สวรรค์คริปโทฯ กลับด้าน ไม่ใช่อเมริกาอีกต่อไป
Text BoxText Box สินทรัพย์ดิจิตัล หรือคริปโทเคอเรนซี แทบจะหมดที่ยืนในสหรัฐอเมริกาด้วยระเบียบการเงิน และวิกฤติที่เกิดขึ้น ทั้งวิกฤต Bank run ที่ธนาคารทั้ง 3 แห่งที่ล่มไป Silvergate, Silicon Valley และ Signature เป็นธนาคารที่ให้บริการด้านการแลกเปลี่ยนเงินเฟียต หรือ เงินดอลลาร์เป็นเงินคริปโทฯ และให้บริการด้านอุตสาหกรรมคริปโทฯ อย่างลึกซึ้ง
กระดานเทรดขนาดใหญ่ถูกฟ้อง ทั้งไบแนนซ์กระดานเทรดอันดับ 1 ของโลกโดนคณะกรรมาธิการการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าของสหรัฐฯ (CFTC) ยื่นฟ้องขอหาจงใจหลีกเลี่ยงกฎหมายสหรัฐอเมริกา Coinbase กระดานเทรดคริปโทฯ ขนาดใหญก็กำลังโดน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) สอบสวนอยู่ และ Justin Sun ผุ้ก่อตั้ง Tron Blockchain ก็ถูกตั้งข้อหาควบคุมตลาดและ ฝ่าฝืนกฎหมายหลักทรัพย์ด้วย
และล่าสุดวุฒิสมาชิสหรัฐอเมริกา Elizabeth Warren ก็กำลังผลักดันร่างกฎหมายเพื่อให้กระเป๋าคริปโทฯ เป็นสิ่งผิดกฎหมายอีกด้วย
ในขณะที่ฝากฝั่งเอเชีย ฮ่องกงกำลังอ้าแขนต้อนรับสินทรัพย์ดิจิทัล ถึงกับประกาศว่าฮ่องกงจะเป็นศูนย์กลางคริปโทฯ ระดับโลก ซึ่งเป็นการกลับลำแบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะฮ่องกงคือส่วนหนึ่งของจีน แต่ก่อนหน้านี้จีนคือประเทศที่ที่ไม่เอาคริปโทฯ ถึงขนาดสั่งแบนเหมืองขุดบิทคอยน์ และสั่งแบนไม่ให้คนในประเทศไปยุ่งเกี่ยวกับเหรียญใดๆ ทั้งนั้น ทำให้นักลงทุนเริ่มคิดว่าจีนก็น่าจะเริ่มมีนโยบายเปิดกว้างให้กับคริปโทฯ ด้วยเช่นกัน
ทางด้านกฎหมาย ฮ่องกงก็กำลังวางร่างกฎหมายเพื่อสนับสนุน การค้า การลงทุนด้วยคริปโทฯ สำหรับนักลงทุนรายย่อยด้วย สิ่งนี้ดึงดูดนักลงทุนได้ผลทีเดียว เพราะบริษัทคริปโทฯ รายใหญ่หลายรายเตรียมตัวย้ายสำนักงานใหญ่มาฮ่องกงกัน ทั้ง Binance, Kucoin, Huabi
รัสเซียก็อ้าแขนต้อนรับสินทรัพย์ดิจิทัลด้วย ล่าสุดธนาคาร Sberbank ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารใหญ่ของรัสเซีย ประกาศเชื่อมต่อ Ethereum Blockchain และกระเป๋า Metamask (digital wallet) เข้ากับระบบการเงินของประเทศ
สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้แต่เตือนใจนักลงทุนว่า ให้นั่งทับมือไว้มั่นๆ และกระจายความเสี่ยงให้ดี เพราะที่ที่เคยเป็นแดนสวรรค์ และที่ที่เคยขับไล่คริปโทฯ อยู่ๆ ก็สลับขั้วกันต่อหน้าต่อตา
หรือนี่จะเป็นหนทางที่กรุยทางเปลี่ยนรูปแบบการเงินไปสู่ CBDC Central Bank Digital Currency ยุคที่รัฐบาลจะออกเหรียญดิจิทัลเอง กำจัดระบบกระจายอำนาจออกไป ดึงคริปโทฯ มาควบคุมด้วยระบบศูนย์กลางแบบดั่งเดิม ในฐานะประชาชนก็คงทำได้แค่รับชมแบบติดขอบจนกว่าชะตาการเงินจะถูกลิขิตอย่างชัดเจน
Text BoxText Box สินทรัพย์ดิจิตัล หรือคริปโทเคอเรนซี แทบจะหมดที่ยืนในสหรัฐอเมริกาด้วยระเบียบการเงิน และวิกฤติที่เกิดขึ้น ทั้งวิกฤต Bank run ที่ธนาคารทั้ง 3 แห่งที่ล่มไป Silvergate, Silicon Valley และ Signature เป็นธนาคารที่ให้บริการด้านการแลกเปลี่ยนเงินเฟียต หรือ เงินดอลลาร์เป็นเงินคริปโทฯ และให้บริการด้านอุตสาหกรรมคริปโทฯ อย่างลึกซึ้ง
กระดานเทรดขนาดใหญ่ถูกฟ้อง ทั้งไบแนนซ์กระดานเทรดอันดับ 1 ของโลกโดนคณะกรรมาธิการการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าของสหรัฐฯ (CFTC) ยื่นฟ้องขอหาจงใจหลีกเลี่ยงกฎหมายสหรัฐอเมริกา Coinbase กระดานเทรดคริปโทฯ ขนาดใหญก็กำลังโดน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) สอบสวนอยู่ และ Justin Sun ผุ้ก่อตั้ง Tron Blockchain ก็ถูกตั้งข้อหาควบคุมตลาดและ ฝ่าฝืนกฎหมายหลักทรัพย์ด้วย
และล่าสุดวุฒิสมาชิสหรัฐอเมริกา Elizabeth Warren ก็กำลังผลักดันร่างกฎหมายเพื่อให้กระเป๋าคริปโทฯ เป็นสิ่งผิดกฎหมายอีกด้วย
ในขณะที่ฝากฝั่งเอเชีย ฮ่องกงกำลังอ้าแขนต้อนรับสินทรัพย์ดิจิทัล ถึงกับประกาศว่าฮ่องกงจะเป็นศูนย์กลางคริปโทฯ ระดับโลก ซึ่งเป็นการกลับลำแบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะฮ่องกงคือส่วนหนึ่งของจีน แต่ก่อนหน้านี้จีนคือประเทศที่ที่ไม่เอาคริปโทฯ ถึงขนาดสั่งแบนเหมืองขุดบิทคอยน์ และสั่งแบนไม่ให้คนในประเทศไปยุ่งเกี่ยวกับเหรียญใดๆ ทั้งนั้น ทำให้นักลงทุนเริ่มคิดว่าจีนก็น่าจะเริ่มมีนโยบายเปิดกว้างให้กับคริปโทฯ ด้วยเช่นกัน
ทางด้านกฎหมาย ฮ่องกงก็กำลังวางร่างกฎหมายเพื่อสนับสนุน การค้า การลงทุนด้วยคริปโทฯ สำหรับนักลงทุนรายย่อยด้วย สิ่งนี้ดึงดูดนักลงทุนได้ผลทีเดียว เพราะบริษัทคริปโทฯ รายใหญ่หลายรายเตรียมตัวย้ายสำนักงานใหญ่มาฮ่องกงกัน ทั้ง Binance, Kucoin, Huabi
รัสเซียก็อ้าแขนต้อนรับสินทรัพย์ดิจิทัลด้วย ล่าสุดธนาคาร Sberbank ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารใหญ่ของรัสเซีย ประกาศเชื่อมต่อ Ethereum Blockchain และกระเป๋า Metamask (digital wallet) เข้ากับระบบการเงินของประเทศ
สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้แต่เตือนใจนักลงทุนว่า ให้นั่งทับมือไว้มั่นๆ และกระจายความเสี่ยงให้ดี เพราะที่ที่เคยเป็นแดนสวรรค์ และที่ที่เคยขับไล่คริปโทฯ อยู่ๆ ก็สลับขั้วกันต่อหน้าต่อตา
หรือนี่จะเป็นหนทางที่กรุยทางเปลี่ยนรูปแบบการเงินไปสู่ CBDC Central Bank Digital Currency ยุคที่รัฐบาลจะออกเหรียญดิจิทัลเอง กำจัดระบบกระจายอำนาจออกไป ดึงคริปโทฯ มาควบคุมด้วยระบบศูนย์กลางแบบดั่งเดิม ในฐานะประชาชนก็คงทำได้แค่รับชมแบบติดขอบจนกว่าชะตาการเงินจะถูกลิขิตอย่างชัดเจน
