แรงงาน ขอถก ส.อ.ท. ค่าจ้างขั้นต่ำ เท่าไหร่ที่เป็นไปได้

15 ก.ย. 2566 - 09:51

  • กระทรวงแรงงาน เข้าฟัง ส.อ.ท. หารือปรับค่าจ้างขั้นต่ำ อยากสรุปภายในพฤศจิกายน เป็นของขวัญปีใหม่คนไทย

  • เอกชน ย้ำ ไม่มีปัญหา แต่ยังต้องขึ้นกับหลายปัจจัย และต้องฟังข้อสรุปไตรภาคี

FTI-Labor work-minimum-wage-private-entrepreneurs-SPACEBAR-Hero (1)
ยังคงต้องคุยกันยาว เรื่องการปรับค่าแรงขั้นต่ำ ที่ฟากฝั่งรัฐบาลหาเสียงเอาไว้ ชูการปรับขึ้นด้วยตัวเลขเกินครึ่งพัน ที่ ‘600 บาท’ สุดท้ายแล้ว ทุกเรื่องย่อมมีเหตุผลประกอบ ล่าสุด ในการเข้าคุยนโยบายแรงงาน ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานคนใหม่  ‘พิพัฒน์ รัชกิจประการ’ พร้อมคณะผู้บริหารของกระทรวงฯ ที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นั้น ‘พิพัฒน์’ ระบุว่า อยากขอความคิดเห็น เพื่อนำมาผลักดันให้เป็นแนวทางที่เป็นไปได้ ภายหลังได้หาเสียงเอาไว้  

โดย การเดินทางมาที่ ส.อ.ท. เนื่องจาก ส.อ.ท. เป็นตัวแทนภาคเอกชนที่มีความเข้าใจในปัญหาแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับภาคอุตสาหกรรม กระทรวงแรงงานฯ จึงต้องการรับทราบความคิดเห็น และอยากหารือเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ เพราะขณะนี้ทุกภาคส่วนมีความกังวล โดยขอรับฟังข้อเสนอที่ได้รับ นำไปหารือต่อ เพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุด โดยไม่กระทบต่อนายจ้างและลูกจ้าง หาจุดที่แต่ละฝ่ายสามารถยอมรับได้ 

“การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ เราจะไม่ได้มีการจ่ายแบบเหมารวม แต่เราจะจ่ายตามทักษะ หรือที่เรียกว่า Pay by Skills เพราะหากจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำแก่แรงงานที่ไม่มีประสบการณ์ ก็จะสร้างความไม่ยุติธรรมต่อแรงงานที่มีประสบการณ์” พิพัฒน์ กล่าว 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/5Ym4efYrqS1TljZwUGNkcj/d7a705ca52154e60141c76c74e46b920/FTI-Labor_work-minimum-wage-private-entrepreneurs-SPACEBAR-Photo01__1_

เอกชน หนุนค่าแรงตามทักษะ 

ด้าน เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน ส.อ.ท. ไม่ปฏิเสธ การต้องปรับขึ้นค่าจ้าง แต่ชี้ ขณะนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะปัจจุบันอุตสาหกรรมกำลังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ภูมิรัฐศาสตร์ และต้องปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคดิจิทัล ส.อ.ท. ทำการวิเคราะห์ และพบว่าการจะทำให้อุตสาหกรรมอยู่รอด สิ่งสำคัญที่สุด มี 4 เปลี่ยน คือ
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/1gkPkhtlgMmZlgCd4dVkJO/2257dd99b1e699e46faf3ca404e03680/FTI-Labor_work-minimum-wage-private-entrepreneurs-SPACEBAR-Photo02__1_
  1. เปลี่ยนจาก Original Equipment Manufacturer - OEM (ผู้รับจ้างผลิต) เป็น Original Design Manufacturer - ODM (ผู้รับจ้างที่ออกแบบและผลิตสินค้าให้กับบริษัท) และ Original Brand Manufacturer – OBM (ผู้ผลิตภายใต้รูปแบบและตราสินค้าของตนเอง)  
  2. เปลี่ยนจากใช้แรงงานเป็นใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เครื่องจักร และระบบ Automation  
  3. เปลี่ยนจากผลิตเพื่อกำไร เป็นการผลิตควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม  
  4. เปลี่ยนจากแรงงานไม่มีฝีมือ (Unskilled labor) เป็นแรงงานที่มีฝีมือขั้นสูง (High-skilled labor) ผ่านการเสริมสร้างทักษะ 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4Qz0FpgfvnTc50GDfMD2jp/61d1b20e1ac20139aac524cc62d02039/FTI-Labor_work-minimum-wage-private-entrepreneurs-SPACEBAR-Photo03__1_
“อย่างที่เราทราบกัน ประสิทธิภาพแรงงานไทยในกลุ่มอาเซียน ยังไม่สามารถเทียบเท่าเวียดนามและอินโดนีเซียได้ เนื่องจากยังไม่สามารถฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 ได้เต็มที่นัก ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องรีบเร่งเพิ่มประสิทธิภาพแรงงานไทย เพื่อให้สามารถแข่งขันกับประเทศต่างๆ ได้ เราต้องทำงานเป็นปาท่องโก๋กัน เพราะอุตสาหกรรมจะเติบโตได้ ต้องมีกระทรวงแรงงานคอยสนับสนุน” เกรียงไกร กล่าว  

ประธาน ส.อ.ท. ยังได้นำเสนอยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนอุตสาหกรรม ทั้งอุตสาหกรรมเดิม (First Industries) ในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน และอุตสาหกรรมใหม่หรืออุตสาหกรรมแห่งอนาคต (Next-GEN Industries) เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมไทย เพื่อประเทศไทยที่เข้มแข็งกว่าเดิม 

ค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ ‘เท่าไหร่’ ควรมาจากข้อสรุปไตรภาคี 

ขณะ ‘สุชาติ จันทรานาคราช’ รองประธาน ส.อ.ท. และประธานสายงานแรงงาน ให้ความเห็นว่า การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ควรเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการค่าจ้างไตรภาคีแต่ละจังหวัดเป็นผู้พิจารณาให้สอดคล้องกับปัจจัยทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ อัตราการเจริญเติบโตของ GDPs ความเดือดร้อนของลูกจ้าง ความสามารถในการจ่ายของนายจ้าง และผลิตภาพแรงงาน ให้ปราศจากการแทรกแซงจากหน่วยงานภายนอก พร้อมเสนอ ข้อเสนอด้านแรงงานที่ต้องการให้กระทรวงแรงงานช่วยผลักดัน
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/BHK22tIlZCEsWOhtEmzzW/dabd93b2726c8c692f1eb69f1d4fe69e/FTI-Labor_work-minimum-wage-private-entrepreneurs-SPACEBAR-Photo04__1_

เอกชน ชู 8 ข้อเสนอ ขอแรงงานช่วยผลักดัน 

  1. เพิ่มผลิตภาพแรงงาน (Labor Productivity) เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของไทยกับประเทศคู่แข่ง และผลักดันประเด็นผลิตภาพแรงงานเป็นวาระแห่งชาติ รวมทั้งต้องมีการพัฒนาทักษะให้ตรงความต้องการของผู้ประกอบการและตลาดแรงงาน  
  2. ส่งเสริมและพัฒนา SMEs ในการนำระบบ Automation มาปรับใช้ โดยภาครัฐควรมีนโยบายและจัดสรรงบประมาณมาใช้ในระบบบริหารจัดการและการผลิตให้มีประสิทธิภาพ เพื่อทดแทนกำลังแรงงานที่ขาดแคลน และสร้างความสามารถในการแข่งขัน   
  3. จัดทำฐานข้อมูล (Big Data) ที่ทันสมัย ถูกต้องแม่นยำและครบถ้วน เพื่อบริหารจัดการอุปสงค์ (Demand) และอุปทาน (Supply) ด้านแรงงาน แก้ไขปัญหาการทำงานไม่ตรงกับทักษะ (Mismatching) และการขาดแคลนแรงงาน โดยมีหน่วยงานเฉพาะกิจมารับผิดชอบ  
  4. กระชับความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคการศึกษา และภาคเอกชน ในการผลิตบุคลากรตามความต้องการของตลาดแรงงาน (STEM) ให้มีปริมาณและคุณภาพที่เพียงพอ  
  5. แก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานต่างด้าว โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าและจ้างงานแรงงานต่างด้าวให้มีประสิทธิภาพ ลดขั้นตอน และค่าใช้จ่าย เพื่อลดภาระผู้ประกอบการที่ใช้แรงงานต่างด้าว  
  6. แก้ไขปัญหาประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยภาครัฐควรออกมาตรการจูงใจผู้ประกอบการ ส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงวัย ลดการขาดแคลนแรงงาน ลดปัญหาครอบครัวและสังคม เช่น ส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงวัยที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญ ออกมาตรการลดหย่อนภาษี และมาตรการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหารือกับทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนาทักษะผู้สูงอายุทั้งด้าน Upskill และ Reskill รวมทั้งส่งเสริมผู้สูงอายุปรับตัวตามตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงไป  
  7. เพิ่มรายได้ให้กับแรงงาน สนับสนุน ส่งเสริมให้จ่ายค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงาน (Pay by Skills) เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับนายจ้าง และสามารถลดต้นทุนต่อหน่วย ปรับปรุงระบบสวัสดิการแรงงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน เช่น ลดค่าสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของครัวเรือน ค่าเล่าเรียนบุตร เป็นต้น เพื่อลดภาระให้กับแรงงานและสามารถดำรงชีพได้  
  8. ออกนโยบายการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3UfaWLQR7QvGcNaF7UHrJ3/18930a0190380dfe3fd5bcb339334224/728994__1_
หลัง กระทรวงแรงงาน หารือ ส.อ.ท.แล้ว กระทรวงแรงงาน ยังย้ำ การปรับค่าแรงขั้นต่ำ จะต้องเกิดขึ้นแน่นอนภายในปี 2567 ด้วยแนวทาง หาข้อมูลแรงงานไทยและแรงงานเพื่อนบ้าน เตรียมเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) 25 กันยายน 2566 นี้ อยากได้ข้อสรุปและประกาศ ภายในเดือนพฤศจิกายน เป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทย
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4zY4niIJpFRsnIGwZuf2DV/145e397431f248b249427a9a8e449cdc/FTI-Labor_work-minimum-wage-private-entrepreneurs-SPACEBAR-Photo05__1_

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์