‘บ้าน’ คือสิ่งบ่งชี้คุณภาพชีวิต หลายคนต้องการมีบ้าน แต่โอกาสของการมีบ้านใช่ว่าทุกคนจะทำได้ง่าย เรื่องน่ายินดีขณะนี้ คือ กลุ่มคนที่มีความสามารถในการซื้อบ้าน อายุน้อยลงแล้ว โดยเปลี่ยนจากกลุ่มที่มีอายุ 45-60 ปี ลงมาเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุ 35-40 ปีแล้ว
วีระเดช โกวพัฒนกิจ ผู้จัดการการตลาด บริษัท เอสซีจี เซกิซุย-เซลส์ จำกัด ผู้ให้บริการรับสร้างบ้าน เอสซีจี ไฮม์ (SCG HEIM) เผย แนวโน้มความต้องการสร้างบ้านในกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีมากขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมของบริษัทฯ ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมา โดยเหตุผลในการตัดสินใจ มาจากแบบบ้านเพื่อสุขภาพที่ดี ดีไซน์สวย โซลูชันและนวัตกรรมของการก่อสร้างที่ทันสมัย ตลอดจนบริการหลังการขายที่ครบวงจร
“ผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการทำงานโดยมีเป้าหมายที่ความสำเร็จและความก้าวหน้าของอาชีพ ในขณะเดียวกันก็ต้องการพื้นที่พักผ่อน เพื่อสร้างสมดุลให้กับชีวิตจึงมองหาบ้านที่มีสไตล์ พื้นที่ใช้สอยที่กว้างขึ้น และใช้งานได้จริง รวมทั้งนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้ชีวิตสะดวกสบาย และมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งทางเอสซีจี ไฮม์ มีแบบบ้านที่ตอบรับความต้องการของลูกค้าในราคาเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท” วีระเดช กล่าว
ทั้งนี้ เอสซีจี ไฮม์ มีแบบบ้าน มากกว่า 150 แบบ ที่รองรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ ในขณะเดียวกันยังมีการออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้สอดรับกับแต่ละช่วงวัยด้วย ล่าสุด ยังพัฒนาแบบบ้านใหม่ในสไตล์โมเดิร์น (Modern), คอนเทมโพรารี่ (Contemporary) และอเมริกัน คอทเทจ (American Cottage) ให้ได้เลือกอีกด้วย
นอกจาก การก่อสร้างบ้านแล้ว เอสซีจี ไฮม์ ยังได้พัฒนาเทคโนโลยีที่ดีต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ซึ่งนับได้ว่า ผู้บริโภคให้การตอบรับเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันได้มีการอัพเกรดระบบ Air Factory เป็น Air Factory Plus ช่วยให้สมาชิกทุกคนในบ้านมีสุขภาพที่ดีจากคุณภาพอากาศที่สะอาด ลดปริมาณเชื้อโรค ไวรัส เชื้อรา ฟอร์มาดีไฮด์ และสารก่อภูมิแพ้ที่เกิดจากไรฝุ่นก่อนหมุนเวียนเข้าสู่บ้านพักอาศัย
วีระเดช โกวพัฒนกิจ ผู้จัดการการตลาด บริษัท เอสซีจี เซกิซุย-เซลส์ จำกัด ผู้ให้บริการรับสร้างบ้าน เอสซีจี ไฮม์ (SCG HEIM) เผย แนวโน้มความต้องการสร้างบ้านในกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีมากขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมของบริษัทฯ ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมา โดยเหตุผลในการตัดสินใจ มาจากแบบบ้านเพื่อสุขภาพที่ดี ดีไซน์สวย โซลูชันและนวัตกรรมของการก่อสร้างที่ทันสมัย ตลอดจนบริการหลังการขายที่ครบวงจร
“ผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการทำงานโดยมีเป้าหมายที่ความสำเร็จและความก้าวหน้าของอาชีพ ในขณะเดียวกันก็ต้องการพื้นที่พักผ่อน เพื่อสร้างสมดุลให้กับชีวิตจึงมองหาบ้านที่มีสไตล์ พื้นที่ใช้สอยที่กว้างขึ้น และใช้งานได้จริง รวมทั้งนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้ชีวิตสะดวกสบาย และมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งทางเอสซีจี ไฮม์ มีแบบบ้านที่ตอบรับความต้องการของลูกค้าในราคาเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท” วีระเดช กล่าว
ทั้งนี้ เอสซีจี ไฮม์ มีแบบบ้าน มากกว่า 150 แบบ ที่รองรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ ในขณะเดียวกันยังมีการออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้สอดรับกับแต่ละช่วงวัยด้วย ล่าสุด ยังพัฒนาแบบบ้านใหม่ในสไตล์โมเดิร์น (Modern), คอนเทมโพรารี่ (Contemporary) และอเมริกัน คอทเทจ (American Cottage) ให้ได้เลือกอีกด้วย
นอกจาก การก่อสร้างบ้านแล้ว เอสซีจี ไฮม์ ยังได้พัฒนาเทคโนโลยีที่ดีต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ซึ่งนับได้ว่า ผู้บริโภคให้การตอบรับเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันได้มีการอัพเกรดระบบ Air Factory เป็น Air Factory Plus ช่วยให้สมาชิกทุกคนในบ้านมีสุขภาพที่ดีจากคุณภาพอากาศที่สะอาด ลดปริมาณเชื้อโรค ไวรัส เชื้อรา ฟอร์มาดีไฮด์ และสารก่อภูมิแพ้ที่เกิดจากไรฝุ่นก่อนหมุนเวียนเข้าสู่บ้านพักอาศัย
“ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน นอกจากบ้านดีไซน์สวย และก่อสร้างได้มาตรฐานแล้ว ยังต้องมีเรื่องของบริการภายหลังลูกค้าเข้าอยู่ด้วยซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญ ทั้งการบำรุงรักษาซ่อมแซมและติดตั้ง และผลจากการสอบถามความพึงพอใจลูกค้าที่ใช้บริการต่างก็ให้ความเห็นว่า บริการส่วนนี้เป็นที่ต้องการอย่างมากของลูกค้า เพราะทำให้หมดปัญหาเรื่องการติดต่อหาช่างที่ไว้ใจมาทำงาน” วีระเดช กล่าว