ธเนศร์ บินอาซัน รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยในงาน Haier Forward Together Super Conference 2023 ชูการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และขึ้นแท่นเป็นแบรนด์เครื่องปรับอากาศอันดับ 1 ของประเทศไทยในปี 2566 ว่า หนึ่งในวิสัยทัศน์ที่ ‘ไฮเออร์’ ทั่วโลกมีร่วมกัน คือ การมอบเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค ซึ่งคำว่า ‘ดี’ ในที่นี้ ไม่ใช่แค่คุณภาพสินค้าที่ดี แต่รวมไปถึงการนำเสนอสิ่งที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการให้กับลูกค้ามากที่สุด
ดังนั้น ไฮเออร์ ประเทศไทย จึงไม่เคยหยุดที่จะพัฒนา คิดค้น และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตของคนไทยโดยเฉพาะ ซึ่งผลจากความทุ่มเท ทำให้ภาพรวมของสินค้าแบรนด์ไฮเออร์ในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลกถึง 13 ปีซ้อน
ดังนั้น ไฮเออร์ ประเทศไทย จึงไม่เคยหยุดที่จะพัฒนา คิดค้น และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตของคนไทยโดยเฉพาะ ซึ่งผลจากความทุ่มเท ทำให้ภาพรวมของสินค้าแบรนด์ไฮเออร์ในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลกถึง 13 ปีซ้อน

“ในปีที่ผ่านมา ไฮเออร์สามารถทำยอดขายในทุกกลุ่มสินค้าได้ไม่ต่ำกว่า 9 พันล้านบาท สวนทางกับภาพรวมตลาดที่ชะลอตัว โดยเฉพาะสินค้าหมวดเครื่องปรับอากาศที่ยังมียอดขายไม่ต่ำกว่า 4 พันล้านบาท เติบโตถึง 15 % จนสามารถทะยานขึ้นเป็นแบรนด์เครื่องปรับอากาศที่มียอดขายสูงสุดอันดับ 2 ของตลาดในประเทศไทย”
สำหรับกลยุทธ์ในปี 2566 ไฮเออร์ เตรียมเปิดตัวเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ในคอนเซปต์ Haier Super Air ซึ่งทีมวิจัยและพัฒนาของไฮเออร์นำฟีดแบ็คจากลูกค้ามาปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ดีขึ้น รวมถึงสร้างสรรค์ด้านนวัตกรรมความเย็นที่มุ่งเน้นตอบโจทย์การใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคาดหวังว่า ผลิตภัณฑ์ซีรีส์ใหม่นี้ จะเป็นกุญแจสำคัญ ที่ช่วยปลดล็อกการเติบโตครั้งใหม่ ให้ไฮเออร์ สามารถก้าวไปสู่ตำแหน่ง แบรนด์เครื่องปรับอากาศเชิงพานิชย์อันดับ 1 ของประเทศไทย ภายในปี 2566
สำหรับกลยุทธ์ในปี 2566 ไฮเออร์ เตรียมเปิดตัวเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ในคอนเซปต์ Haier Super Air ซึ่งทีมวิจัยและพัฒนาของไฮเออร์นำฟีดแบ็คจากลูกค้ามาปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ดีขึ้น รวมถึงสร้างสรรค์ด้านนวัตกรรมความเย็นที่มุ่งเน้นตอบโจทย์การใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคาดหวังว่า ผลิตภัณฑ์ซีรีส์ใหม่นี้ จะเป็นกุญแจสำคัญ ที่ช่วยปลดล็อกการเติบโตครั้งใหม่ ให้ไฮเออร์ สามารถก้าวไปสู่ตำแหน่ง แบรนด์เครื่องปรับอากาศเชิงพานิชย์อันดับ 1 ของประเทศไทย ภายในปี 2566

ด้าน หลี่ จิง ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีที่ 2565 เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ของไฮเออร์ทำรายได้อยู่ที่ราว 500 ล้านบาท โดยบริษัทคาดการณ์เป้าหมาย 3 ปี (พ.ศ. 2566 – 2568) ผลักดันให้มีรายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ปีละ 1,000 ล้านบาท โดยในปี 2566 ตั้งเป้าไว้ที่ 1,000 ล้านบาท ปี 2567 ตั้งเป้าไว้ที่ 2,000 ล้านบาท และคาดว่าภายในปี 2568 จะมียอดขาย 3,000 ล้านบาท หรือคาดการณ์เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีนี้ถึง 6 เท่า
ทั้งนี้ หลี่ จิง ยังได้นำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ ที่จะเปิดตัวในปี 2566 ทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ขนาดเล็ก อย่าง Ceiling Type, Cassette Type และ Duct Type เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ขนาดกลางอย่าง MRV และขนาดใหญ่อย่าง Chiller ในงานนี้ด้วย มา เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัส และสอบถามข้อมูลรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ ขณะที่เรื่องการประกันสินค้านั้น กล่าวได้ว่า ไฮเออร์เป็นแบรนด์ที่รับประกันสินค้าสูงสุดถึง 10 ปี นอกจากนี้ ยังมีการขยายไลน์ผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศแบบ Non Inverter ที่มีน้ำยา R32 เพื่อช่วยลดมลภาวะให้กับโลกอีกด้วย
ทั้งนี้ หลี่ จิง ยังได้นำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ ที่จะเปิดตัวในปี 2566 ทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ขนาดเล็ก อย่าง Ceiling Type, Cassette Type และ Duct Type เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ขนาดกลางอย่าง MRV และขนาดใหญ่อย่าง Chiller ในงานนี้ด้วย มา เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัส และสอบถามข้อมูลรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ ขณะที่เรื่องการประกันสินค้านั้น กล่าวได้ว่า ไฮเออร์เป็นแบรนด์ที่รับประกันสินค้าสูงสุดถึง 10 ปี นอกจากนี้ ยังมีการขยายไลน์ผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศแบบ Non Inverter ที่มีน้ำยา R32 เพื่อช่วยลดมลภาวะให้กับโลกอีกด้วย

