Hyundai บริษัทผลิตยานยนต์ยักษ์ใหญ่แห่งเกาหลี ปล่อยภาพเปิดตัวรถรุ่นใหม่ Kona 2024 ครั้งแรก มาพร้อมกับระบบเครื่องยนต์ทางเลือกที่รองรับทุกการใช้งานให้ตอบโจทย์สไตล์ของผู้ขับขี่ สำหรับ Hyundai Kona 2024 ถือเป็นรถรุ่นที่ 2 ที่ได้รับการพัฒนามาจากรุ่นแรกที่มีระบบเครื่องยนต์แบบไฟฟ้าเพียงเท่านั้น และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในฝั่งยุโรป

สำหรับ Hyundai Kona 2024 ในด้านงานดีไซน์รอบคันมีความล้ำสมัย ดุดัน และแข็งแกร่งขึ้นมากจากรุ่นเดิม ซึ่งถือเป็นการพลิกโฉมใหม่ให้กับรถเอสยูวีขนาดเล็กของฮุนได โดยรถจะมีความยาวกว่ารุ่นเดิม 150 มิลลิเมตร ความกว้างระหว่างล้อเพิ่มขึ้น 25 มิลลิเมตร มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ทำให้พื้นที่เก็บของในเบาะโดยสารด้านหลังเพิ่มขึ้น และไฮไลต์ของรุ่นใหม่นี้ถูกแบ่งออกตามระบบของเครื่องยนต์เป็น 3 แบบ คือ
- Hyundai Kona : เครื่องยนต์ระบบสันดาป (ICE)
- Hyundai Kona Electric : เครื่องยนต์ระบบไฟฟ้า 100% (BEV)
- Hyundai Kona N-Line : เครื่องยนต์ระบบไฮบริด (HEV)


โดยแต่ละรุ่นจะมาพร้อมกระจังหน้าแบบปิดโค้งมน ประดับด้วยไฟ LED เส้นยาวพาดขอบฝากระโปรงบางเฉียบ แนวหลังคาปรับสูงขึ้นเพิ่มความกว้างขวางในห้องโดยสาร ในส่วนของกันชนหน้าและหลังของรุ่นระบบไฟฟ้ามาพร้อมไฟแบบ Parametric Pixel ที่เป็นเอกลักษณ์ของฮุนไดโดยเฉพาะ ซึ่งจะคล้ายกับรุ่น Hyundai IONIQ Electric และส่วนท้ายรถที่โค้งมน ถูกแต่งด้วยไฟท้ายตัดเหลี่ยมที่ช่วยเสริมความดุดันได้เป็นอย่างดี ในส่วนของรุ่นที่เป็นระบบเครื่องยนต์แบบสันดาปและระบบไฮบริด การดีไซน์จะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยในส่วนของกระจังหน้า กันชนเสริมโครเมียม และซุ้มล้อ เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และความดุดันให้เท่มากกว่าเดิม

สำหรับห้องโดยสารภายในต้องบอกเลยว่ากว้างขวางขึ้นกว่าเดิม ที่นั่งคนขับด้านหน้ามีการปรับแผงแดชบอร์ดแบบลอยที่ดูมินิมัล พร้อมหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมระบบอินโฟเทนเมนท์ ที่โค้งรับกับการใช้งาน อีกทั้งยังเพิ่มลูกเล่นของเกียร์ที่ย้ายจากคอนโซลกลางไปไว้ที่พวงมาลัยแบบ Shift-by-Wire ที่ใช้งานง่ายและทำให้แผงหน้าดูโล่งสบายตา ทำให้มีพื้นที่เก็บของในคอนโซลกลางเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังได้หยิบเอาจุดเด่นของโมเดลรุ่น Hyundai IONIQ 5 มาใส่ไว้ที่นั่งด้านหลังให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นพร้อมประโยชน์ใช้สอยแบบครบเครื่อง ขยายพื้นที่เก็บของด้านหลังให้กว้างขวางมากกว่าเดิม

โดยข้อมูลรายละเอียดกำลังการขับเคลื่อนของรถทั้ง 3 แบบ รวมถึงราคาขาย ทางฮุนไดยังไม่ได้มีกำหนดการเปิดตัว ซึ่งคาดการณ์ว่าจะประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงปีหน้า(2023) และสำหรับการจำหน่ายในไทยอาจจะต้องอดทนรอติดตามกันต่อไป