณ ขณะนี้ในประเทศส่วนใหญ่ยกเว้นจีน ความสนใจในรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีไฮบริด (HEV) ยังคงเหนือกว่ารถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่เต็มรูปแบบ (BEV)  

แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามกระตุ้นให้เห็นถึงความจำเป็นในการลดเครื่องยนต์สันดาปที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณมหาศาล เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่สำหรับผู้บริโภคแล้ว การเปลี่ยนไปใช้ EV นั้นขึ้นอยู่กับว่ามันจะช่วยลดต้นทุนการใช้ยานพาหนะของพวกเขาได้มากแค่ไหน หรือพูดง่ายๆ ก็คือ มันคุ้มค่าหรือไม่ในแง่การใช้จ่าย 

มีเพียงผู้ตอบแบบสอบถามชาวจีนเท่านั้นที่อ้างเรื่องอื่นที่ไม่ใช่ค่าน้ำมันเป็นเหตุผลหลักในการซื้อรถ EV เพราะคนจีนสนใจในเรื่องการมีประสบการณ์การขับขี่ที่ดีขึ้นมากกว่า   

ในบรรดาประชาชนในประเทศต่างๆ ชาวเยอรมันมีความกังวลมากที่สุดเรื่องการใช้รถยนต์กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ความกังวลเรื่องนี้ก็ยังน้อยกว่าความกังวลเรื่องการลดต้นทุนการขับขี่ส่วนบุคคลจากการที่ต้องกำจัดเชื้อเพลิงฟอสซิลให้หมดไป 

รายงานฉบับนี้ทำการสำรวจความเห็นของผู้บริโภคในสหรัฐฯ, อินเดีย, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, เยอรมนี, จีน, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ตัวอย่างที่น่าสนใจคือ จีน ซึ่งเป็นตลาด EV ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง กับสหรัฐที่ตลาดเครื่องยนต์สันดาปภายในยังมีสัดส่วนสูงมากที่สุด และที่ต้องดูกันอีกตลาดคือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงไทยด้วย อันเป็นตลาดที่ EV มีอนาคตอย่างมาก  

ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พบว่า ความนิยมรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) อยู่ที่ 51% รถยนต์ไฮบริด (HEV) 17%  รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินที่ใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าร่วมกับเครื่องยนต์สันดาปภายใน (PHEV) 15%  รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่เต็มรูปแบบ (BEV) 12% และอื่นๆ 3% จากตัวเลขในปี 2023 นี้จะเห็นว่าแม้ว่า ความนิยมในรถ ICE จะยังสูงอยู่ แต่มันลดลงมากแล้วจากปี 2022 ที่เคยสูงถึง 66%  

ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจัยที่จะเลือกซื้อแบรนด์รถยนต์ในการซื้อครั้งต่อไป 71% พิจารณาเรื่องคุณภาพของสินค้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าประเทศอื่นๆ และที่สูงกกว่าที่อื่นคือพิจารณาเรื่องรูปลักษณ์ของยานยนต์ 52% ส่วน 32% ดูที่ราคาของรถ และ 39% ดูที่ภาพลักษณ์ของแบรนด์ว่ามีความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแค่ไหน ตัวเลขเหล่านี้ถือว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทำได้สูงกว่าที่อื่น สะท้อนว่าตลาดนี้ใช้ปัจจัยที่อิงกับคุณภาพและราคาเป็นหลักในการมองหารถยนต์คันใหม่
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3nAuKQYm96mGL3e0ENsVdA/af89d77537340e8d5bf92e086ec63b7e/Info-___________________________2023

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์