2023 คริปโทฯ ไปทางไหนกันดี
หลังจากเราเล่าเหตุการณ์ รวบตึงคริปโทฯ 2022 กันไปแล้ว เหตุการณ์ข่าวร้ายรุนแรงที่มีผลกับพื้นฐานคริปโทฯ มีมาอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2022 ส่วนในปีหน้าเรามาเริ่มที่คำถามยอดฮิตกัน
บิตคอยน์ถึงจุดต่ำสุดหรือยัง?
อธิบายกราฟด้านบน ความคิดเห็นส่วนตัวผู้เขียน
ตามความเห็นของผู้เขียนก็ขอลากเส้น Trendline เส้นสีเขียวในภาพ จากจุดเชื่อมต่อแบบดื้อๆ จากจุด A 06f ต่ำปลายปี 2017 ผ่านจุด B จุดต่ำปี2019 ผ่านไส้เทียนสีแดงต่ำสุด จุด C ปี 2020 ลากมาถึงปัจจุบัน จุด E และให้เลยไปอีกเล็กน้อย ซึ่งกราฟมีความ เป็นไปได้ว่าจะลงไป แตะจุดF เพื่อเทสเส้นเทรนด์ไลน์นี้ในช่วงราคาระหว่าง 9000 - 12000 ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงไตรมาสแรกปี 2023ถ้าทะลุเส้นเทรนด์ไลน์นี้ไป ผู้เขียนมองว่าวิกฤต บิตคอยน์จะกลายเป็นขาลงรอบใหญ่ ซึ่งน่ากลัวค่ะ แต่ถ้าเส้นนี้รับอยู่ จะขึ้นไปเลย หรือจะ Sideway ออกข้างก็ต้องรอดูหน้างานกันต่อไป แต่ถ้าจากจุดนี้มันไม่ลงมาแตะเทรนด์ไลน์ใหญ่แล้ว ราคาอาจจะลอยขึ้นไปแบบปี 2021 เลยก็ได้
ราคาที่นักวิเคราะห์มอง
นักวิเคราะห์มองหลากหลายว่าจุดต่ำสุดอาจจะไปหยุดที่ 8500 , 9000, 12,000, 14,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ ณ วันที่เขียน 15,500 ดอลลาร์สหรัฐ ยังไม่น่าใช่จุดต่ำสุด ขอขยับลงอีกนิด แค่นิดเดียวนะคะSPACEBAR ขอยกตัวอย่างตังของนักวิเคราะห์ช่าวไทย 1 ท่าน และต่างชาติ 1 ท่านนะคะ
โฉลก สัมพันธารักษ์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Chaloke Dot Com มองว่าราคาบิตคอยน์ จะลงไปต่ำสุดที่ 12,000 ต้นปี 2023 ให้เปิด Indicator ชื่อ CDC Action Zone ที่อาจารย์โฉลกสร้างขึ้นใน TradingView แล้วรอดูสัญญานเข้าซื้อแท่งสีเขียว แล้วเตรียมดูตลาดขาขึ้น แนะนำกระจายความเสี่ยง
Il Capo Of Crypto
นักวิเคราะห์คริปโทฯ ชื่อดังบนTwitter มียอดผู้ติดตามเกือบ 7 แสนคน มีเรทความแม่นยำสูง Tweet ไว้ว่า“ผมได้ใช้เวลานับร้อยชั่วโมงในการวิเคราะห์ตลาด และได้ข้อสรุปว่า: การจำนนของตลาด บิตคอยน์จะลงไปถึง 12,000 ดอลลาร์สหรัฐ เหรียญอีเธอร์จะลงไปถึง 600 -700 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเหรียญทางเลือกอื่นๆ จะลงได้อีกราว 40- 50% ซึ่งผมจะไม่โพสข้อความใดๆ เพิ่มจนกว่าจะมีการยืนยันของราคาเกิดขึ้น โชคดี”
ถามว่าบิตคอยน์มีภาพจะไป 100,000 ดอลลาร์สหรัฐไหม?
คำถามนี้ยังตราตรึงใจนักลงทุนจำนวนมาก ก็เพราะภาพ1 แสนนี่แหละ ที่ลากคนมาติดดอยตอน 69,00 ดอลลาร์สหรัฐ กันได้เยอะทีเดียว แต่เรื่องนี้จะเป็นจริงได้ไหม The Motley Fool Stock Advisor ที่ปรึกษาทางการเงินมองว่าต้องรอดูในช่วง Halving (การลดเงินรางวัลปิดบล็อคลงครึ่งหนึ่ง) ซึ่งจะเป็นการลงอุปสงค์ หรือเหรียญบิตคอยน์เกิดใหม่ด้วย
ทุกครั้งที่มีการ Halving จะทำให้ราคาพุ่งขึ้นไปได้ตามหลักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นประมาณ มีนาคม 2024 หรือ อีก 15 เดือนข้างหน้า ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าราคาบิตคอยน์จะขึ้นไปได้ถึง 36,000 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงนั้น แล้วถึงจะเป็นตลาดกระทิงที่มีโอกาสแตะ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ตามมา
ทฤษฎีนี้เทียบเคียงกับประวัติศาสตร์บิตคอยน์ 3 ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งตลาดทำแอคชันตามนี้ ทุกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์ 3 ครั้งยังนับว่าน้อยมากเมื่อคิดเป็นค่าสถิติความน่าจะเป็น ว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้งในรอยเดิม นักลงทุนจึงควรใช้ความระมัดระวังอย่างสูง
ติดตามเศรษฐกิจมหภาค
สุดท้ายเราก็ต้องมองภาพใหญ่กันค่ะ บิตคอยน์ยังเป็นสินทรัพย์เสี่ยง เศรษฐกิจไม่ดี บิตคอยน์ก็ไปไม่ไหว ต้องติดตามเศรษฐกิจมหภาคกันต่ออย่างแรก คือ FED หรือธนาคารกลางสหรัฐมีนโยบาย ถอยเกียร์ปรับอัตรา ดอกเบี้ยหรือยัง? เพราะนี่เป้นตัวชี้วัดว่า เงินเฟ้อถึงจุดพีคไปหรือยัง?
ถ้าความแรงของเงินเฟ้อลดลง ราคาบิตคอยน์จะค่อยๆ ฟื้นตามระบบ เมื่อ FED เริ่มอัดฉีดเงินเข้าระบบใน M1 และจับตา ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) เอาไว้ แม้วันนี้จะอ่อนค่าลงมาแล้ว แต่ก็ยังไม่แน่หากมีการแข็งค่าขึ้นมาอีกอย่างมีนัยยะ จะมีผลต่อราคาบิทคอยน์ ยิ่งดอลลาร์สูง บิตคอยน์ยิ่งลง เพราะเงินทุนจะแห่เทไปทางดอลลาร์สหรัฐ หรือ สินทรัพย์ที่มั่นคงกว่า
จับตาดูตลาดหุ้นโลก ทั้ง Dow Jones, Nasdaq, S&P เพราะปัจจุบันบิตคอยน์มีแนวโน้มไปในทางใกล้เคียงกับตลาดเงินเหล่านี้มากขึ้น
เก็บเหรียญเอง Not your Key, Not Your Coin
อย่าลืมข้อนี้เด็ดขาด เก็บสินทรัพย์ที่สำคัญของคุณเข้า Cold Wallet นะคะ อย่าทิ้งเงินที่สูญไม่ได้ไว้ในกระดานเทรดเพราะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง Terra Formlabs และ FTX ล่มสลาย ก็เป็นบทเรียนแล้วว่า เงินที่ฝากคนอื่นดูแลมันไม่ปลอดภัยค่ะ คริปโทฯ โดยเฉพาะบิตคอยน์ ถูกออกแบบมาให้เราไม่ต้องเชื่อใจมือที่สาม พึ่งพาตัวเองร้อยเปอร์เซนต์ เราก็อย่าเอาทรัพย์สินของเราไปฝากคนอื่นดูแลค่ะ
ส่งท้ายบทความปีนี้ผู้เขียนขอให้ผู้อ่าน และนักลงทุนทุกท่านโชคดี ปีหน้าฟ้าใหม่ลงจากดอย และรวยๆ กันนะคะ
