บริการฟรีไม่มีอยู่จริง แล้วเรากำลังจ่ายด้วยอะไร?
พวก Call Center มันขยันโทรมาจังเลย ฉันไปให้เบอร์มันไว้ตอนไหน แล้วไหนจะคลิป VDO YouTube ที่แสนตรงใจ จนแทบไม่ได้ดูคลิปอย่างอื่นบ้างเลย กับสินค้าที่ฉันสนใจพอดี แอดโฆษณาพวกนี้ตามติดชีวิตหน้าจอเรา เหมือนเงาตามตัว บางตัวเห็นถี่จนเอาวะ คลิก! ซื้อก็ได้อะไรประมาณนี้เป็นผลพวงมาจากแพลตฟอร์มโซเชียลที่แสนดี ไม่ว่าจะเป็น Google ที่ให้เรา search ทุกอย่างในโลกเจอฟรีๆ Facebook ก็ไม่เคยเก็บค่าโพสต์รูปหรือสเตตัส เราอยากจะโพสต์วันละกี่รูป จะอัปกี่สเตตัสมันก็ตามใจเราแถมเก็บให้เป็นคลังข้อมูลมหาศาลจนหลายๆ คนใช้เป็นที่บันทึกความทรงจำรายวันเลยด้วยซ้ำ แน่นอนว่ารวมถึงแอปฯ ฟรี ซึ่งถ้าไม่มีไวรัสแถมมา มันก็อยากได้ข้อมูลเราไปใช้
พฤติกรรมของเราบนอินเตอร์เน็ต คือ สินค้าชั้นดี
ข้อมูลของเราคือสิ่งที่แอปฯ ฟรีต้องการ สิ่งที่เราประกาศบนอินเตอร์เน็ตเอง ทั้งโพสต์รูป ชีวิต ความคิดลงไปบนโซเชียลมีเดีย แม้แต่เรากำลัง Search หาอะไรบน Google ทุกการเคลื่อนไหวของเราบนแพลตฟอร์มที่ให้บริการฟรี คือ สินค้าชั้นดีให้ AI ของบริษัทเทคต่างๆ เก็บข้อมูลไปแพลตฟอร์มฟรี เก็บข้อมูลเราไปป้อน AI
AI ที่ไม่มีข้อมูล ไม่ได้เรียนรู้ ก็เหมือนเครื่องคอมเปล่าๆ ไม่มีซอฟต์แวร์ ตรงข้าม AI ที่ผ่านการเรียนรู้ข้อมูลมหาศาลมันจะฉลาดล้ำและทรงพลังเหมือน ChatGPT ที่สอบผ่านทั้ง MBA ใบอนุญาตแพทย์หรือวิศวกรระดับสูงมาแล้ว ChatGPT ตอบมาเองว่า มันใช้ข้อมูลมหาศาลที่คนเข้ามาคุยกับมัน และสื่อ Online จำนวนมาก เพื่อเรียนรู้วิธีการคาดเดาคำต่อๆ ไป เพื่อเข้าใจแก่นของภาษาและเข้าใจการตอบโต้ นั่นก็คือช่วงเวลาที่ ChatGPT ออกมาให้เราได้ใช้งานฟรีกันอย่างแพร่หลายนั่นเองยังมีบริการอื่นๆ อีก ที่ต้องการข้อมูลปริมาณมหาศาลจากพฤติกรรมของเรา เช่น การสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงิน
เมื่อ AI เก็บข้อมมูลเราได้มากพอ มันจะเอาไปตัดเกรดคุณภาพทางการเงินของเรา (Credit score) เพื่อพิจารณาปล่อยเงินกู้
การยกร้านขึ้นไปอยู่บน Market Place Online เช่น Lazada, Shopee ทำให้เจ้าของแพลตฟอร์มสามารถรู้ กำลังความต้องการสินค้าต่างๆ ในตลาด ว่าเวลาไหน? คนต้องการซื้ออะไร? เท่าไหร่? และสามารถสร้างอุปสงค์ออกมาแทรกแซงร้านค้าเดิมได้
ข้อมูลลงทะเบียนของเรามีราคา
เวลาเรามีใครมาเสนอบริการฟรีแลกกับการลงทะเบียนชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร นั่นก็คือราคาที่เราจ่ายไป เขาเอาไปขายได้รายชื่อละหลายบาท แต่แม้จะมีกฎหมายเรื่องการปกป้องข้อมูลสิทธิส่วนบุคคลแล้ว แต่ปัญหาก็คือ ผู้บริโภคน้อยคนมากที่จะนั่งอ่านข้อความยาวๆ ก่อนติ๊กถูกในช่องที่เขียนว่ายินยอมให้ใช้ข้อมูลได้ส่ง Malware มาเอาทั้งหมดของเราไป
ข้อนี้เป็นการจ่ายที่ราคาแพงที่สุด เพราะแอปพลิเคชันฟรีี มันอาจจะไม่ได้มาแค่เก็บข้อมูลของเรา แต่มันอาจจะส่ง Malware มาดูดข้อมูลในเครื่องของเราไปทั้งหมดเลยก็ได้วิธีการป้องกันง่ายๆ
เราสามารถเข้าไปใน Setting ตั้ง Privacy ป้องกันไม่ให้แอปพลิเคชันเข้าถึง Contact, ป้องกันไม่ให้สามารถ screen capture ได้ขณะใส่พาสเวิร์ด, ป้องกันการเปิดเผย Location และที่ง่ายกว่านั้นก็คือ คิดให้รอบคอบก่อนโพสต์อะไรก็ตามลงโซเชียลมีเดีย ถ้าดู YouTube สามารถลบ History ได้ และอย่าลืมอ่านข้อความยาวๆ ก่อนกดยินยอมให้ข้อมูลด้วยของฟรีไม่มีในโลก แต่ถ้ายังอยากใช้ของฟรี ก็ต้องชั่งใจดีๆ ว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม
