สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เผยว่า
ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้พิจารณาแนวทางการทบทวนการกำหนดราคา LPG เนื่องจากสถานการณ์ราคาก๊าซ LPG ตลาดโลกในปัจจุบันยังคงผันผวน
โดย ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 ราคาก๊าซ LPG อยู่ที่ 633.60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน เทียบได้กับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ที่ประมาณ 480 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ขณะที่ราคาขายปลีกในประเทศอยู่ที่ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ส่งผลต่อสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันฯ บัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 1,352 ล้านบาทต่อเดือน และฐานะกองทุนบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 43,883 ล้านบาท เข้าใกล้กรอบวงเงินกองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของบัญชีก๊าซ LPG ที่ให้ติดลบได้ไม่เกิน 45,000 ล้านบาท
ที่ประชุม จึงมีมติเห็นชอบ ‘การทบทวน’ การกำหนดราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ซึ่งให้ ‘คงราคาขายส่ง’ หน้าโรงกลั่น LPG ที่ 19.9833 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีกรอบเป้าหมายเพื่อให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 มกราคม 2566
โดยได้ขอความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมันคงค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลหมุนเร็วไม่เกิน 1.40 บาท ต่อลิตร ซึ่งได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ ประสานสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง นำเสนอคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการบริหารจัดการอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ เพื่อให้ค่าการตลาดของน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลหมุนเร็วแต่ละชนิดไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตร และมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ออกประกาศ ธพ. เรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพ ของน้ำมันดีเซล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. 2566 ให้สอดคล้องกับมาตรการบรรเทาผลกระทบ ต่อไป
รวมถึงมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ดำเนินการออกประกาศกำหนดชนิดและอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคำนวณปริมาณสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง และแจ้งมติดังกล่าวต่อผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 ให้ยื่นขอความเห็นชอบเปลี่ยนแปลงปริมาณการค้าตามขั้นตอนต่อไป อีกทั้งมอบหมายให้คณะอนุกรรมการบริหารจัดการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงาน ติดตามแผนบริหารจัดการพลังงานในสถานการณ์วิกฤตราคาพลังงาน ในช่วงเดือนมกราคม 2566 ถึงเดือนเมษายน 2566 และรายงานต่อ กบง. ต่อไป
ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้พิจารณาแนวทางการทบทวนการกำหนดราคา LPG เนื่องจากสถานการณ์ราคาก๊าซ LPG ตลาดโลกในปัจจุบันยังคงผันผวน
โดย ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 ราคาก๊าซ LPG อยู่ที่ 633.60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน เทียบได้กับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ที่ประมาณ 480 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ขณะที่ราคาขายปลีกในประเทศอยู่ที่ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ส่งผลต่อสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันฯ บัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 1,352 ล้านบาทต่อเดือน และฐานะกองทุนบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 43,883 ล้านบาท เข้าใกล้กรอบวงเงินกองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของบัญชีก๊าซ LPG ที่ให้ติดลบได้ไม่เกิน 45,000 ล้านบาท
LPG: ยึดราคาส่งหน้าโรงกลั่น หวังคุมราคาปลีกให้ไม่หลุด 408 บาท/ถัง 15 กก.
ที่ประชุม จึงมีมติเห็นชอบ ‘การทบทวน’ การกำหนดราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ซึ่งให้ ‘คงราคาขายส่ง’ หน้าโรงกลั่น LPG ที่ 19.9833 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีกรอบเป้าหมายเพื่อให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 มกราคม 2566
ดีเซล: ขอความร่วมมือผู้ค้า ตรึงดีเซลหมุนเร็วไว้ ไม่เกิน 1.40 บาท ต่อลิตร
ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลหมุนเร็ว เพื่อเป็นการช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนรวมถึงช่วยลดภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคม 2566 โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 ไม่ต่ำกว่า 6.6% และไม่สูงกว่า 7% โดยปริมาตร ส่วนน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ไม่ต่ำกว่า 6.6% และไม่สูงกว่า 10% โดยปริมาตร ขณะที่น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 ไม่ต่ำกว่า 6.6% และไม่สูงกว่า 20% โดยปริมาตรโดยได้ขอความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมันคงค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลหมุนเร็วไม่เกิน 1.40 บาท ต่อลิตร ซึ่งได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ ประสานสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง นำเสนอคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการบริหารจัดการอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ เพื่อให้ค่าการตลาดของน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลหมุนเร็วแต่ละชนิดไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตร และมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ออกประกาศ ธพ. เรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพ ของน้ำมันดีเซล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. 2566 ให้สอดคล้องกับมาตรการบรรเทาผลกระทบ ต่อไป
NGV: ขอ ปตท.ตรึงราคา NGV เฉพาะแท็กซี่ เพื่อลมหายใจเดียวกัน
ที่ประชุม กบง. ยังมีมติเห็นชอบให้กระทรวงพลังงานขอความอนุเคราะห์ บมจ. ปตท. กำหนดราคาขายปลีกก๊าซ NGV ดังนี้- สำหรับรถยนต์ทั่วไป ยังให้ปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซ NGV ณ วันที่ 16 ธันวาคม 2565 จาก 16.59 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 17.59 บาทต่อกิโลกรัม โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2565 เป็นต้นไป
- แต่ในส่วน รถแท็กซี่ในโครงการเอ็นจีวีเพื่อลมหายใจเดียวกัน ของ ปตท. ให้ ‘คงราคาขายปลีก’ ก๊าซ NGV ไว้ที่ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2566
รวมถึงมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ดำเนินการออกประกาศกำหนดชนิดและอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคำนวณปริมาณสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง และแจ้งมติดังกล่าวต่อผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 ให้ยื่นขอความเห็นชอบเปลี่ยนแปลงปริมาณการค้าตามขั้นตอนต่อไป อีกทั้งมอบหมายให้คณะอนุกรรมการบริหารจัดการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงาน ติดตามแผนบริหารจัดการพลังงานในสถานการณ์วิกฤตราคาพลังงาน ในช่วงเดือนมกราคม 2566 ถึงเดือนเมษายน 2566 และรายงานต่อ กบง. ต่อไป