BTC 101: 5 วิกฤต ‘บิตคอยน์’ ฆ่าไม่ตาย ราคาตกต่ำกี่ครั้ง ก็ผงาดขึ้นมาใหม่

0.01 ดอลลาร์สหรัฐ คือราคาต่ำสุดที่บิตคอยน์ (Bitcoin) เคยโดนทุบมา แต่ก็รอด แล้วทะยานไป 68,000 ดอลลาร์สหรัฐมาแล้ว กี่เด้งล่ะเนี่ย นิ้วไม่พอนับ...

ปัจจุบัน ราคาบิตคอยน์ตกลงจากจุดสูงสุด 68,000 ดอลลาร์สหรัฐ มาซื้อขายแถว 22,264 ดอลลาร์สหรัฐ (ณ วันที่ 13 กันยายน 2022) แถมยังไม่รู้ว่าราคานี้จะกระโดดหน้าผาลงมาที่แนวรับโซน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือไม่ เพราะแค่มิถุนายนที่ผ่านมา เดือนเดียวราคาเล่นลงไป 40% ต่ำสุดที่ 17,500 ดอลลาร์สหรัฐ

ทำเอาคำว่า Bitcoin Dead หรือ ‘Bitcoin ตายแล้ว’ ถูกเซิร์ชสูงสุด ได้ SEO score เต็ม 100 ไปเลย [1] ในช่วงที่ผ่านมา แต่การที่ราคาร่วงเกือบ 70% ครั้งนี้ ยังไม่เรียกว่าเจ็บหนักสำหรับบิตคอยน์เพราะหนักกว่านี้ก็โดนมาแล้ว

เราลองมาย้อนรอยอดีตถึงปัจจุบันของบิตคอยน์กันว่า รอดตายหนักๆ มาแล้วกี่ครั้ง และรอดมาได้อย่างไร

 

ปี 2011: วิกฤตครั้งที่ 1 ราคาติดลบ 99%

หลังจาก Bitcoin เปิดตัวมาที่ราคาขายราว 1 ดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่ปี 2009 ราคาก็ขึ้นไปสูงถึง BTC ละ 32 ดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนมิถุนายนปี 2011 จากนั้นก็พังครืนครั้งแรกโดยราคาร่วงลงมาทีเดียวภายใน 2-3 วัน เหลือแค่ 0.01 ดอลลาร์สหรัฐต่อ BTC เท่านั้น

 

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อบริษัทแลกเปลี่ยนเงินคริปโทฯ หรือ exchange สัญชาติญี่ปุ่นชื่อ Mt.Gox ซึ่งให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนบิตคอยน์ เป็นหลัก โดนแฮกเกอร์ขโมย Bitcoin ไปได้ 850,000 เหรียญฯ [2] แล้วเอากลับมาเทขายในกระดานของ Mt.Gox เองทำให้ราคาร่วงอย่างรวดเร็ว จาก 32 เหลือ 0.01 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญ แฮกเกอร์กวาดเงินไปได้ถึง 8.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

และนี่คือการแฮกขโมยบิตคอยน์จาก exchange (ไม่ใช่การแฮกระบบบิตคอยน์) ครั้งแรกของโลก

หลังจากเหตุการณ์นี้ ใช้เวลา 2 ปี ราคาบิตคอยน์กลับมาอยู่ที่ 32 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญ อีกครั้ง ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2013
 

ปี 2014: ราคาร่วงครั้งที่ 2 ราคาติดลบ 84% จาก 1,000 เหลือ 170 ดอลลาร์สหรัฐ

จากกุมภาพันธ์ ปี 2013 ราคาบิตคอยน์ขึ้นจาก 32 ดอลลาร์สหรัฐ ไปสูงถึงเหรียญละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน ใช้เวลาทั้งหมดราว 9 เดือน

แต่จู่ๆ ปลายปี 2013 จีนออกมาตรการปราบปรามบิตคอยน์ ห้ามสถาบันการเงินท้องถิ่นถือและลงทุนในบิตคอยน์ ทำให้ราคาร่วงจาก 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ ไปอยู่ที่เหรียญละ 700 ดอลลาร์สหรัฐ

พอเข้าต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2014 บริษัท Mt.Gox (ชื่อคุ้นไหม ก็ที่โดนแฮกบิตคอยน์ไปเมื่อปี 2013 นี่แหละ) ซึ่งเป็น exchange อันดับต้นๆ ของโลก ประกาศระงับการถอนบิตคอยน์ หลังจากโดนแฮก (อีกแล้ว) 744,408 เหรียญ คิดเป็นมูลค่า 460 ล้านดอลลาร์สหรัฐ Mt.Gox จึงประกาศล้มละลายทั้งในโตเกียว และสหรัฐอเมริกา

ราคา Bitcoin ร่วงยาวลงไปเหลือ 170 ดอลลาร์สหรัฐ
 

ปี 2017: ตลาดถล่มครั้งที่ 3 ติดลบ 85% จากเกือบ 20,000 เหลือ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ

จากราคา 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนมกราคม ปี 2017 เหรียญบิตคอยน์ขึ้น 20 เด้ง ภายในไม่ถึง 1 ปี สูงสุดเกือบ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญ เพราะปีนี้มี ICO (Initial Coin offering) หรือเหรียญใหม่ๆ เกิดขึ้นมาก

แต่ฝันไม่หวานมีเหตุการณ์กระชากราคาอีกหลายปัจจัย เพราะนานาชาติทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลี กางมาตรการแบนคริปโทฯ พร้อมกัน

• มกราคม ปี 2018 Coincheck กระดานซื้อขายสัญชาติญี่ปุ่นถูกแฮกคริปโทฯ ไป 530 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
• มีนาคมถึงมิถุนายน ปี 2018 Facebook และ Google ยังพร้อมใจแบนโฆษณาขาย ICO หรือเหรียญเกิดใหม่

สิ้นปี 2018 ราคาบิตคอยน์ดิ่งเหวอยู่ที่ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญ
 

ครั้งนี้ตลาดใช้เวลา 5 เดือน ในการกลับขึ้นไปถึง 14,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่พอถึงช่วงรอยต่อปี 2019-2020 เจอโควิด ราคาเหรียญจึงร่วงกลับลงมาที่ 5,165 ดอลลาร์สหรัฐ และเข้าสู่ยุคแห่งการพุ่งทะยานอย่างรุนแรง รวมซีซั่นนี้ใช้เวลา 3 ปี
 

ปี 2021: ราคาดิ่งครั้งที่ 4 ติดลบ 56% จาก 63,000 เหลือ 29,000 ดอลลาร์สหรัฐ

จาก ‘ตลาดหมี’ หรือราคาร่วงครั้งก่อน ราคาบิตคอยน์ไม่ได้เด้งกลับมาที่ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่พุ่งไปถึง 63,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนเมษายน ปี 2021 เพราะตลาดมีปัจจัยสนับสนุนมากมาย เช่น

• Tesla เข้ามาสนับสนุน ด้วยการรับชำระค่ารถเป็นบิตคอยน์
• ยุครุ่งเรืองของ Defi การเอาเงินคริปโทฯ มาฝากเป็นคู่เหรียญเพื่อรับดอกเบี้ย มีผลิตภัณฑ์เงินดิจิทัลออกมาให้บริการหลายรูปแบบ

แต่แค่ 3 เดือนให้หลัง ราคาร่วงลง 56% เหลือ 29,000 ดอลลาร์สหรัฐเพราะ...

• จีนแบนเหมืองบิตคอยน์
• ยิ่งไปกว่านั้นคือนานาชาติออกมาต่อต้านการใช้พลังงานมหาศาลในการขุดเหรียญบิตคอยน์ ซึ่งใช้ถึง 150 เทราวัตต์ต่อปี [3]

ทว่า ราคาบิตคอยน์ย่อได้ไม่นาน ใช้เวลาแค่ 4 เดือน ราคากลับไปทำ All Time High หรือ ‘จุดสูงสุดใหม่’ ที่ 68,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2021 หรือพุ่งขึ้น 143%
 

ปี 2022: ตลาดหมีครั้งที่ 5 ติดลบ 74% และยังไม่รู้จุดต่ำสุด...

จากจุดสูงสุดเดิม 68,000 ดอลลาร์สหรัฐ มาถึงวันนี้ผ่านมา 9 เดือนแล้ว ราคาลงไปต่ำสุดที่ 17,500 ดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนมิถุนายน และยังบอกไม่ได้ว่า นี่คือจุดต่ำสุดของรอบนี้หรือไม่
 

สถานการณ์ที่มีผลกับราคาร่วงครั้งนี้มีหลายปัจจัย อาทิ

• เครือข่าย Terra เจ้าของเหรียญ UST Stablecoin หรือเหรียญที่ควรจะมีราคา Peg (ตรึง) เท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ แต่เหรียญ UST หลุด Peg เมื่อพฤษภาคมที่ผ่านมา และล่มสลายไปพร้อมๆ กับเหรียญ Luna ทำให้เกิดความหวาดผวาครั้งใหญ่ในวงการคริปโทฯ บริษัทที่ลงทุนใน UST ล้มเป็นโดมิโนไปตามๆ กัน ตั้งแต่ 3AC, Celcius และ Voyager
• Fed ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะถึงจุดสูงสุดเมื่อไหร่ และการประกาศทุกครั้งมีผลกับราคาบิตคอยน์ซีซั่นนี้อย่างมีนัยยะสำคัญ
• อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงของหลายประเทศ ซึ่งยังไม่รู้จุดสูงสุดเช่นกัน
• แนวโน้ม Recession หรือเศรษฐกิจถดถอย
• สงคราม รัสเซีย-ยูเครน
• สงครามเศรษฐกิจ สหรัฐอเมริกา-จีน
• วิกฤตราคาพลังงานขึ้นสูง

หนักหนาขนาดนี้คงต้องเป็นกำลังใจให้บิตคอยน์รอบนี้กันหน่อย และถ้าใครไม่อยากเข้าไปร่วมรบกับสงครามราคาก็นั่งเกาะขอบดูโชว์ของซีซั่นนี้กันต่อไป จะได้ไม่โดนลากลงหลุม

แต่ก็ไม่รับประกันว่าจะไม่ตกรถ... ถ้าบิตคอยน์กลับไปมูนนะคะ