ทุกวันนี้ จะทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ ก็ต้องระมัดระวัง จากมิจฉาชีพที่รู้เรื่องของเราไปทุกเรื่อง และจ้องฉกฉวยเอาเงินเราไป ดังนั้น เมื่อ กกพ. หรือคือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน มีเหตุที่จะต้อง ‘คืนเงินคงค้าง’ เมื่อครั้งกระโน้น ซึ่งยังเหลือสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย และกิจการขนาดเล็ก 1.6 หมื่นล้าน ซึ่งเจ้าของมิเตอร์ไฟฟ้า ยังไม่มารับ... นี่จึงเป็นเหตุให้ต้องประกาศใน 2 ทาง คือ ให้ตรวจเช็กสิทธิ ว่ารับไปแล้วหรือยัง และอีกประการ คือเตือนภัยมิจฉาชีพ เพราะก่อนหน้านี้มีดาราสาวถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างตัวเป็นการไฟฟ้า ติดต่อเรื่องคืนค่าประกัน สุดท้ายก็ถูกหลอกสูญเงินไป 2 แสนบาท
โดย ดร.วัลลภ จิวหลง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการมีส่วนร่วมและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงาน กกพ. เผย ขณะนี้มีเงินค่าประกันการใช้ไฟฟ้าจากผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภท ที่ยังตกค้างอยู่ 7.3 หมื่นล้านบาทจริง และต้องคืนให้ครบถ้วน กับผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภท
ซึ่งสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท 1 และ 2 (บ้านอยู่อาศัยและธุรกิจขนาดเล็ก) ที่ก่อนหน้านี้ รัฐบาลมีนโยบายให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย ส่งเงินคืน เพื่อบรรเทาค่าใช้จ่ายช่วงโควิดระบาด ปรากฏว่าตั้งแต่เดือน มีนาคม 63 จนถึง มิถุนายน 66 มีผู้ใช้ไฟฟ้าที่ยื่นขอรับคืนเงิน 8 ล้านกว่ารายจากทั้งหมด 24 ล้านราย สามารถส่งคืนเงินได้ 1.7 หมื่นล้านบาท จากยอดทั้งหมด 3.3 หมื่นล้านบาท ยังเหลืออยู่อีก 1.6 หมื่นล้านบาทที่ต้องเร่งส่งคืน
ถือเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 หรือประมาณ 15 ล้านราย ที่ยังไม่มาขอรับเงินคืน ซึ่งมีสาเหตุเป็นไปได้หลายด้าน ทั้งผู้ใช้ไฟฟ้าที่เป็นคู่สัญญา อาจเสียชีวิต หรือขายบ้านโดยไม่ได้โอนชื่อ ทำให้ผู้ที่เข้ามาอยู่อาศัยใหม่ ไม่สามารถขอคืนได้ หรือบางคนยังเป็นเจ้าของมิเตอร์แต่ไม่มารับ ดังนั้น สำนักงาน กกพ. จะเร่งหาทางส่งคืนเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท ให้ครบถ้วนโดยเร็ว
โดยขอให้ผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีชื่อเป็นเจ้าของมิเตอร์ รีบติดต่อการไฟฟ้าโดยตรงเพื่อขอคืนเงินและป้องกันไม่ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้เป็นช่องทางหลอกลวงประชาชน ด้วยวิธีการส่งข้อความหลอกลวงผ่านทาง SMS หรือ LINE ที่มีการสแกนคิวอาร์โค้ด
ขณะที่อีกกลุ่ม คือ ผู้ประกอบกิจการขนาดกลาง ใหญ่และกิจการเฉพาะอย่าง หรือประเภท 3, 4 และ 5 รวม 1 แสนราย ยังมีเงินค่าประกันไฟฟ้าอีก 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะต้องส่งคืนเป็นลำดับต่อไป
ฉะนั้น ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท 1 และ 2 ที่ยังไม่ได้รับเงินคืน ขอให้ตรวจสอบสิทธิและลงทะเบียนขอรับเงินประกันการใช้ไฟฟ้า ผ่านระบบที่การไฟฟ้าฯ จัดเตรียมไว้ให้ และสำนักงาน กกพ. จะขอให้การไฟฟ้าฯ แจ้งผู้ใช้ไฟฟ้าเป็นเอกสาร โดยให้ส่งไปพร้อมกับบิลค่าไฟฟ้า เพื่อปิดช่องทางมิจฉาชีพใช้โทรศัพท์หรือออนไลน์หลอกลวงประชาชน
นอกจากนี้ ยังเตือนผู้ใช้ไฟฟ้าว่า หากมีโทรศัพท์หรือ SMS หรือ LINE แจ้งว่า จะส่งคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าค้าง โปรดอย่าหลงเชื่อ หากสงสัยให้ โทรศัพท์สอบถามสายด่วนของ กฟภ. 1129 กฟน. 1130 และ สำนักงาน กกพ. 1204 หรือ อีเมล์ [email protected]
โดย ดร.วัลลภ จิวหลง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการมีส่วนร่วมและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงาน กกพ. เผย ขณะนี้มีเงินค่าประกันการใช้ไฟฟ้าจากผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภท ที่ยังตกค้างอยู่ 7.3 หมื่นล้านบาทจริง และต้องคืนให้ครบถ้วน กับผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภท
ซึ่งสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท 1 และ 2 (บ้านอยู่อาศัยและธุรกิจขนาดเล็ก) ที่ก่อนหน้านี้ รัฐบาลมีนโยบายให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย ส่งเงินคืน เพื่อบรรเทาค่าใช้จ่ายช่วงโควิดระบาด ปรากฏว่าตั้งแต่เดือน มีนาคม 63 จนถึง มิถุนายน 66 มีผู้ใช้ไฟฟ้าที่ยื่นขอรับคืนเงิน 8 ล้านกว่ารายจากทั้งหมด 24 ล้านราย สามารถส่งคืนเงินได้ 1.7 หมื่นล้านบาท จากยอดทั้งหมด 3.3 หมื่นล้านบาท ยังเหลืออยู่อีก 1.6 หมื่นล้านบาทที่ต้องเร่งส่งคืน
ถือเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 หรือประมาณ 15 ล้านราย ที่ยังไม่มาขอรับเงินคืน ซึ่งมีสาเหตุเป็นไปได้หลายด้าน ทั้งผู้ใช้ไฟฟ้าที่เป็นคู่สัญญา อาจเสียชีวิต หรือขายบ้านโดยไม่ได้โอนชื่อ ทำให้ผู้ที่เข้ามาอยู่อาศัยใหม่ ไม่สามารถขอคืนได้ หรือบางคนยังเป็นเจ้าของมิเตอร์แต่ไม่มารับ ดังนั้น สำนักงาน กกพ. จะเร่งหาทางส่งคืนเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท ให้ครบถ้วนโดยเร็ว
โดยขอให้ผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีชื่อเป็นเจ้าของมิเตอร์ รีบติดต่อการไฟฟ้าโดยตรงเพื่อขอคืนเงินและป้องกันไม่ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้เป็นช่องทางหลอกลวงประชาชน ด้วยวิธีการส่งข้อความหลอกลวงผ่านทาง SMS หรือ LINE ที่มีการสแกนคิวอาร์โค้ด
ขณะที่อีกกลุ่ม คือ ผู้ประกอบกิจการขนาดกลาง ใหญ่และกิจการเฉพาะอย่าง หรือประเภท 3, 4 และ 5 รวม 1 แสนราย ยังมีเงินค่าประกันไฟฟ้าอีก 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะต้องส่งคืนเป็นลำดับต่อไป
ฉะนั้น ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท 1 และ 2 ที่ยังไม่ได้รับเงินคืน ขอให้ตรวจสอบสิทธิและลงทะเบียนขอรับเงินประกันการใช้ไฟฟ้า ผ่านระบบที่การไฟฟ้าฯ จัดเตรียมไว้ให้ และสำนักงาน กกพ. จะขอให้การไฟฟ้าฯ แจ้งผู้ใช้ไฟฟ้าเป็นเอกสาร โดยให้ส่งไปพร้อมกับบิลค่าไฟฟ้า เพื่อปิดช่องทางมิจฉาชีพใช้โทรศัพท์หรือออนไลน์หลอกลวงประชาชน
นอกจากนี้ ยังเตือนผู้ใช้ไฟฟ้าว่า หากมีโทรศัพท์หรือ SMS หรือ LINE แจ้งว่า จะส่งคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าค้าง โปรดอย่าหลงเชื่อ หากสงสัยให้ โทรศัพท์สอบถามสายด่วนของ กฟภ. 1129 กฟน. 1130 และ สำนักงาน กกพ. 1204 หรือ อีเมล์ [email protected]
