ทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติและประธานกรรมการ บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) หรือ K-HA เผยแผน เตรียมนำที่ดิน Sunk Cost และ Land bank บางแปลง จัดทำโครงการบ้านรูปแบบ PPP กับบริษัทลูกคือ K-HA ในชื่อโครงการ ‘บ้านเคหะสุขประชา’ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘สร้างบ้านสร้างเศรษฐกิจ เพื่อชีวิตสุขประชา’ หนึ่งในรูปแบบพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการมี ‘บ้านเช่าพร้อมอาชีพ’ สร้างความมั่นคง ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีอาชีพสร้างรายได้ เลี้ยงตัวเองและครอบครัว จึงเรียกว่า ‘เศรษฐกิจสุขประชา’ โดยเน้น 6 อาชีพ ได้แก่
สำหรับโครงการเคหะสุขประชาจะดำเนินการทั้งหมด 37 แปลง มีโครงการนำร่องที่โครงการเคหะสุขประชา ฉลองกรุง จำนวน 302 หน่วย และเศรษฐกิจสุขประชา ที่นี่จะเน้นเรื่องของตลาดเป็นหลัก
ส่วนโครงการ ‘เคหะสุขประชาร่มเกล้า’ มีจำนวน 270 หน่วย จะเน้นในเรื่อง Minimal ขณะที่อีก 3 โครงการนำร่องที่อยู่ในรูปของ ‘เศรษฐกิจสุขประชา’ เน้นเกษตรอินทรีย์และปศุสัตว์ ประกอบด้วย
ส่วนอีก 22 แปลงที่เหลือ กคช.อาจจะดำเนินการพัฒนาและปรับเปลี่ยนไปบ้างโดยยึดจากรูปแบบแพลตฟอร์มที่บริษัทที่ปรึกษาทำให้ 13 แปลง ซึ่งยังไม่สรุปชัดว่าจะเน้นเศรษฐกิจในรูปแบบใด
“มีชาวบ้านที่สนใจโครงการบ้านพร้อมอาชีพทางภาคใต้ อยากเลี้ยงกบเนื้อ เพราะได้ราคา สร้างรายได้ดีด้วย ต้องมาดูกันว่าจะมีหรือไม่ เท่าที่สำรวจโครงการที่เน้นเป็นพื้นที่ปลูกกัญชง จะได้รับความสนใจมากที่สุด”
สำหรับ ‘โครงการบ้านเช่าพร้อมอาชีพ’ มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ประกอบด้วย กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการ กลุ่มผู้มีสถานะโสด กลุ่มครัวเรือนใหม่ และกลุ่มครอบครัว ซึ่งวันนี้ประชาชนที่สนใจสามารถเข้าไปจองในระบบออนไลน์ที่บริษัทเคหะสุขประชา จำกัด ได้ เพียงแต่ผู้ที่จะเข้าโครงการนี้ได้ต้องเป็นผู้มีรายได้น้อย ที่เข้าตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้เท่านั้น
“เราทำโครงการเคหะสุขประชาบ้านเช่าพร้อมอาชีพไปก่อน เมื่อทุกอย่างเดินหน้าได้แล้ว การเคหะอาจจะขยายไปสร้างบ้านขายให้กลุ่มคนต่างๆ ในที่ดินที่เหลือได้ด้วย เพราะที่ดินแต่ละแห่งมีจำนวนมาก และสามารถจัดทำเป็นเฟสได้”
นอกจากนี้ ยังมีโครงการบ้านผู้สูงอายุแบบครบวงจร (Wellness Center ) ซึ่งต้องการให้ข้าราชการที่เกษียณอายุ ที่เคยอยู่บ้านพักราชการสามารถมีบ้านอยู่อาศัยเป็นของตัวเองหลังเกษียณ ซึ่งได้เตรียมพื้นที่บริเวณ อ.สูงเนิน จังหวัดนครราชสีมาไว้แล้ว เป็นที่ดินทำเลดี อยู่ติดถนน และที่พื้นที่ไนท์ซาฟารี จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทั้ง 2 โครงการอยู่ระหว่างการศึกษา รวมไปถึงโครงการ TOD ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามโครงข่ายคมนาคมโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะเป็นการพัฒนาที่ดินแบบ Mixed Use ที่ประกอบด้วยที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย รายได้ปานกลาง มีออฟฟิศสำนักงาน ที่เดิมคาดว่าจะเริ่มที่คลองจั่น เป็นต้น
ทวีพงษ์ กล่าวอีกว่า มีผู้ประกอบการภาคเอกชน และเจ้าของที่ดินหลายแห่งได้ให้ความสนใจโครงการบ้านพร้อมอาชีพ โดยเฉพาะเอกชนที่เชียงราย ยินดีมอบที่ดินให้ทำรูปแบบเศรษฐกิจด้านการเลี้ยงโคเนื้อ ซึ่งเขาอยู่ในสมาคมโคเนื้อ ที่จะส่งออกไปเมืองนอกได้ เมื่อทุกอย่างเดินหน้าได้เอกชนจะพัฒนาโครงการเองในที่ดินที่เหลือต่อไป
รวมไปถึงการนิคมอุตสาหกรรม มีการหารืออยากให้บริษัทเคหะสุขประชาไปสร้างอาคารเช่าให้แรงงานในนิคมเป็นเวลา 30 ปี แต่ปรากฏว่า ไม่สามารถดำเนินการได้ หลังมีข้อท้วงติงจากหน่วยงานรัฐด้วยกันว่า บริษัทเคหะสุขประชา เป็นบริษัทลูก กคช. จะดำเนินการสร้างที่อยู่อาศัยแข่งกับ กคช.ไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ กคช.และบริษัทลูก ต้องนำข้อท้วงติงไปศึกษาและหาวิธีการแก้ไขต่อไป
- เกษตรอินทรีย์
- ปศุสัตว์
- อาชีพบริการชุมชนและชุมชนข้างเคียง
- อุตสาหกรรมขนาดเล็ก
- ศูนย์การค้าปลีก-ส่ง
- ตลาด
สำหรับโครงการเคหะสุขประชาจะดำเนินการทั้งหมด 37 แปลง มีโครงการนำร่องที่โครงการเคหะสุขประชา ฉลองกรุง จำนวน 302 หน่วย และเศรษฐกิจสุขประชา ที่นี่จะเน้นเรื่องของตลาดเป็นหลัก
ส่วนโครงการ ‘เคหะสุขประชาร่มเกล้า’ มีจำนวน 270 หน่วย จะเน้นในเรื่อง Minimal ขณะที่อีก 3 โครงการนำร่องที่อยู่ในรูปของ ‘เศรษฐกิจสุขประชา’ เน้นเกษตรอินทรีย์และปศุสัตว์ ประกอบด้วย
- โครงการวังน้อย จังหวัดอยุธยา เน้น ‘การเลี้ยงไก่’
- โครงการธรรมศาลา จังหวัดนครปฐม เน้น ‘การปลูกผักโฮโดรโปนิกส์’
- โครงการลำลูกกา คลอง 12 จังหวัดปทุมธานี เน้น ‘การเลี้ยงปลาดุก’
ส่วนอีก 22 แปลงที่เหลือ กคช.อาจจะดำเนินการพัฒนาและปรับเปลี่ยนไปบ้างโดยยึดจากรูปแบบแพลตฟอร์มที่บริษัทที่ปรึกษาทำให้ 13 แปลง ซึ่งยังไม่สรุปชัดว่าจะเน้นเศรษฐกิจในรูปแบบใด
“มีชาวบ้านที่สนใจโครงการบ้านพร้อมอาชีพทางภาคใต้ อยากเลี้ยงกบเนื้อ เพราะได้ราคา สร้างรายได้ดีด้วย ต้องมาดูกันว่าจะมีหรือไม่ เท่าที่สำรวจโครงการที่เน้นเป็นพื้นที่ปลูกกัญชง จะได้รับความสนใจมากที่สุด”
สำหรับ ‘โครงการบ้านเช่าพร้อมอาชีพ’ มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ประกอบด้วย กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการ กลุ่มผู้มีสถานะโสด กลุ่มครัวเรือนใหม่ และกลุ่มครอบครัว ซึ่งวันนี้ประชาชนที่สนใจสามารถเข้าไปจองในระบบออนไลน์ที่บริษัทเคหะสุขประชา จำกัด ได้ เพียงแต่ผู้ที่จะเข้าโครงการนี้ได้ต้องเป็นผู้มีรายได้น้อย ที่เข้าตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้เท่านั้น
“เราทำโครงการเคหะสุขประชาบ้านเช่าพร้อมอาชีพไปก่อน เมื่อทุกอย่างเดินหน้าได้แล้ว การเคหะอาจจะขยายไปสร้างบ้านขายให้กลุ่มคนต่างๆ ในที่ดินที่เหลือได้ด้วย เพราะที่ดินแต่ละแห่งมีจำนวนมาก และสามารถจัดทำเป็นเฟสได้”
นอกจากนี้ ยังมีโครงการบ้านผู้สูงอายุแบบครบวงจร (Wellness Center ) ซึ่งต้องการให้ข้าราชการที่เกษียณอายุ ที่เคยอยู่บ้านพักราชการสามารถมีบ้านอยู่อาศัยเป็นของตัวเองหลังเกษียณ ซึ่งได้เตรียมพื้นที่บริเวณ อ.สูงเนิน จังหวัดนครราชสีมาไว้แล้ว เป็นที่ดินทำเลดี อยู่ติดถนน และที่พื้นที่ไนท์ซาฟารี จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทั้ง 2 โครงการอยู่ระหว่างการศึกษา รวมไปถึงโครงการ TOD ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามโครงข่ายคมนาคมโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะเป็นการพัฒนาที่ดินแบบ Mixed Use ที่ประกอบด้วยที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย รายได้ปานกลาง มีออฟฟิศสำนักงาน ที่เดิมคาดว่าจะเริ่มที่คลองจั่น เป็นต้น
ทวีพงษ์ กล่าวอีกว่า มีผู้ประกอบการภาคเอกชน และเจ้าของที่ดินหลายแห่งได้ให้ความสนใจโครงการบ้านพร้อมอาชีพ โดยเฉพาะเอกชนที่เชียงราย ยินดีมอบที่ดินให้ทำรูปแบบเศรษฐกิจด้านการเลี้ยงโคเนื้อ ซึ่งเขาอยู่ในสมาคมโคเนื้อ ที่จะส่งออกไปเมืองนอกได้ เมื่อทุกอย่างเดินหน้าได้เอกชนจะพัฒนาโครงการเองในที่ดินที่เหลือต่อไป
รวมไปถึงการนิคมอุตสาหกรรม มีการหารืออยากให้บริษัทเคหะสุขประชาไปสร้างอาคารเช่าให้แรงงานในนิคมเป็นเวลา 30 ปี แต่ปรากฏว่า ไม่สามารถดำเนินการได้ หลังมีข้อท้วงติงจากหน่วยงานรัฐด้วยกันว่า บริษัทเคหะสุขประชา เป็นบริษัทลูก กคช. จะดำเนินการสร้างที่อยู่อาศัยแข่งกับ กคช.ไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ กคช.และบริษัทลูก ต้องนำข้อท้วงติงไปศึกษาและหาวิธีการแก้ไขต่อไป