แม้ว่า Tesla จะเพิ่งเปิดตัวในไทยอย่างคึกคัก โดยมียอดจองมากถึง 5,000 คันแล้ว รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท แถมยังมี Model Y ที่สามารถเพิ่มระบบ Autopilot ได้ ทำให้คนไทยตื่นเต้นที่จะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีสุดล้ำนี้ แต่กระแสรถยนต์อัตโนมัติในโลกตะวันตกกลับแผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด มีรายงานข่าวผู้ผลิตรถยนต์ถอดใจจากรถยนต์อัตโนมัติให้เห็นกันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นสตาร์ทอัพ Argo AI หรือบิ๊กเทคฯ อย่าง Apple
มาดูกันว่ายังเหลือผู้เล่นไหนบ้างในอุตสาหกรรมนี้ และใครพัฒนาไปถึงจุดไหนแล้ว
มาดูกันว่ายังเหลือผู้เล่นไหนบ้างในอุตสาหกรรมนี้ และใครพัฒนาไปถึงจุดไหนแล้ว
รู้จักเลเวลของรถยนต์อัตโนมัติ
เลเวล 0: No Automation
- คนขับต้องควบคุมการขับเองแบบแมนวลล้วนๆ มีระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน
เลเวล 1: Driver Assistance
- มีฟีเจอร์ช่วยเหลือคนขับบางส่วน เช่น มอนิเตอร์ความเร็ว เว้นระยะห่างจากรถคันอื่นและวัตถุ
เลเวล 2: Partial Automation
- มีเทคโนโลยีผู้ช่วยอัตโนมัติขั้นสูง (ADAS) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน และระบบ Auto Pilot
- มีฟีเจอร์ช่วยเหลือคนขับแบบเลเวล 1 ที่แม่นยำขึ้น

เลเวล 3: Conditional Automation
- รถเคลื่อนที่อัตโนมัติได้ในระยะใกล้/พื้นที่จำกัด
- ยกระดับจากเลเวล 2 ด้วยระบบ Detection ที่ประมวลข้อมูลสภาพแวดล้อม แต่ยังต้องมีคนขับ

เลเวล 4: High Automation
- รถเคลื่อนที่อัตโนมัติและวิ่งระยะทางไกลได้ มีเทคโนโลยีควบคุมความเร็ว ระยะห่าง และปรับความสามารถให้พร้อมรับสถานการณ์เฉพาะหน้า คนขับสามารถนั่งหรือจะคอยคุมพวงมาลัยเพื่อความปลอดภัยก็ได้ ปัจจุบันยังใช้ได้ในบางพื้นที่ตามกฎหมายเท่านั้น

เลเวล 5: Fully Autonomous
- นี่คือจุดสูงสุดของการพัฒนารถยนต์อัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบ รถจะขับเคลื่อนเองด้วยเทคโนโลยี AI ระบบเซนเซอร์ และอื่นๆ เพื่อพร้อมรับทุกสถานการณ์ คนขับจะเป็นเพียงผู้โดยสาร โดยไม่ต้องบังคับควบคุมอะไร
เทียบคันต่อคัน ใครเหนือกว่ากัน
