Metaverse กำลังเปลี่ยนโลก คุณจะปรับตัว หรือถูกทิ้งไว้ข้างหลัง?

23 ธันวาคม 2565 - 09:13

CRYPTONIAN-metaverse-world-revolution-SPACEBAR-Thumbnail
  • ความคิดที่ยอดเยี่ยมเมื่อ 5 ปีที่แล้วคือตัวถ่วงถ้าคุณไม่ปรับตัว

  • Metaverse คือพื้นที่ไร้ขีดจำกัด

  • อิสรภาพในการสร้างสรรค์วิธีการหาเงินในโลกไซเบอร์ และโลกความจริง

  • ภาพรวมตลาด Metaverse ปัจจุบัน

เรากำลังอยู่ในในโลกที่ไม่เหมือนเดิมแล้ว เมื่อเทียบกับแค่ 5 ปีก่อน เพราะเทคโนโลยีที่วิ่งเร็วมากๆ สุดยอดความคิดของคุณในวันนั้น กลายเป็นตัวถ่วงของคุณในวันนี้ ซอต์ฟแวร์ราคาหลักแสนบาทเมื่อ 5 ปีก่อน เปิดให้ใช้ฟรีในระบบคลาวด์ คนเลิกดูโทรทัศน์ เลิกซื้อของในร้านค้า ผู้ประกอบการที่ไม่ปรับตัวล้มลงให้กับเทคโนโลยี (Key Person of Influencer; Daniel Priestley) 

คำถามแรกที่คุณควรตอบตัวเองให้ได้วันนี้คือ “ถ้าฉันกำลังเริ่มต้นใหม่หมด ในโลกที่ทุกอย่าง เป็นไปได้ ฉันอยากทำอะไร?” ทวนคำถามให้ดีนะคะ อยากทำอะไร ไม่ใช่ควรทำอะไร วันหนึ่งคนที่มาอ่านบทความนี้ จะเป็นมนุษย์ที่ไม่มีร่าง นี่คือ คำพยากรณ์ที่มีโอกาสเป็นจริงได้ ภายในศตวรรษที่21นี้ (Virtual Society; Herman Narula)   

Metaverse เป็นพื้นที่ให้มนุษย์ มองเห็น เล่น รู้สึก เข้าใจ ติดต่อสื่อสาร ทำงาน และมีประสบการณ์ได้มากขึ้น โดยการตัดเรื่องข้อจำกัดทางกายภาพ หรือ ร่างกายออกไป คนจะกระโดดข้าม ประเทศได้เร็วเท่ากับความคิด มีรูปร่างหน้าตาได้อย่างใจต้องการ และกำจัดทุกความเป็นไป ไม่ได้ทั้งหมดออกจากการใช้ชีวิต เรียกว่ามิติใหม่ของ “อิสรภาพ”   

อิสรภาพนี้จึงรวมถึง วิธีการหาเงินด้วย คุณจะออกแบบวิธีการสร้างรายได้แบบไหนก็ได้ที่มี คุณค่ากับชุมชน วิธีสร้างประโยชน์ให้ผู้คนในจักรวาลนี้ เริ่มต้นโดยการเข้าไปซื้อ NFT (non fungible token) แทบจะทุกอย่างบนเมตาเวิร์สเป็น NFT หมด ก็เหมือนของทุกอย่างบนโลก จริงเราอยากได้อะไรก็ไปซื้อเอาไว้ เราก็จะได้สิทธิการเป็นเจ้าของจริงๆ เช่น ซื้อ NFT ตึกใจกลาง เมืองไว้ คุณก็สามารถปล่อยเช่าตึกนั้นในโลกแห่งความเป็นจริงได้ และได้รับส่ว่นแบ่งค่าเช่า เท่าสัดส่วนกรรมสิทธิ์ที่คุณซื้อไว้ หรือ ซื้อ NFTตู้ ATM แล้วรอเก็บค่าธรรมเนียมจริงๆ เวลามีคน มาใช้งาน  

นี่แค่ตัวอย่างที่มีคนทำแล้วคุณตอบตัวเองได้เมื่อไหร่ว่าอยากทำอะไรก็เริ่ม สร้างสรรค์ได้เลย ปัจจุบันผู้คนเชื่อมต่อเมตาเวิร์สได้ด้วยการใช้โทรศัพท์มือถือ หรือแว่นออคลุสเพื่อเห็น ภาพเสมือนจริง  

ปัจจุบันมีหลายบริษัทกำลังพัฒนาให้แว่นตาเบาเหมือนแว่นสายตา หรือแม้แต่ ออกมาในรูปแบบคอนแทคเลนส์ อนาคตเทคโนโลยีจะเชื่อมต่อสมองเข้ากับคอมพิวเตอร์ โดยตรงเพื่อให้มนุษย์รับประสบการณ์ไร้ขอบเขตได้ดั่งใจปราถนาสิ่งนี้ทำให้มนุษย์จะเป็นฝ่าย วิ่งเข้าหา Metaverse เองเมื่อถึงวันที่เทคโนโลยีพร้อมแล้ว   

ถึงตรงนี้ขอชัดๆ ว่า Metaverse คืออะไร ตอบคำถามนี้แบบง่ายที่สุด เมตาเวิร์สก็ คือ จักรวาล คือดินแดน คือพื้นที่ ที่แสดงผลเป็นรูปแบบ 3 มิติเสมือนจริงบนโลกออนไลน์ หรือ ทับซ้อนบน โลกจริงๆ มีไว้เพื่อแบ่งกัน เอาไปทำกิจกรรมอะไรก็ได้ ทุกคนมีสิทธิกำหนดทุอย่างเองบน ขอบเขตที่ตัวเองเป็นเจ้าของ และไม่มีใครเป็นเจ้าของหรือสิทธิขาดเหนือจักรวาล Metaverse 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/1c4pqVvWSfFU9vMRnu1z5N/59102c4cbdc5bbe376f9a97d4d522d32/CRYPTONIAN-metaverse-world-revolution-SPACEBAR-Photo01
Photo: แผนที่ Metaverse ใน sand box
ปัจจุบันมีแบรนด์ต่างๆเข้าไปสร้างโลกบน Metaverse แล้วมากมาย อย่าง Gucci, Bored Ape, Snoop Dog และอีกมากมาย รวมมูลค่าการตลาดราว 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยวอลลุมการซื้อขายเหรียญคริปโทฯ ที่ใช้บนเมตาเวิร์สวันละ 9.4 แสนดอลลาร์สหรัฐ (coinmarketcap)  

แต่โดยรวมตลาดการซื้อขายที่ดิน และ NFT บน Metaverse ร่วงกันมาแล้วราว -80% นับ ตั้งแต่ช่วงบูมสูงสุดเมื่อปลายปี 2021 เช่นเดียวกันกับตลาดคริปโทฯ เพราะการใช้จ่าย การพัฒนาเทคโนโลยี การทำธุรกรรม ธุรกิจบน Metaverse ใช้เหรียญคริปโทฯ ทั้งหมด   

ซึ่งแม้แต่ Meta ของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ที่ลงทุนไปกว่าแสนล้านบาทภายใน 1 ปี ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย และมูลค่าหุ้นของบริษัทร่วงลงราว -70% Simon Burgia นักพัฒนา Blockchain Meta-Utopia บอกว่าเหตุผลหลักที่ metaverse ยังไม่ 

แพร่หลายเพราะการพัฒนาเทคโนโลยีต้องใช้เงินทุนมหาศาลและ เทคโนโลยีที่ใช้พัฒนาเมตาเวิร์สถือว่ายังเด็ก และเพิ่งเริ่มต้น แต่จากนี้ไปอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เทคโนโลยีจะวิ่งเร็วขึ้นกว่าเดิมมากๆ ซึ่ง Bloomberg คาดว่า Metaverse จะมีมูลค่าตลาดมากกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2030  

ถ้าใครคิดจะลงทุนในเมตาเวิร์สวันนี้ ก็ต้องอดทนคอยยาวหน่อยเพราะเทรดกับเทคโนโลยีคง ยังไม่วิ่งเร็วพรวดพราดภายใน 2023 แต่ก็หมายความว่าผู้ลงทุนวันนี้ในตลาดขาลง จะได้ซื้อ ของในราคาถูก และเป็นผู้ลงทุนยุคแรกเริ่ม  

ถ้าถึงวันที่เทคโนโลยีมาแล้วใครที่ยังรออยู่ด้านนอก อาจจะเข้าไปคว้ากำไรไม่ทัน รวมถึงแบรนด์ต่างๆ ที่ยังไม่เตรียมตัวเข้าไปทำธุรกิจในโลกเสมือนจริงนี้  

แต่ถ้าเทคโนโลยีนี้ไม่มา หรือใช้เวลานานเกิน 10 ปี ขึ้นไป ก็คงต้องร่วมเศร้าใจไปกับผู้ที่มาเฝ้า รอกันตั้งแต่วันนี้ด้วยค่ะ การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดอย่างรอบคอบ  

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์