อนุฯ กิจการโทรทัศน์ ลงมติยกเลิกกฎ Must have ทั้งฉบับ

17 มีนาคม 2566 - 02:38

NBTC-Repeal-Must-Have-Rule-live-sports-SPACEBAR-Hero
  • ประชุมอนุกรรมการกิจการโทรทัศน์ มีความเห็น ยกเลิก Must Have ทั้งฉบับ

  • เตรียมเปิดประชาพิจารณ์ ก่อนเสนอที่ประชุมบอร์ด กสทช. อีกครั้ง ชี้เหตุผลหลัก ป้องกันบิดเบือนกลไกตลาด

ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ ฯ ซึ่งมี ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต กสทช. ด้านกิจการโทรทัศน์ เป็นประธาน มีมติยกเลิกประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555 (Must Have) ทั้งฉบับแล้ว โดยขั้นตอนต่อไปจะมีการับเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์) อีกครั้ง ก่อนนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. อีกครั้ง ระบุเหตุผลการยกเลิก ว่า เป็นไปเพื่อป้องกันการบิดเบือนกลไกตลาด ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีการศึกษาว่า อาจเป็นปัจจัยทำให้มีการเพิ่มค่าลิขสิทธิ์สำหรับประเทศไทยเป็นจำนวนมาก  

นอกจากนี้ โดยปกติแล้ว ผู้ขายลิขสิทธิ์รายการกีฬามักมีข้อกำหนดให้ผู้รับสิทธิถ่ายทอดนำไปออกทางฟรีทีวีด้วยอยู่แล้ว เพื่อเพิ่มยอดผู้ชม จึงสมควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดจะดีกว่า อย่างไรก็ตาม ต้องมีการนำเสนอความเห็นของอนุกรรมการฯ ต่อที่ประชุมบอร์ด กสทช. เพื่อให้ความเห็น โดยจะต้องมีการจัดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ จะดำเนินการเป็นเรื่องเร่งด่วนต่อไป  

กฎ Must Have คืออะไร? 

Must Have คือ ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สําคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะทางฟรีทีวี ออกมาปี 2555 หรือปี 2012 มีจุดประสงค์เพื่อให้คนไทยสามารถเข้าถึงเนื้อหารายการโทรทัศน์ได้อย่างเท่าเทียม  

Must Have เป็นกฎที่มีหลักการที่ดี แต่ในทางกลับกัน มีผลกระทบกับผู้ถือลิขสิทธิ์กีฬาที่มีการลงทุนซื้อลิขสิทธิ์กีฬาด้วยเม็ดเงินที่สูง แต่ต้องออกอากาศหลากหลายช่องทาง รวมถึงมีความเสี่ยงต่อการละเมิดลิขสิทธิ์รายการกีฬาที่อาจเกิดขึ้นได้ 

Must Have เคยมีปัญหาต่อการถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาสำคัญ โดยเฉพาะฟุตบอลโลก ทำให้เกิดกระแส แก้ไข ในกลุ่มที่เห็นว่าประกาศมีความจำเป็น หรือ ยกเลิก เมื่อเห็นว่าประกาศเป็นอุปสรรค 

กีฬาอะไรบ้าง ที่อยู่ในกฎ Must Have 

สำหรับกีฬาสำคัญที่จะต้องมีการถ่ายทอดสด อยู่ใน กฎ Must have มี 7 รายการ โดยถือเป็นรายการโทรทัศน์ที่สามารถให้บริการแก่ประชาชนได้ภายใต้ การให้บริการ ‘ฟรีทีวีเท่านั้น’ ได้แก่ 
  1. การแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย (FIFA World Cup Final) 
  2. การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ (SEA Games) 
  3. การแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ (Asian Games) 
  4. การแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์ (ASEAN Para Games) 
  5. การแข่งขันเอเชียนพาราเกมส์ (Asian Para Games) 
  6. การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก (Olympic Games) 
  7. การแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก (Paralympic Games) 
การยกเลิกประกาศครั้งนี้ เป็นเพราะ กสทช. โดนโจมตีอย่างหนัก ในการนำเงินจากกองทุน USO (Universal Service Obligation : การจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม) ไปให้แก่ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จำนวน 600 ล้านบาท ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่กาตาร์ แต่กลับมีการนำลิขสิทธิ์ไปขายต่อให้แก่เอกชนรายหนึ่ง จนเป็นข้อพิพาท เพราะการรับชมของผู้บริโภคในปัจจุบันไม่ได้อยู่บนแพลตฟอร์มเดียว ทำให้มีจอดำมากกว่าล้านรายในประเทศไทย 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์