นพ.ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ในนาม โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ (Masterpiece Hospital) เผย เทรนด์การเลือกสถานพยาบาลเพื่อเสริมความงามปัจจุบันเปลี่ยนอย่างสิ้นเชิง แต่เดิมคนอาจไปที่โรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญหลายสาขา แต่ปัจจุบันผู้คนเริ่มเจาะจง และต้องการการซื้อขายบริการที่ Specialize มากขึ้น ทำให้โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ มุ่งเน้นการทำเฉพาะทางไม่ใช่แค่ในไทย แต่มีเพื่อรองรับลูกค้าจากอาเซียนและทั่วโลก
โดยลูกค้าเรา กระจายอยู่อยู่หลายประเทศทั่วโลก เพราะทุกคนต้องการในสิ่งที่ดีขึ้น ดังนั้น โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ จึงจะดันศักยภาพการเติบโตด้านการแพทย์ในทุกมิติของเวทีโลก ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชเลือกใช้ ซึ่งกล่าวได้ว่า ล้วนเป็นสิ่งที่คัดสรรมาอย่างดี ผ่านการรับรองมาตรฐานในระดับสากล
สำหรับการร่วมฉายภาพความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของเวที THANX Forum 2023 : Health & Wellness Sustainability ซึ่งมีการเปรียบเทียบวิวัฒนาการด้านอุตสาหกรรมความงาม ที่มีมาตั้งแต่ยุคอียิปต์ที่ชนชั้นสูง โดยมีการมาร์กหน้าทอง การใช้สมุนไพร การใช้ครีมบำรุงผิว การร้อยไหม ไล่เรื่อยมาจนถึงยุคสิบปีก่อนใช้เลเซอร์ จนถึงปัจจุบัน มาสุดที่ศัลยกรรมความงาม ซึ่งเป็นหนทางที่ผู้คนเลือกใช้ให้ตัวเองดูดีได้ในแบบของตัวเอง ทั้งยังช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไปพร้อมกัน โดยเมื่อคนเดินทางมาเมืองไทยในหนึ่งทริป จะไม่ใช่แค่การมาเพื่อท่องเที่ยวอย่างเดียว แต่แวะมาเพื่อศัลยกรรมความงามไปพร้อมกันด้วย
ในเซสชั่น เซสชั่น Digital Health Tech ระบบนิเวศใหม่การแพทย์ไทย นั้น มีการฉายภาพการดูแลสุขภาพปัจจุบันว่า อยู่ในช่วงการปฏิรูปวงการแพทย์ และการดูแลสุขภาพ เป็นเรื่อง Global Health Governance คือ ระบบอภิบาลสุขภาพโลก วงการสาธารณสุขของทุกประเทศ รวมถึงภาคเอกชน ต้องหันมาจับมือกับภาครัฐ เพื่อสร้างระบบป้องกันให้คนในประเทศมีความเข้มแข็งมากขึ้น มีความยืดหยุ่นมากขึ้นรวมถึงไทย
เรื่องนี้ จึงมีความท้าทายที่จะต้องแก้ไขด้วยการเปลี่ยนแปลงการให้บริการเฮลท์แคร์สู่ความยั่งยืน (Healthcare Sustainability) ภาคเอกชนต้องให้ความสำคัญกับการจับมือกับภาครัฐมากขึ้น ‘ต้องดูแลสุขภาพก่อนป่วย’ นี่คือมิติใหม่ ที่ต้องเดินไปข้างหน้า และต้องอาศัยความร่วมมือกับหลายภาคส่วน ทำอย่างไรให้นำเทคโนโลยีมาปรับใช้ ดูแลตัวเอง และดูแลลูกหลานได้อย่างยั่งยืน ประชาชนทั้งประเทศ สามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพได้อย่างเท่าเทียม รวมถึงการพัฒนา 5G เข้ามาใช้ในระบบสาธารณสุข
โดยข้อดีของ 5G คือ ความเร็ว การรับส่งข้อมูลและความหน่วงต่ำ ซึ่งตอบโจทย์เฮลท์แคร์ ทั้งอุปกรณ์ IoT ใช้การเก็บข้อมูล หรือการใช้ในโรงพยาบาล 5G นำไปสู่อีโคซิสเต็มใหม่ของเฮลท์แคร์ ภายใต้ 4P ประกอบด้วย Predictive โดยการที่มีข้อมูลมากพอ สามารถคาดการณ์ , Preventative การป้องกัน , Personalized ติดตามสุขภาพส่วนบุคคล และ Participatory การมีส่วนร่วมมากขึ้น
วิทยากรเซสชั่นนี้ ประกอบด้วย สมถวิล ปธานวนิช ที่ปรึกษาและผู้ร่วมก่อตั้ง โรงพยาบาล เมดพาร์ค, ดร.ฐิติพงศ์ นันทาภิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทเลเฮลท์ แคร์ จำกัด และ บริษัท เมดิคอล อินเทลลิเจนซ์ จำกัด, วิสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนเทคนิคทั่วประเทศ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด
นอกจากนี้ ยังมีเซสชั่น Health & Wellness Destination : โอกาส ศักยภาพไทย ยังร่วมด้วย ทิมโมตี้ อีเมน เลิศสมิติวันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรี เวลบีอิ้ง จำกัด, พญ.กอบกาญจน์ ชุณหสวัสดิกุล ผู้อำนวยการศูนย์ จิณณ์ เวลเนส, ปิยลักษณ์ อุดมชาติ กรรมการ บริษัท เอฟโวลูชั่นสกิน จำกัด, วิทยา สินทราพรรณทร หัวหน้าฝ่ายการตลาด ดิ เอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียร์
โดยลูกค้าเรา กระจายอยู่อยู่หลายประเทศทั่วโลก เพราะทุกคนต้องการในสิ่งที่ดีขึ้น ดังนั้น โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ จึงจะดันศักยภาพการเติบโตด้านการแพทย์ในทุกมิติของเวทีโลก ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชเลือกใช้ ซึ่งกล่าวได้ว่า ล้วนเป็นสิ่งที่คัดสรรมาอย่างดี ผ่านการรับรองมาตรฐานในระดับสากล
สำหรับการร่วมฉายภาพความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของเวที THANX Forum 2023 : Health & Wellness Sustainability ซึ่งมีการเปรียบเทียบวิวัฒนาการด้านอุตสาหกรรมความงาม ที่มีมาตั้งแต่ยุคอียิปต์ที่ชนชั้นสูง โดยมีการมาร์กหน้าทอง การใช้สมุนไพร การใช้ครีมบำรุงผิว การร้อยไหม ไล่เรื่อยมาจนถึงยุคสิบปีก่อนใช้เลเซอร์ จนถึงปัจจุบัน มาสุดที่ศัลยกรรมความงาม ซึ่งเป็นหนทางที่ผู้คนเลือกใช้ให้ตัวเองดูดีได้ในแบบของตัวเอง ทั้งยังช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไปพร้อมกัน โดยเมื่อคนเดินทางมาเมืองไทยในหนึ่งทริป จะไม่ใช่แค่การมาเพื่อท่องเที่ยวอย่างเดียว แต่แวะมาเพื่อศัลยกรรมความงามไปพร้อมกันด้วย
ในเซสชั่น เซสชั่น Digital Health Tech ระบบนิเวศใหม่การแพทย์ไทย นั้น มีการฉายภาพการดูแลสุขภาพปัจจุบันว่า อยู่ในช่วงการปฏิรูปวงการแพทย์ และการดูแลสุขภาพ เป็นเรื่อง Global Health Governance คือ ระบบอภิบาลสุขภาพโลก วงการสาธารณสุขของทุกประเทศ รวมถึงภาคเอกชน ต้องหันมาจับมือกับภาครัฐ เพื่อสร้างระบบป้องกันให้คนในประเทศมีความเข้มแข็งมากขึ้น มีความยืดหยุ่นมากขึ้นรวมถึงไทย
เรื่องนี้ จึงมีความท้าทายที่จะต้องแก้ไขด้วยการเปลี่ยนแปลงการให้บริการเฮลท์แคร์สู่ความยั่งยืน (Healthcare Sustainability) ภาคเอกชนต้องให้ความสำคัญกับการจับมือกับภาครัฐมากขึ้น ‘ต้องดูแลสุขภาพก่อนป่วย’ นี่คือมิติใหม่ ที่ต้องเดินไปข้างหน้า และต้องอาศัยความร่วมมือกับหลายภาคส่วน ทำอย่างไรให้นำเทคโนโลยีมาปรับใช้ ดูแลตัวเอง และดูแลลูกหลานได้อย่างยั่งยืน ประชาชนทั้งประเทศ สามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพได้อย่างเท่าเทียม รวมถึงการพัฒนา 5G เข้ามาใช้ในระบบสาธารณสุข
โดยข้อดีของ 5G คือ ความเร็ว การรับส่งข้อมูลและความหน่วงต่ำ ซึ่งตอบโจทย์เฮลท์แคร์ ทั้งอุปกรณ์ IoT ใช้การเก็บข้อมูล หรือการใช้ในโรงพยาบาล 5G นำไปสู่อีโคซิสเต็มใหม่ของเฮลท์แคร์ ภายใต้ 4P ประกอบด้วย Predictive โดยการที่มีข้อมูลมากพอ สามารถคาดการณ์ , Preventative การป้องกัน , Personalized ติดตามสุขภาพส่วนบุคคล และ Participatory การมีส่วนร่วมมากขึ้น
วิทยากรเซสชั่นนี้ ประกอบด้วย สมถวิล ปธานวนิช ที่ปรึกษาและผู้ร่วมก่อตั้ง โรงพยาบาล เมดพาร์ค, ดร.ฐิติพงศ์ นันทาภิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทเลเฮลท์ แคร์ จำกัด และ บริษัท เมดิคอล อินเทลลิเจนซ์ จำกัด, วิสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนเทคนิคทั่วประเทศ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด
นอกจากนี้ ยังมีเซสชั่น Health & Wellness Destination : โอกาส ศักยภาพไทย ยังร่วมด้วย ทิมโมตี้ อีเมน เลิศสมิติวันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรี เวลบีอิ้ง จำกัด, พญ.กอบกาญจน์ ชุณหสวัสดิกุล ผู้อำนวยการศูนย์ จิณณ์ เวลเนส, ปิยลักษณ์ อุดมชาติ กรรมการ บริษัท เอฟโวลูชั่นสกิน จำกัด, วิทยา สินทราพรรณทร หัวหน้าฝ่ายการตลาด ดิ เอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียร์
