BYD แบรนด์แรกในโลก ให้ลูกค้า ได้คาร์บอนเครดิต

20 ก.ย. 2566 - 10:25

  • เรเว่ ประกาศตัว เป็นครั้งแรกของโลก เปิดให้ลูกค้า BYD แลกไมล์เป็น ‘คาร์บอนเครดิต’

  • ชูประโยชน์ตรง ใช้ลดค่าชาร์จ และไลฟ์สไตล์อื่นในอนาคต ส่วนมูลค่าเครดิต เคลมได้เท่าใด จัดทีมซื้อขายตลาดโลก เรียบร้อย

BYD-carbon-credit-RÊVERLUTION-Net-Zero-RÊVERSHARGER-ev-SPACEBAR-Hero.jpg

น่ายินดีที่วงการรถยนต์ไฟฟ้า พาประชาชนเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำไปด้วยกัน โดย บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์ไฟฟ้า BYD อย่างเป็นทางการ ซึ่งวางจำหน่ายในไทยมาตั้งแต่พฤศจิกายน 2565 พาพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง ร่วมประกาศวิสัยทัศน์ “RÊVERLUTION” (ขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำ) พร้อมเปิดโครงการ Carbon Credit ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้ลูกค้า BYD นำไมล์สะสม มาแลกเป็นคาร์บอนเครดิต แล้วนำไปใช้เป็นส่วนลดอื่นๆ เช่น ค่าชาร์จ EV ได้

BYD-carbon-credit-RÊVERLUTION-Net-Zero-RÊVERSHARGER-ev-SPACEBAR-Photo01.jpg

ประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด กล่าวว่า โครงการนี้ ถือเป็นมิติใหม่ของวงการคาร์บอนเครดิต ที่จะทำให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม โดยทุกๆ กิโลเมตรของการใช้รถไฟฟ้า จะถูกคิดคำนวณเป็นคาร์บอนเครดิต เคลมกลับคืนให้ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้นำไปใช้ประโยชน์ และมีส่วนร่วมเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำไปด้วยกัน ในส่วนของบริษัท ที่ประกาศวิสัยทัศน์ RÊVERLUTION นี้ ก็มีจุดประสงค์เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดก๊าซเรือนกระจก และสนับสนุนแผนการ NDC (Nationally Determined Contribution) เป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ภายในปี พศ. 2573

โดยประเทศไทยได้ประกาศให้คำมั่นว่าจะบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ‘Carbon Neutrality’ ภายในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ‘Net Zero Emission’ ภายในปี 2608 ซึ่งเรเว่มีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ ภายใต้มาตรฐาน VERRA’s Verified Carbon Standard (VCS) ผ่านการส่งเสริมการให้ผู้ขับขี่ในไทยเปลี่ยนจากรถยนต์สันดาปภายใน (ICE) มาสู่การใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ไม่ปล่อยมลพิษทางอากาศหรือก๊าซเรือนกระจก 

“เราเชื่อว่าโครงการ Carbon credit (คาร์บอนเครดิต) จะสามารถช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศได้อย่างดี โดยลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ BYD ทุกท่าน สามารถเข้าร่วมโครงการ Carbon credit ผ่านทาง ทาง RÊVER Application โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ โดยเรเว่เป็นบริษัทแรกในโลกที่มอบผลประโยชน์ทาง Carbon Credit คืนให้กับลูกค้า” ประธานพร กล่าว

BYD-carbon-credit-RÊVERLUTION-Net-Zero-RÊVERSHARGER-ev-SPACEBAR-Photo02.jpg

วิธีการที่ลูกค้า จะได้รับคาร์บอนเครดิตเป็นอย่างไร? 

เรเว่ ยังอธิบายถึงการได้มาซึ่งคาร์บอนเครดิต ว่า ลูกค้า BYD จะได้ตั้งแต่การขับรถในวินาทีแรก หรือกิโลเมตรแรก จะสะสมกลายเป็นเครดิตให้ลูกค้า แต่ต้องสมัครเข้าร่วมโครงการพร้อมให้ความยินยอมในการเก็บข้อมูลการใช้ เพื่อที่ทีมคำนวณจะนำไปคิดคำนวณเป็นอัตราการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นำไปขายให้ และรีเทิร์น เคลมกลับมาให้ลูกค้าโดยตรง ซึ่งระยะเวลาการคิด คือ 1 ปี จะได้รับ 1 ครั้ง เท่ากับว่า ผู้ขับขี่ BYD ปีนี้ หากสมัครแล้วก็จะได้เคลมเครดิตครั้งแรก ช่วงต้นปีหน้า นั่นเอง 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิตในระดับโลกนั้นมีราคาขึ้นลง และแต่ละประเทศก็มีราคาที่แตกต่างกัน ทำให้เรเว่ยังไม่สามารถประเมินได้ในขณะนี้ว่า ระยะทางเท่าไหร่ถึงจะได้ 1 เครดิต แต่เรเว่ ยืนยัน มีทีมงานเฉพาะที่คอยเฝ้าดูราคาคาร์บอนเครดิต เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้ราคาดีที่สุด

BYD-carbon-credit-RÊVERLUTION-Net-Zero-RÊVERSHARGER-ev-SPACEBAR-Photo03.jpg

‘คาร์บอนเครดิต BYD’ มีแล้ว นำไปใช้อย่างไร? 

กล่าวได้ว่า เครดิตที่ลูกค้าได้รับนั้น สิ่งที่สามารถใช้ได้ทันทีคือ การนำไปใช้เป็น ‘เครดิตส่วนลด’ ในการชาร์จรถยนต์ EV กับ RÊVERSHARGER ซึ่งเป็นสถานีชาร์จที่เรเว่เข้าไปร่วมทุน (Joint Venture) กับบริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) ซึ่งเรเว่ถือหุ้น 15% ทั้งนี้ทั้งนั้น เรเว่ จะยังไม่หยุดเท่านี้ โดยจะเดินหน้าหาพันธมิตรตามไลฟ์สไตล์ต่างๆ เพื่อให้ลูกค้านำเครดิตไปใช้แลกเป็นสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันได้ โดยปัจจุบันมีลูกค้า BYD สมัครเข้าร่วมโครงการแล้ว 30%

BYD-carbon-credit-RÊVERLUTION-Net-Zero-RÊVERSHARGER-ev-SPACEBAR-Photo04.jpg

ด้าน ประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด เผยถึงการเข้าลงทุน เพื่อเป็นพันธมิตรในบริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) ว่า เป็นเพราะเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าในไทย เติบโตก้าวกระโดด แต่โครงสร้างพื้นฐาน EV ในไทย เติบโตไม่ทัน และ SHARGE เป็นอีกโอกาสสำคัญที่จะช่วยเติมเต็ม โดยความร่วมมือครั้งนี้ตั้งเป้าที่จะขยายสถานีชาร์จครอบคลุมทั่วประเทศอีก 1,110 จุด (สถานีชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง 394 จุด และสถานีชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ 716 จุด) ภายในสิ้นปี 2566 นี้

BYD-carbon-credit-RÊVERLUTION-Net-Zero-RÊVERSHARGER-ev-SPACEBAR-Photo05.jpg

ขณะที่ พีระภัทร ศิริจันทโรภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา Sharge ได้สร้างเครือข่ายสถานีชาร์จกว่า 486 จุดใน 155 แห่ง โดย 75% อยู่ในภาคกลางของประเทศไทย แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับอนาคตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการต่อคิวตามสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน โครงการ RÊVERSHARGER จึงร่วมมือกับพันธมิตรในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลายราย รวมถึงโรงแรมเดอะสแตนดาร์ด, แสนสิริ และชาญอิสสระ ตลอดจนสถานีบริการบริการน้ำมัน ได้แก่ ซัสโก้และบางจาก เพื่อสร้างสถานีชาร์จที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่างสะดวกสบายและตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้ทุกรูปแบบ  

ความร่วมมือครั้งนี้ ทำให้เราจะเห็น แบรนด์ SHARGE ทุกแห่งเปลี่ยนชื่อเป็น RÊVERSHARGER ... ซึ่ง SHARG ยืนยันว่า แม้ชื่อแบรนด์จะเปลี่ยนไป แต่ก็ยังคงรองรับรถยนต์ไฟฟ้า ‘ทุกรุ่นทุกแบรนด์’ ดังเดิม

BYD-carbon-credit-RÊVERLUTION-Net-Zero-RÊVERSHARGER-ev-SPACEBAR-Photo06.jpg

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์