ต้องกู้ แต่ไม่มีแหล่งกู้ แรบบิท แคร์ ส่งตัวเลือกเพียบ!

1 ส.ค. 2566 - 02:46

  • แรบบิท แคร์ จับมือ Non-Bank ลุยช่วยผู้มีรายได้น้อย

  • ชูการคัดผลิตภัณฑ์สินเชื่อ ที่จะมีให้เลือกมากที่สุดในไทย

Rabbit-Care-nonbank-Care-OS-2.0-fintech-credit-loan-SPACEBAR-Hero
แรบบิท แคร์ พัฒนาแพลตฟอร์มที่จะช่วยค้นหาหรือเปรียบเทียบข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และต้องการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการหนี้ให้ได้ดียิ่งขึ้น  

ปัจจุบันผู้คนจำนวนมากต้องเผชิญแรงกดดันจากหลากสถานการณ์ ในท่ามกลางค่าครองชีพที่สูงขึ้น ภาระหนักจึงตกที่หัวหน้าครอบครัว ‘แรบบิท แคร์’ เรียกคนเหล่านั้นว่า ‘เดอะแบก’ และประกาศความพร้อมเสนอตัวเป็น ‘แบ็ก’ ที่พร้อมช่วยเหลือ หลังพบตัวเลขความต้องการเงินจำนวนมาก แต่ก็มีหลายๆ เคสที่ไม่สามารถกู้ได้  

คอนเฟิร์มตัวเลขจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ เผยให้เห็นยอดเดือนเมษายน 2566 เทียบกับปีที่แล้ว พบมีการกู้เงินมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากจำนวนบัญชีสินเชื่อส่วนบุคคลที่เปิดกับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่มิใช่ธนาคาร (Non-bank) ที่มีจำนวนสูงขึ้นถึง 14% และยอดสินเชื่อคงค้างสุทธิในกลุ่ม Non-bank ที่มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นถึง 34% 

แนวโน้มนี้ สะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการการสนับสนุนด้านการเงินของประชาชนยังคงมีมาก แต่การเข้าถึงเงินกู้หรือการสนับสนุนทางการเงินกลับมีข้อจำกัดจากนโยบายการพิจารณาและอนุมัติเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่มีความเข้มงวดมากขึ้น  

เช่นเดียวกับ การสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคในรายงาน SCB EIC Consumer Survey 2566 โดยศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ก็พบว่า มีสัดส่วนผู้ตอบแบบสอบถาม เป็นหนี้สูงถึง 63% โดยเกือบครึ่งหนึ่ง หรือ 31% ของจำนวนดังกล่าวนั้นเป็น ‘หนี้นอกระบบ’ และมีแนวโน้มที่จะสร้างหนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากที่คนกลุ่มนี้ยังมีข้อจำกัดในการเข้าถึงเงินกู้จากเงื่อนไขจำนวนมากของการกู้เงินผ่านธนาคาร อีกทั้งยังขาดความรู้ความเข้าใจทางการเงิน  และความสามารถในการค้นหาและเปรียบเทียบความแตกต่างของผลิตภัณฑ์สินเชื่อ เพื่อประกอบการตัดสินใจและเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับตนเอง  

ช่องว่างตรงนี้ แรบบิท แคร์ (Rabbit Care) ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มโบรกเกอร์ประกันภัย (InsureTech) และผลิตภัณฑ์ด้านการเงิน (FinTech) จึงพัฒนาแพลตฟอร์มช่วยค้นหา หรือเปรียบเทียบข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และต้องการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการหนี้ให้ได้ดียิ่งขึ้น โดยได้นำระบบปฏิบัติการความแคร์ CareOS 2.0 เข้ามาใช้  
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4bebugYQ8NdYnV1iKbqn3t/638bc7d9b708ce6e102a62344288ac69/Rabbit-Care-nonbank-Care-OS-2.0-fintech-credit-loan-SPACEBAR-Photo02
นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีแพลตฟอร์มช่วยเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคล โดยเป็นเครื่องมือเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ให้ความสะดวก ใช้งานง่าย มีการรวบรวมผลิตภัณฑ์ทางการเงินมากกว่า 25 ผลิตภัณฑ์มาไว้บนแพลตฟอร์มเดียว เมื่อต้องการค้นหาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน สามารถเข้ามาที่ ‘เครื่องมือเปรียบเทียบสินเชื่อส่วนบุคคล’ แล้วกรอกข้อมูลที่สำคัญ เช่น วงเงินสินเชื่อที่ต้องการ รายได้ปัจจุบัน จังหวัดที่อยู่ เป็นต้น หลังจากนั้น ระบบจะประมวลผลและแสดงผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของคุณภายใน 30 วินาที 

นี่จึงเป็นสิ่งช่วย เดอะแบก หรือเรียกอีกอย่างว่า ‘ผู้บริหารครอบครัว’ (Chief Family Officer : CFO) ตัดสินใจเรื่องการเงินได้ดี และง่ายขึ้นด้วย 

ปัจจุบัน แรบบิท แคร์ มีพันธมิตรในกลุ่มธนาคารและผู้ประกอบการธุรกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่มิใช่ธนาคาร (Nonbank) มากที่สุดในประเทศไทยกว่า 14 ราย และมีผลิตภัณฑ์ประเภทสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อเพื่อธุรกิจรายย่อยที่อยู่บนแพลตฟอร์มมากกว่า 25 รายการพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าทุกกลุ่มที่มีความต้องการแตกต่างกัน (ข้อมูล ณ วันที่ 15 มิถุนายน 2566) 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4Y59ng5FVvGURWPnqyiJRE/13566d4c723d5520978a8ac2ddd46ebc/Rabbit-Care-nonbank-Care-OS-2.0-fintech-credit-loan-SPACEBAR-Photo03
ทั้งนี้ ความอัจฉริยะของระบบปฏิบัติการความแคร์เวอร์ชั่นล่าสุด CareOS 2.0 ไม่ได้มีเฉพาะเรื่องความครบและความเร็ว แต่ยังให้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อการตัดสินใจที่ง่ายขึ้น ด้วยฟีเจอร์ คะแนนความเห็นจาก แรบบิท แคร์ ถึงแนวโน้มการได้รับอนุมัติสินเชื่อ เพื่อประกอบการตัดสินใจและเปรียบเทียบการสมัครสินเชื่อส่วนบุคคล โดยระบบจะพิจารณาจากข้อมูลที่ลูกค้ากรอกเข้ามาในระบบ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือคำนวณสินเชื่อส่วนบุคคลที่ช่วยให้เดอะแบกสามารถวางแผนการชำระได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับความสามารถในการผ่อนชำระ ซึ่งจะช่วยเพิ่มวินัยด้านการชำระหนี้ และบริหารจัดการเงินของตนเองและครอบครัวได้อย่างเหมาะสม แรบบิท แคร์ เข้าใจดีว่าเดอะแบกและผู้บริหารครอบครัวทุกคนมีความต้องการที่หลากหลายและมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน จึงได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจและครอบคลุมความต้องการของคนทุกกลุ่ม เช่น  
  • ‘สินเชื่อส่วนบุคคลซิตี้’ จาก บริษัท ยูโอบี แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด ที่ช่วยให้ลูกค้ารวมหนี้ทุกรายการมาไว้ในที่เดียว เพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการ และทำให้ยอดผ่อนชำระต่อเดือนลดลง อีกทั้งลูกค้ายังเห็นภาพรวมภาระทางการเงินทั้งหมดได้สะดวก โดยผู้สมัครที่มีรายได้เริ่มต้น 20,000 บาทต่อเดือน พนักงานประจำอายุงาน 4 เดือน ก็สามารถสมัครได้ และอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเพียง 0.84% ต่อเดือน 
  • ‘เคทีซี พราว’ (KTC PROUD) เป็นผลิตภัณฑ์บัตรกดเงินสดของเคทีซี สําหรับผู้มีรายได้ต่อเดือนเริ่มต้นที่ 12,000 บาท บัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” บัตรเดียวครบทุกฟังก์ชั่นการ ใช้จ่าย ไม่ว่าจะกดเงินสดผ่าน ATM โอนเงินด่วนผ่านแอปฯ KTC Mobile รูดซื้อสินค้า หรือผ่อนสินค้าในอัตราดอกเบี้ย 0% นาน สูงสุด 24 เดือน ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ 
  • บัตรกดเงินสด A money สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับจาก บริษัท ไอร่า แอนด์ ไอฟุล จํากัด (มหาชน) ที่ทลายกําแพงรายได้ของผู้สมัคร โดยมีรายได้ต่อเดือนเริ่มต้นที่ 5,000 บาท และอายุงานเพียง 1 เดือน ก็สมัครได้ โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือผู้ค้าประกัน และมีอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกไม่เกิน 25% ต่อปี 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์