สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เผย ปัญหาโลกร้อนเป็นปัญหาที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันแก้ไข เพื่อบรรเทาผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดแก่ประชากรโลก โดยมอบหมายให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เร่งรัดกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับคอนกรีตและปูนซีเมนต์ โดยให้สามารถใช้ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกเป็นวัตถุดิบในการทำผลิตภัณฑ์คอนกรีตต่างๆ แทนการใช้ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ซึ่งการผลิตปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และปัจจุบันก็มีการคิดค้นพัฒนาการผลิตปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก มีส่วนประกอบของปูนเม็ดในอัตราส่วนที่น้อยกว่าปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ประมาณร้อยละ 10 ของปริมาณทั้งหมด โดยใช้วัสดุอื่นมาผสมทดแทน เช่น หินปูน กากถลุง และปอซโซลาน เป็นต้น
จากองค์ประกอบที่มีอัตราส่วนของปูนเม็ดน้อยลง จึงทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตน้อยลงตามไปด้วย
โดยปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกนั้นมีคุณสมบัติและประสิทธิภาพในการนำไปใช้งานที่ดีเทียบเท่ากับปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ หากประมาณการเบื้องต้นในเชิงของการผลิตปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก 1 ตัน จะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 0.05 ตัน (CO2) เมื่อเทียบกับการผลิตปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ในปริมาณที่เท่ากัน ดังนั้น การนำปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกมาใช้งานทดแทนปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ จึงเป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อนได้
ในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม สมอ. ได้กำหนดและแก้ไขมาตรฐานให้สามารถใช้ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกในการทำผลิตภัณฑ์คอนกรีตต่าง ๆ แล้วจำนวน 71 มาตรฐาน ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการแก้ปัญหาโลกร้อน ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ จึงขอเชิญชวนให้ภาคอุตสาหกรรมและหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน นำปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกมาใช้งานทดแทนปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนร่วมกัน
ด้าน บรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เผยด้วย สมอ. ได้ดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรมด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยได้กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก มอก. 2594-2556 โดยระบุเกณฑ์กำหนดคุณลักษณะด้านต่าง ๆ และมีการแบ่งชนิดครอบคลุมการใช้งานที่แตกต่างกัน ทั้งการใช้งานทั่วไป งานที่ต้องการแรงอัดต้นสูง งานที่ทนต่อการกัดกร่อนของซัลเฟต (เหมาะสำหรับพื้นที่ชายฝั่งทะเล หรือพื้นที่น้ำกร่อย) รวมทั้งงานโครงสร้างขนาดใหญ่ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการผลิตปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกที่ได้รับอนุญาตให้แสดงเครื่องหมายมาตรฐาน มอก. แล้ว รวมทั้งสิ้น 11 ราย
หลังจากที่ สมอ. ได้ประกาศใช้มาตรฐานปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกแล้ว ยังได้ระบุเพิ่มในเนื้อหาของมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับคอนกรีตและปูนซีเมนต์ที่มีการกำหนดใหม่หรือมีการปรับปรุงแก้ไข โดยระบุให้ ‘ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก’ เป็นวัสดุที่ใช้ในการทำผลิตภัณฑ์คอนกรีตและปูนซีเมนต์แล้ว จำนวน 38 มาตรฐาน เช่น คอนกรีตทนไฟ กระเบื้องซีเมนต์เส้นใยแผ่นลอน ท่อคอนกรีตเสริมเหล็กหล่อสำเร็จรูป คอนกรีตบล็อกกลวงรับน้ำหนัก และคอนกรีตผสมเสร็จ เป็นต้น สามารถดูรายชื่อ ทั้ง 38 มาตรฐาน ได้ที่นี่
โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้มีการนำปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกไปใช้ทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้แพร่หลายยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีมาตรฐานในกลุ่มผลิตภัณฑ์คอนกรีตและปูนซีเมนต์อีกจำนวน 33 มาตรฐาน ที่ยังไม่ได้มีการระบุปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกให้เป็นวัสดุที่ใช้ในการทำในเนื้อหาของมาตรฐาน เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นมาตรฐานที่มีการประกาศใช้มาก่อนมาตรฐานปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก ดังนั้น สมอ. จึงได้ออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเพิ่มเติมอีก 1 ฉบับ เมื่อเดือนธันวาคม 2565 กำหนดให้เพิ่มปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกเป็นวัสดุในการทำกลุ่มผลิตภัณฑ์คอนกรีต และปูนซีเมนต์ จำนวน 33 มาตรฐาน เช่น กระเบื้องคอนกรีตปูพื้น กระเบื้องหินขัดชนิดสองชั้น เสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรงหล่อสําเร็จ คอนกรีตบล็อกกลวงสำหรับพื้นคอนกรีตสำเร็จรูป กระเบื้องซีเมนต์ปูพื้น และคอนกรีตบล็อกประสานปูพื้น เป็นต้น
จากองค์ประกอบที่มีอัตราส่วนของปูนเม็ดน้อยลง จึงทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตน้อยลงตามไปด้วย
โดยปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกนั้นมีคุณสมบัติและประสิทธิภาพในการนำไปใช้งานที่ดีเทียบเท่ากับปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ หากประมาณการเบื้องต้นในเชิงของการผลิตปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก 1 ตัน จะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 0.05 ตัน (CO2) เมื่อเทียบกับการผลิตปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ในปริมาณที่เท่ากัน ดังนั้น การนำปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกมาใช้งานทดแทนปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ จึงเป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อนได้
ในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม สมอ. ได้กำหนดและแก้ไขมาตรฐานให้สามารถใช้ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกในการทำผลิตภัณฑ์คอนกรีตต่าง ๆ แล้วจำนวน 71 มาตรฐาน ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการแก้ปัญหาโลกร้อน ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ จึงขอเชิญชวนให้ภาคอุตสาหกรรมและหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน นำปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกมาใช้งานทดแทนปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนร่วมกัน
ด้าน บรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เผยด้วย สมอ. ได้ดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรมด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยได้กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก มอก. 2594-2556 โดยระบุเกณฑ์กำหนดคุณลักษณะด้านต่าง ๆ และมีการแบ่งชนิดครอบคลุมการใช้งานที่แตกต่างกัน ทั้งการใช้งานทั่วไป งานที่ต้องการแรงอัดต้นสูง งานที่ทนต่อการกัดกร่อนของซัลเฟต (เหมาะสำหรับพื้นที่ชายฝั่งทะเล หรือพื้นที่น้ำกร่อย) รวมทั้งงานโครงสร้างขนาดใหญ่ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการผลิตปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกที่ได้รับอนุญาตให้แสดงเครื่องหมายมาตรฐาน มอก. แล้ว รวมทั้งสิ้น 11 ราย
หลังจากที่ สมอ. ได้ประกาศใช้มาตรฐานปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกแล้ว ยังได้ระบุเพิ่มในเนื้อหาของมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับคอนกรีตและปูนซีเมนต์ที่มีการกำหนดใหม่หรือมีการปรับปรุงแก้ไข โดยระบุให้ ‘ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก’ เป็นวัสดุที่ใช้ในการทำผลิตภัณฑ์คอนกรีตและปูนซีเมนต์แล้ว จำนวน 38 มาตรฐาน เช่น คอนกรีตทนไฟ กระเบื้องซีเมนต์เส้นใยแผ่นลอน ท่อคอนกรีตเสริมเหล็กหล่อสำเร็จรูป คอนกรีตบล็อกกลวงรับน้ำหนัก และคอนกรีตผสมเสร็จ เป็นต้น สามารถดูรายชื่อ ทั้ง 38 มาตรฐาน ได้ที่นี่
โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้มีการนำปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกไปใช้ทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้แพร่หลายยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีมาตรฐานในกลุ่มผลิตภัณฑ์คอนกรีตและปูนซีเมนต์อีกจำนวน 33 มาตรฐาน ที่ยังไม่ได้มีการระบุปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกให้เป็นวัสดุที่ใช้ในการทำในเนื้อหาของมาตรฐาน เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นมาตรฐานที่มีการประกาศใช้มาก่อนมาตรฐานปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก ดังนั้น สมอ. จึงได้ออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเพิ่มเติมอีก 1 ฉบับ เมื่อเดือนธันวาคม 2565 กำหนดให้เพิ่มปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกเป็นวัสดุในการทำกลุ่มผลิตภัณฑ์คอนกรีต และปูนซีเมนต์ จำนวน 33 มาตรฐาน เช่น กระเบื้องคอนกรีตปูพื้น กระเบื้องหินขัดชนิดสองชั้น เสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรงหล่อสําเร็จ คอนกรีตบล็อกกลวงสำหรับพื้นคอนกรีตสำเร็จรูป กระเบื้องซีเมนต์ปูพื้น และคอนกรีตบล็อกประสานปูพื้น เป็นต้น




