แนวโน้มราคาแบตเตอรี่ถูกลง หลังบอร์ดอีวีหนุนเต็มแม็ก ‘ลดภาษี – ตั้งโรงผลิต’

3 กุมภาพันธ์ 2566 - 06:49

EV-board-approve-packages-support-battery-manufacturers-Thailand-SPACEBAR-Hero
  • ‘บอร์ดอีวี’ เคาะแพ็กเกจสนับสนุนวงเงิน 2.4 หมื่นล้าน ลดภาษีสรรพสามิตเหลือ 1% จากเดิม 8%

  • หวังดึงดูดผู้ประกอบการลงทุนตั้งโรงงานผลิต ‘แบตเตอรี่’ ในประเทศไทย

คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) เห็นชอบหลักการของมาตรการสนับสนุนการผลิตแบตเตอรี่ด้วยการให้เงินสนับสนุนวงเงิน 24,000 ล้านบาท สำหรับการผลิตแบตเตอรี่ระดับเซลล์ในประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตแบตแตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งสิทธิประโยชน์ด้านภาษีสรรพสามิตจาก 8% ลดเหลือ 1% 

โดย สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เผย มาตรการด้านแบตเตอรี่ ถือเป็นเรื่องที่ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าต่างรอความชัดเจน เพราะถือเป็นหัวใจสำคัญของยานยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากหากมีราคาถูกลงจะช่วยในการส่งเสริม Ecosystem ของยานยนต์ไฟฟ้าได้ เพื่อให้เป็น New S-Curve ที่จะกลายเป็นอนาคตที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ GDP ของประเทศไทย  และเพิ่มอัตราการจ้างแรงงานในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์อีกด้วย 

ส่วนทางด้านเงินสนับสนุน ได้รับจำนวนเท่าใด ขึ้นกับ ‘ขนาดของโรงงานผลิตแบตเตอรี่และความจุพลังงานจำเพาะของแบตเตอรี่’  
  • หากเป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่ขนาดต่ำกว่า 8 GWh จะได้รับเงินสนับสนุนระหว่าง 400-600 บาท/kWh 
  • หากเป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่ขนาดสูงกว่า 8 GWh จะได้รับเงินสนับสนุนระหว่าง 600-800 บาท/kWh 
สุพัฒนพงษ์ กล่าวด้วยว่า เนื่องจากวงเงินงบประมาณมีจำนวนจำกัด การให้เงินสนับสนุนจะอยู่บนหลักการ ‘ลงทุนผลิตก่อน ได้รับเงินสนับสนุนก่อน’ โดยเงินสนับสนุนที่ภาครัฐให้กับผู้ผลิตแบตเตอรี่จะช่วยให้ต้นทุนการผลิตของรถยนต์ไฟฟ้าถูกลง ส่งผลให้รถยนต์ไฟฟ้าขายในตลาดมีราคาถูกลงด้วย 

กล่าวได้ว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้รับความสนใจจากผู้ผลิตแบตเตอรี่ยักษ์ใหญ่ระดับโลกในการมาลงทุนสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่อีวีในประเทศ เพราะปัจจัยบวกหลายประการ เช่น 
  1. ภาครัฐได้กำหนดเป้าหมายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าตามนโยบาย 30@30 หรือ การผลิต 30%ในปี 2030 (พ.ศ. 2573) ที่ชัดเจนและออกมาตรการส่งเสริมในด้าน Demand-Supply อย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนเกิดความมั่นใจมากขึ้น  
  2. ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากมาตรการให้เงินสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าซึ่งบอร์ดอีวีได้อนุมัติไปเมื่อปีที่แล้ว  
  3. การที่ผู้ผลิตรถยนต์จากค่ายจีน และค่ายยุโรป ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ของผู้ผลิตแบตเตอรี่ได้มีการลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยแล้ว
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/54HkEVS5aQ1aEnAHmdxJE/258e6c02137eb037bfcd38adf9c8da5d/EV-board-approve-packages-support-battery-manufacturers-Thailand-SPACEBAR-Photo01
นอกจากนี้ บอร์ดอีวี ได้มีการพิจารณาประเด็นสำคัญ เช่น มาตรการขับเคลื่อนการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ซึ่งเป็นรถยนต์กลุ่มใหญ่ของประเทศ ให้สามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่การผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ การจัดตั้งคณะอนุกรรมการที่ดูแลเรื่องการดัดแปลงรถยนต์ใช้แล้วเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV Conversion) 

รวมทั้งรับทราบความคืบหน้าของการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ ซึ่งในขณะนี้ ระเบียบสามารถเปิดให้หน่วยงานราชการจัดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อใช้ในหน่วยงานได้แล้ว ซึ่งมาตรการส่งเสริมในด้าน Demand-Supply เหล่านี้ ประกอบกับมาตรการสนับสนุนการสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Charging Station) จะเป็นส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลกได้
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/1efxyceu9g5ukwn7FdUgou/22a9625c41b14fea7de1501bcf508130/EV-board-approve-packages-support-battery-manufacturers-Thailand-SPACEBAR-Photo02
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4aLUl90ivu9zb7gI7DeWFW/a761148547bb6eea8b707d5bbb6dfa84/EV-board-approve-packages-support-battery-manufacturers-Thailand-SPACEBAR-Photo03

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์