MASTER เดินเกมโฆษณา ผนึก KIN Corp. ติดอาวุธการตลาด

โรงพยาบาลศัลยกรรม จัดเป็นสินค้าความงาม ที่ไม่ได้จำเป็นกับชีวิตคนทุกคน แต่จำเป็นสำหรับผู้ต้องการความสวยงาม ทั้งเพื่อเสริมบุคลิก เพื่อแก้ปัญหาสุขภาพ หรือแม้แต่เพื่อกิจการงานของผู้คนหลากหลายอาชีพ ดังนั้น การมองเห็นฝีไม้ลายมือของแพทย์ การทำงานด้วยความปลอดภัย ชื่อเสียง และการรู้จักโรงพยาบาลในทุกๆ ด้าน การโฆษณาประชาสัมพันธ์จึงเป็นอีกกลยุทธ์สำคัญ  

นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. มาสเตอร์ สไตล์ หรือ MASTER โรงพยาบาลด้านศัลยกรรมความงามครบวงจรชั้นนำของไทย ภายใต้ชื่อ โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ (Masterpiece Hospital) เผย ขณะนี้ MASTER จับมือ บริษัท คิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (KIN Corp.) ผู้ดำเนินธุรกิจสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์และกิจกรรมส่งเสริมการตลาด โดยได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 400,000 หุ้น หรือ 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเพิ่มทุนในราคาหุ้นละ 400 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 160 ล้านบาท โดยมีแผนการใช้เงินเพื่อไปใช้ในการขยายกิจการ และคาดว่าจะดำเนินการเข้าลงทุนแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/2567  

MASTER เผยกลยุทธ์ใช้สื่อโฆษณา-ขยายโอกาสธุรกิจ 

สำหรับการร่วมทุนในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการเดินกลยุทธ์ที่สำคัญ จากการมองเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจ เพราะ KIN Corp. มีแผนธุรกิจชัดเจน แต่เดิมเน้นทำการตลาดกลุ่มลูกค้า Real Estate เป็นหลัก และปัจจุบันก็มองเห็นโอกาสในการขยายเข้าสู่ตลาดกลุ่ม Health Care และ MASTER ก็ตอบโจทย์ KIN Corp. ได้ดี ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ามากที่สุด   

“การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในครั้งนี้ เป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจของ MASTER ทำให้สามารถเพิ่มรายได้และยังสร้างประโยชน์ทางธุรกิจให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีในอนาคต พร้อมเปิดโอกาสการเติบโตในตลาดวงการศัลยกรรม ด้วยศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ จากการที่ KIN Corp. มีเครือข่ายและทำเลที่ตั้งโฆษณาครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ไปจนถึงต่างจังหวัดทั่วไทย ถือเป็นแต้มต่อทางธุรกิจที่สำคัญ ซึ่ง KIN Corp. มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ มีความต้องการด้านสื่อโฆษณาสูง ทำให้มีโอกาสขยายฐานลูกค้า พร้อมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยงานบริการด้านต่างๆ กับกลุ่มลูกค้าหลากหลายประเภท” นายแพทย์ระวีวัฒน์ กล่าว 

ลภัสรดา เลิศภานุโรจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER  กล่าวว่า ภายหลังจากการเข้าถือหุ้น KIN Corp. เสร็จสมบูรณ์ บมจ. มาสเตอร์ สไตล์ พร้อมให้การสนับสนุน KIN Corp. ในทุกๆ ด้าน โดยคาดว่า KIN Corp. เริ่มสร้างผลกำไรให้ MASTER ได้ในไตรมาส 4/2566 เป็นต้นไป และจะรับรู้กำไรเข้าเต็มปี 2567 เป็นปีแรก       

ด้าน ภาคิน วณิชภิรมย์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (KIN Corp.) เผย แน่นอนว่า การผนึกกำลังกับ MASTER ครั้งนี้เป็นเพราะ ทั้งสองฝ่ายเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน ส่วนตัวมองว่า MASTER มีจุดแข็งเรื่องการพัฒนาคนในองค์กร ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับ KIN Corp. เพราะแนวทางการดึงศักยภาพของคนในองค์กร นำมาใช้ในเรื่องการทำงานเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงความเข้าใจในเรื่องการพัฒนาคนในองค์กร เป็นสิ่งที่เราได้เรียนรู้เพิ่มจากทีม MASTER ได้ต่อไป 

และด้วยเพราะโลกธุรกิจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การแข่งขันสูง ลูกค้าจึงมองหาวิธีทำให้แบรนด์ตัวเองโดดเด่นและดึงดูดความสนใจของลูกค้า-กลุ่มเป้าหมาย ดังนั้น จึงเชื่อว่า KIN Corp. ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในอุตสาหกรรมสื่อโฆษณา  

KIN Corp. เล็งโตตามเทรนด์ Medical - Health Care  

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจต่อจากนี้ไป บริษัทวางแผนขยายตลาดในกลุ่ม Medical และกลุ่ม Health Care ที่ต้องการบริษัทผลิตสื่อที่ครบวงจร ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ หรือกลุ่ม Out of Home Media ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่ KIN Corp. สนใจ จากเดิมที่ KIN Corp. มีฐานลูกค้าเฉพาะกลุ่ม Real Estate ซึ่งบริหารโครงการอยู่ประมาณ 250 โครงการ แบ่งเป็นกลุ่มบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม

สำหรับธุรกิจสื่อโฆษณาของ KIN Corp. แบ่งเป็น 5 ประเภท ได้แก่  

1. ป้ายชี้ทางแสดงถึงสัญลักษณ์  
2. ป้ายโฆษณากลางแจ้งขนาดใหญ่และเล็ก  
3. ป้ายโฆษณาสำหรับติดข้างรถเคลื่อนไปยังจุดต่างๆ  
4. ป้ายสื่อโฆษณาที่ใช้สำหรับปรับทัศนียภาพในโครงการ เพื่อดึงดูดความน่าสนใจให้กับลูกค้า  
5. สื่อโฆษณาออนไลน์ 

ก็เรียกได้ว่า ลงตัวสำหรับการเดินเกมธุรกิจโรงพยาบาลศัลยกรรม ของ MASTER ที่สยายปีกสู่ความร่วมมือกับบริษัทโฆษณาดังกล่าว ทั้งนี้ทั้งนั้น MASTER ยังไม่จบความร่วมมือเพียงเท่านี้ เพราะแย้มๆ มาอีกว่า ในช่วงที่เหลือของปี 2566 นี้ MASTER มีโอกาสร่วมทุนกับพันธมิตรรายใหม่อย่างน้อยอีก 3 ราย ซึ่ง MASTER ก็เชื่อมั่นว่าทุกดีลที่เกิดขึ้น จะสนับสนุนให้ MASTER เติบโตอย่างยั่งยืนแน่นอน  

ย้อนดูก่อนหน้าตั้งแต่ต้นปี 2566 สิ่งที่ลงทุนไปแล้ว คือ  

• การเข้าลงทุน กิจการคลินิกเสริมความงาม ‘WIND Clinic’ ด้วยการเข้าซื้อหุ้นสามัญ และหุ้นเพิ่มทุน รวม 40%  
• การเข้าลงทุนใน ‘Rattinan Medical Center’ ถือหุ้นสัดส่วนไม่เกิน 36%  
• และบริษัท ด็อกเตอร์เชน เซอร์เจอรี่ ฮอสพิทอล จำกัด เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน 40%