นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เผย สปสช. บรรจุ ‘บริการถุงยางอนามัยและยาเม็ดคุมกำเนิด’ เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ ‘บัตรทอง 30 บาท’ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาทิ โรคซิฟิลิส โรคมะเร็งปากมดลูกจากเชื้อเอชพีวี หนองใน หนองในเทียม และเอดส์ เป็นต้น
เลขาธิการ สปสช. กล่าวต่อว่า และเพื่อเพิ่มทางเลือกและอำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) สามารถรับถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิดได้ง่ายขึ้น โดยนอกจากไปขอรับที่หน่วยบริการแล้ว ยังเพิ่มความสะดวกสามารถขอรับผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังได้
โดยเป็นความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทยที่ให้บริการสิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค ในเมนูกระเป๋าสุขภาพ บนแอปฯ เป๋าตัง ไม่เพียงแต่ดูแลประชาชนผู้ใช้สิทธิบัตรทองให้เข้าถึงบริการถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิด แต่ยังรวมถึงบริการคุมกำเนิดด้วยวิธีต่างๆ ด้วย เช่น การใส่ห่วงอนามัย ยาฉีดคุมกำเนิด ยาฝังคุมกำเนิด ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน เป็นต้น
“ที่ผ่านมา สปสช.มีความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทยมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการขอรับชุดตรวจ ATK ผ่านแอปฯ เป๋าตัง การจองคิวเพื่อรับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลในช่วงของการรณรงค์คือ พฤษภาคม-สิงหาคมของทุกปี รวมถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในด้านต่างๆ เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิประโยชน์ของ สปสช.ได้ง่ายขึ้น” เลขาธิการ สปสช.กล่าว
ธวัชชัย ชีวานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เผย ความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มช่องทางให้แก่ผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ (อายุ 13 ปีขึ้นไป) สามารถจองสิทธิรับถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิดได้สะดวกยิ่งขึ้น ผ่านกระเป๋าสุขภาพบนแอปฯ เป๋าตัง โดยเลือกทำรายการ ‘สิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค’ บนกระเป๋าสุขภาพ ระบบจะเปิดให้เลือกถุงยางอนามัยหรือยาคุมกำเนิดและเลือกหน่วยบริการหรือสถานพยาบาลระบบบัตรทองที่พร้อมเปิดให้บริการแล้วกว่า 400 หน่วยบริการทั่วประเทศเพื่อติดต่อรับสิทธิ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิดอย่างทั่วถึงและเพียงพอทุกพื้นที่ ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และลดปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรในกลุ่มวัยรุ่น
ธนาคารสนับสนุนโครงการส่งเสริมสุขภาพของ สปสช.มาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการพัฒนาระบบ Krungthai Digital Health Platform เชื่อมต่อระบบสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพ อำนวยความสะดวกประชาชนให้สามารถเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข และเป็นช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคพื้นฐาน ตามระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของภาครัฐ ผ่านกระเป๋าสุขภาพ บนแอปพลิเคชัน เป๋าตัง ซึ่งเป็น Thailand Open Digital Platform ที่คนไทยคุ้นเคยในปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 40 ล้านคน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิสามารถใช้บริการเช็กสิทธิ นัดหมาย พร้อมยืนยันตัวตนผู้มารับบริการด้วยเทคโนโลยีที่ปลอดภัยผ่านกระเป๋าสุขภาพบนแอปฯ เป๋าตัง ตลอด 24 ชั่วโมง
โดยที่ผ่านมาธนาคารร่วมกับ สปสช. เปิดบริการลงทะเบียนคัดกรองเพื่อรับชุดตรวจ ATK ให้กับประชาชนจำนวน 6.9 ล้านชุด ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเปิดบริการการจองสิทธิฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเพื่อดูแลประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง รวมถึงลงทะเบียนขอรับสิทธิบริการด้านคุมกำเนิด ผ่านกระเป๋าสุขภาพ ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสิทธิการรักษาพยาบาลของภาครัฐที่มอบให้คนไทยดูแลสุขภาพของตนเองตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยสูงอายุอย่างทั่วถึง
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถกดรับสิทธิและเลือกหน่วยบริการหรือเช็กรายชื่อสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการได้ที่ กระเป๋าสุขภาพ ในแอปฯ เป๋าตัง หรือ สายด่วน สปสช. 1330 ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน 2566
เลขาธิการ สปสช. กล่าวต่อว่า และเพื่อเพิ่มทางเลือกและอำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) สามารถรับถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิดได้ง่ายขึ้น โดยนอกจากไปขอรับที่หน่วยบริการแล้ว ยังเพิ่มความสะดวกสามารถขอรับผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังได้
โดยเป็นความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทยที่ให้บริการสิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค ในเมนูกระเป๋าสุขภาพ บนแอปฯ เป๋าตัง ไม่เพียงแต่ดูแลประชาชนผู้ใช้สิทธิบัตรทองให้เข้าถึงบริการถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิด แต่ยังรวมถึงบริการคุมกำเนิดด้วยวิธีต่างๆ ด้วย เช่น การใส่ห่วงอนามัย ยาฉีดคุมกำเนิด ยาฝังคุมกำเนิด ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน เป็นต้น
“ที่ผ่านมา สปสช.มีความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทยมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการขอรับชุดตรวจ ATK ผ่านแอปฯ เป๋าตัง การจองคิวเพื่อรับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลในช่วงของการรณรงค์คือ พฤษภาคม-สิงหาคมของทุกปี รวมถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในด้านต่างๆ เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิประโยชน์ของ สปสช.ได้ง่ายขึ้น” เลขาธิการ สปสช.กล่าว
ธวัชชัย ชีวานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เผย ความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มช่องทางให้แก่ผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ (อายุ 13 ปีขึ้นไป) สามารถจองสิทธิรับถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิดได้สะดวกยิ่งขึ้น ผ่านกระเป๋าสุขภาพบนแอปฯ เป๋าตัง โดยเลือกทำรายการ ‘สิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค’ บนกระเป๋าสุขภาพ ระบบจะเปิดให้เลือกถุงยางอนามัยหรือยาคุมกำเนิดและเลือกหน่วยบริการหรือสถานพยาบาลระบบบัตรทองที่พร้อมเปิดให้บริการแล้วกว่า 400 หน่วยบริการทั่วประเทศเพื่อติดต่อรับสิทธิ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิดอย่างทั่วถึงและเพียงพอทุกพื้นที่ ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และลดปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรในกลุ่มวัยรุ่น
ธนาคารสนับสนุนโครงการส่งเสริมสุขภาพของ สปสช.มาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการพัฒนาระบบ Krungthai Digital Health Platform เชื่อมต่อระบบสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพ อำนวยความสะดวกประชาชนให้สามารถเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข และเป็นช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคพื้นฐาน ตามระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของภาครัฐ ผ่านกระเป๋าสุขภาพ บนแอปพลิเคชัน เป๋าตัง ซึ่งเป็น Thailand Open Digital Platform ที่คนไทยคุ้นเคยในปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 40 ล้านคน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิสามารถใช้บริการเช็กสิทธิ นัดหมาย พร้อมยืนยันตัวตนผู้มารับบริการด้วยเทคโนโลยีที่ปลอดภัยผ่านกระเป๋าสุขภาพบนแอปฯ เป๋าตัง ตลอด 24 ชั่วโมง
โดยที่ผ่านมาธนาคารร่วมกับ สปสช. เปิดบริการลงทะเบียนคัดกรองเพื่อรับชุดตรวจ ATK ให้กับประชาชนจำนวน 6.9 ล้านชุด ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเปิดบริการการจองสิทธิฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเพื่อดูแลประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง รวมถึงลงทะเบียนขอรับสิทธิบริการด้านคุมกำเนิด ผ่านกระเป๋าสุขภาพ ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสิทธิการรักษาพยาบาลของภาครัฐที่มอบให้คนไทยดูแลสุขภาพของตนเองตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยสูงอายุอย่างทั่วถึง
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถกดรับสิทธิและเลือกหน่วยบริการหรือเช็กรายชื่อสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการได้ที่ กระเป๋าสุขภาพ ในแอปฯ เป๋าตัง หรือ สายด่วน สปสช. 1330 ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน 2566