ส.อ.ท. พา GS1 Thailand ชูบาร์โค้ด 2 มิติ กับการค้ารูปแบบใหม่ ใส่ใจผู้บริโภค

23 พ.ย. 2565 - 04:37

  • ค้าปลีกไทย ก้าวอีกขั้น เปลี่ยนใช้บาร์โค้ด 2 มิติ ช่วยสินค้าไทย ‘ไร้รอยต่อ’

  • ตอบโจทย์สินค้าน่าเชื่อถือ รู้หมดอายุ รู้สต็อก เข้าถึงข้อมูลตลอดซัพพลายเชน ง่ายทั้งคู่ค้า-ผู้บริโภค

FTI-GS1-Thailand-retail-2D-barcode-SPACEBAR-Thumbnail
เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผย วงการค้าปลีกกำลังรุดหน้า หลังไทยเรา โดยสถาบันรหัสสากล ส.อ.ท. หรือ GS1 (จีเอสวัน) Thailand หน่วยงานหลักภายใต้ ส.อ.ท. ช่วยส่งเสริมการประยุกต์ใช้ระบบเทคโนโลยีบาร์โค้ดมาตรฐานสากล GS1 ให้แก่ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมไทย โดยล่าสุด ได้มีการพัฒนาเลขหมายบาร์โค้ด เปลี่ยนจาก 1 มิติ เป็น 2 มิติแล้ว ถือเป็นประเทศต้นๆ ที่มีการพัฒนาขึ้น ท่ามกลางแนวโน้มกระแสการเตรียมปรับใช้ใน 120 ประเทศทั่วโลก ภายใน 5 ปีนี้  

และเป็นที่มาให้ สถาบันรหัสสากล (GS1) จัดงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ภายใต้หัวข้อ ‘Next Generation of Retail Business for Consumer Safety & Protection ค้าปลีกมิติใหม่ ร่วมใส่ใจผู้บริโภค’ หัวข้อสำคัญ เพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนรับข้อมูลการค้าปลีกรูปแบบใหม่ ด้วย ‘บาร์โค้ด 2 มิติ’ จากวิทยากรกิตติมศักดิ์และผู้ทรงคุณวุฒิ และนำไปปรับใช้  

ทั้งนี้ มาตรฐานสากล GS1 สามารถเข้ามาช่วยสนับสนุนภาคธุรกิจในประเด็นต่างๆ เหล่านี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประยุกต์ใช้งานบาร์โค้ด 2 มิติ มาตรฐานสากล GS1 ซึ่งเป็นบาร์โค้ดที่ช่วยสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภค โดยสามารถป้องกันการขายสินค้าหมดอายุ ณ จุดขาย โดยข้อมูลที่อยู่ในบาร์โค้ด 2 มิติ จะแจ้งเตือนลูกค้าและห้ามไม่ให้มีการซื้อสินค้าหมดอายุเหล่านั้น  

และสำหรับฟากฝั่งผู้ค้าปลีกเอง ก็สามารถใช้ประโยชน์จากบาร์โค้ด 2 มิติได้ โดยสามารถทำการเรียกคืนสินค้าที่พบว่ามีปัญหาด้วยหมายเลข Batch / Lot ซึ่งข้อมูลที่อยู่ในบาร์โค้ด 2 มิติ จะช่วยให้ผู้ค้าปลีกสามารถระบุตำแหน่งของ Batch ที่ได้รับผลกระทบจากการเรียกคืนหรือถูกเพิกถอน และสามารถทำการตรวจสอบย้อนกลับผ่านสายการผลิต ทำให้ง่ายต่อการระบุแหล่งที่มาของการปนเปื้อน  

นอกจากนี้ บาร์โค้ด 2 มิติยังช่วยเพิ่มความสดใหม่และความยั่งยืนของอาหาร เพราะข้อมูลที่อยู่ในบาร์โค้ด 2 มิติ ทำให้ผู้บริโภคทราบถึงสินค้าที่หมดอายุ จึงช่วยให้เกิดการหมุนเวียนสินค้าได้รวดเร็วขึ้น และช่วยเพิ่มความสดใหม่ของอาหาร ลดอาหารเหลือทิ้ง ตอบโจทย์เรื่องความยั่งยืนที่สอดคล้องกับเทรนด์ค้าปลีกในปัจจุบัน 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/01LUe9hoaG3OWAvYeUt7L9/2d154da03c5ed7dcca498659f2ca0e30/FTI-GS1-Thailand-retail-2D-barcode-SPACEBAR-Photo01
Photo: Photo: สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
คมสัน เหล่าศิลปเจริญ ประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันรหัสสากล (GS1 Thailand) และรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวเสริมว่า แม้ว่าบาร์โค้ด 1 มิติตามมาตรฐานสากล GS1 จะมีการใช้งานในอุตสาหกรรมค้าปลีกมาอย่างยาวนาน แต่เนื่องด้วยข้อจำกัดที่สามารถรองรับการใส่ข้อมูลเฉพาะเลขหมายประจำตัวสินค้าสากล หรือเลข GTIN ของสินค้าเพียงอย่างเดียว จึงทำให้ไม่เหมาะที่จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน  

บาร์โค้ด 2 มิติ ที่สามารถใส่ข้อมูลได้หลากหลาย จึงเริ่มเข้ามามีบทบาท โดยเป็นสัญลักษณ์บนบรรจุภัณฑ์ที่กำลังจะเข้ามาปฏิรูปอาหารสดในการค้าปลีก และเป็นสัญลักษณ์เดียวที่ทำให้ข้อมูลต่างๆ ของสินค้าสามารถสแกนพร้อมกันได้ ณ จุดขาย ได้แก่ หมายเลข Batch / Lot หมายเลขซีเรียล วันที่ควรบริโภคก่อน วันหมดอายุ วันที่บรรจุ น้ำหนัก และราคาของสินค้า ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เองที่ช่วยส่งเสริมความปลอดภัยทางด้านอาหารสำหรับผู้บริโภค โดยสามารถป้องกันการขายสินค้าที่หมดอายุได้ทันทีที่เครื่องชำระเงิน  

โดยมีหลักการ คือ เมื่อสินค้าที่หมดอายุถูกสแกน ณ จุดขาย ข้อมูลที่อยู่ในบาร์โค้ด 2 มิติ จะแจ้งเตือนลูกค้าและห้ามไม่ให้มีการซื้อสินค้าเหล่านั้น บาร์โค้ด 2 มิติ ตามมาตรฐานสากล GS1 จึงเป็นเทรนด์ใหม่ที่กลุ่มค้าปลีกทั่วโลกให้ความสนใจและเริ่มนำร่องการใช้งานบาร์โค้ด 2 มิติเหล่านี้ 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/5NMTabeHTj25C8xECXE4bm/2c3dbe0f557174ce6fb182aca2292b35/FTI-GS1-Thailand-retail-2D-barcode-SPACEBAR-Photo02
Photo: Photo: สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
สำหรับประเทศไทย GS1 ได้ร่วมมือกับเซเว่น-อีเลฟเว่น (7-ELEVEN) นำร่องการใช้งานบาร์โค้ด 2 มิติ ซึ่งถือเป็นผู้ค้าปลีกรายแรกในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้นำเอาเทคโนโลยีบาร์โค้ด 2 มิติ ชนิด GS1 Data Matrix ไปประยุกต์ใช้ในการแจ้งเตือนสินค้าหมดอายุที่จุดขาย นอกเหนือจากวันหมดอายุที่ตีพิมพ์ไว้บนบรรจุภัณฑ์ เพื่อยกระดับความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภค  

โดยได้เริ่มนำร่องกับสินค้าในกลุ่มอาหารพร้อมรับประทาน (Ready to Eat) ที่ผลิตโดยบริษัท ซีพีแรม จำกัด ซึ่งมีการบันทึกข้อมูลรหัสสินค้า ล็อตการผลิต และวันที่ควรบริโภคก่อน ลงในสัญลักษณ์บาร์โค้ด 2 มิติชนิด GS1 Data Matrix ที่พิมพ์ลงบนบรรจุภัณฑ์สินค้าโดยตรงในสายการผลิต เมื่อแคชเชียร์สแกนบาร์โค้ดดังกล่าวที่จุดขาย เครื่องคอมพิวเตอร์จะแสดงราคาสินค้า 

พร้อมกับตรวจสอบวันที่ควรบริโภคก่อน หากพบว่าสินค้าดังกล่าวเลยกำหนดวันที่ควรบริโภคก่อน ระบบจะระงับการขายสินค้าชิ้นนั้น พร้อมกับแจ้งเตือนไม่ให้แคชเชียร์นำส่งสินค้าชิ้นนั้นแก่ผู้บริโภค และต้องดำเนินการกำจัดทิ้งตามกระบวนการหน้าร้านทันที ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้มากขึ้นว่าจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพเมื่อซื้อสินค้าที่ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น  
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6RR9xzSMBQXDIP29WPhzl5/9c60e44abea7be751732873c2c121406/FTI-GS1-Thailand-retail-2D-barcode-SPACEBAR-Photo03
Photo: Photo: สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
นอกเหนือจากการสัมมนาแล้ว ยังมีการจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การเชื่อมโยงฐานข้อมูลสินค้าระหว่าง GS1 Thailand Member Portal และแอปพลิเคชัน ECOLIFE ตลอดจนเข้าร่วมเยี่ยมชมงาน GS1 Thailand Expo 2022 ที่มีการจัดโซนแสดงเพื่อให้ความรู้ต่างๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับมาตรฐานสากล GS1 ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับประโยชน์และความรู้มากยิ่งขึ้น 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/7KnL23rmFxoa0U0hIJBJr9/2f35e4820e42427226db7f41dfa5a0a8/FTI-GS1-Thailand-retail-2D-barcode-SPACEBAR-Photo04
Photo: Photo: สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์