‘สุกี้ตี๋น้อย’ กับกลยุทธ์ธุรกิจจากนี้ไปหลังได้ ‘เจมาร์ท’ เข้าถือหุ้น ทำอย่างไร? ให้โตยิ่งขึ้น

3 ธ.ค. 2565 - 04:21

  • เจาะฐานลูกค้าต่างจังหวัด ขยายสาขาใหม่ 16 แห่งในปี 2566

  • ปิดกำไรแข็งแกร่ง คาดยอดขายสิ้นปี 2565 แตะ 4,000 ล้านบาท

Brand-marketing-sykiteenoi-resturant-business-SPACEBAR-Thumbnail
‘สุกี้ตี๋น้อย’ (SukiTeenoi) ธุรกิจร้านอาหารแนวหม้อไฟ ที่มีอายุเพียง 5 ปี แต่กลับมีอัตราการเติบโตสุดเร้าใจด้วยยอดขายที่ไต่ระดับหลักร้อยล้านบาทจนถึงพันล้านบาทได้อย่างน่าทึ่ง ปัจจัยหลักที่ทำให้ เจมาร์ท (JMART) ตัดสินใจเข้าถือหุ้นในธุรกิจสุกี้ตี๋น้อย สัดส่วน 30% คิดเป็นมูลค่าลงทุนราว 1,200 ล้านบาทไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา  

ล่วงมาราวหนึ่งเดือนเต็ม หลังจากสุกี้ตี๋น้อย ได้พันธมิตรรายใหญ่ที่แข็งแกร่งอย่างเจมาร์ท เข้ามาร่วมทุนพร้อมกับแผนการซินเนอร์ยีธุรกิจเพื่อผลักดันให้ธุรกิจสุกี้ตี๋น้อย ขยายการเติบโตไปให้ไกลมากขึ้นกว่าเดิม และยังสนับสนุนให้เป้าหมายยอดขายสุกี้ตี๋น้อย ในสิ้นปี2565 เฉียดอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท ด้วย 

นัทธมน พิศาลกิจวนิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด เจ้าของแบรนด์ ‘สุกี้ตี๋น้อย’ กล่าว่า หลังจากปิดดีลความร่วมมือกับ บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) (JMART) พร้อมเริ่มเดินหน้าแผนงานต่างๆ ที่วางไว้ ภายใต้การสนับสนุนจากทีมผู้บริหารเจมาร์ท และกลุ่มบริษัทในเครือ โดยจะได้เห็นความคืบหน้าการ Synergy ผนึกกลยุทธ์ร่วมกันทันทีในปี 2566 เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ และเติบโตในอนาคต 

“สุกี้ตี๋น้อย อยู่ในธุรกิจอาหารมาแล้ว 5 ปี มีสาขาให้บริการจำนวน 42 แห่ง จากปี 2564 มี 36 สาขา อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มุ่งเน้นการตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ชื่นชอบสุกี้บุฟเฟ่ต์ ด้วยอาหารที่มีคุณภาพ รสชาติถูกปาก และราคาคุ้มค่า” นัทธมน กล่าว 

โดยสุกี้ตี๋น้อยใช้กลยุทธ์การตลาดบุฟเฟต์ราคา 219 บาทต่อราย ทำให้สามารถครองใจผู้บริโภคจนสามารถสร้างยอดขายกว่า 1,500 ล้านบาทในสิ้นปี 2564 ที่ผ่านมา และในปี 2565 นี้ มั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตรับสถานการณ์โควิดผ่อนคลาย บรรยากาศการรับประทานอาหารในร้านของผู้บริโภคกลับมาคึกคัก สนับสนุนยอดขายปีนี้พุ่งเฉียด 4,000 ล้านบาท   

นัทธมน กล่าต่อ สำหรับเป้าหมายในปี 2566 บริษัทฯ จะไม่ใช่แค่เดิน แต่เราจะเริ่มวิ่ง ด้วยการมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งมาร่วมผนึกกำลัง โดยตั้งเป้าเรื่องสาขาใหม่ในปีหน้าวางแผนจะเปิดเพิ่มไม่ต่ำกว่า 12 สาขา และจะบุกตลาดต่างจังหวัดเป็นครั้งแรก  

นอกจากนี้ ในอนาคตยังมองตลาดประเทศเพื่อนบ้านที่จะขยายไปได้อีก เพราะหากเรามีระบบที่ดี มีการนำเทคโนโลยีมาสนับสนุน การจะได้เห็นสุกี้ตี๋น้อยราว 100 สาขา ในอีก 5 ปีจากนี้ มองว่าก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องเป็นการเติบโตอย่างมีคุณภาพด้วยเช่นกัน คุณภาพในที่นี้หมายถึง คุณภาพของอาหาร บริการ รสชาติ และผลประกอบการ ที่จะไปพร้อมๆ กัน และจะนำบริษัทฯ เข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ในอีก 2-3 ปีจากนี้ เป็นอีก Chapter การเติบโตของเราที่ยั่งยืน 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์